ตลาดกลับมากังวลดอกเบี้ยอีกครั้ง ส่วนส่งออกไทยดีกว่าตลาดคาด

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 1.5% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯอาจจะตรึงดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.6% กังวลว่าดอกเบี้ยที่อยู่ระดับสูงจะกดดันอุปสงค์

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานดัชนิผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้น (Flash PMI) ทั้งภาคบริการและภาคผลิตพับว่าออกมาดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ ทั้งคู่และเกินกว่าระดับ 50 โดยเฉพาะภาคบริการออกมาที่ 54.8 สูงกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 51.2 นอกจากนี้ยังได้รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าที่คาดการณ์ แต่ยอดขายบ้านมือหนึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ แต่สุดท้ายแล้วนักลงทุนให้น้ำหนักกับดัชนี PMI เพราะเห็นการเร่งตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2, 10 ปี พร้อมกับ Dollar Index พลิกกลับมาแข็งค่า ส่วนความเห็นจาก CME FED Watch กลับมาให้น้ำหนักที่ FED จะคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย. ก.ค. รวมไปถึงเดือน ก.ย. กลับมาให้น้ำหนักคงดอกเบี้ยจากเดิมคาดว่าจะลดดอกเบี้ย สะท้อนถึงความไม่มั่นใจของตลาดเกี่ยวกับภาวะดอกเบี้ย และอีกนัยยะกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าทดสอบระดับ 36.65 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ จากก่อนหน้าที่ 36 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ ภาพรวมมองเป็นปัจจัยกดดันระยะสั้นต่อทุกๆสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ใกล้ชิดเพื่อรอดูทิศทางดอกเบี้ย โดยคืนนี้จะมีคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ ที่ -0.9%MoM และคำสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.1%MoM หากรายงานแย่กว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น

ส่วนปัจจัยในประเทศวานนี้กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออกประจำเดือนเม.ย. พบว่าขยายตัว 6.8%YoY ดีกว่าคาดการณ์ที่ -0.2%YoY พร้อมกับการนำเข้าขยายตัว 8.3%YoY ดีกว่าคาดการณ์ที่ 5%YoY ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าการส่งออกไทยที่กลับมาขยายตัวสอดคล้อง กับมุมมองของ IMF ที่ระบุว่าเศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวที่ดีจากเงินเฟ้อ เฉลี่ยของโลกที่ชะลอตัวลงหนุนความเชื่อมั่นและภาคผลิต และหากหักสินค้าเกี่ยวข้องกับน้ำมัน ทองคำและยุทธปัจจัยการส่งออกจะขยายตัว 11.4%YoY สินค้าเกษตรที่ขยายตัวได้ดีมีดังต่อไปนี้ ยางพารา (+36%YoY) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (+15%YoY) อาหาร สัตว์เลี้ยง (+53%YoY) ไก่แปรรูป (+17%YoY) รวมไปถึงรถยนต์และส่วนประกอบ (+20%YoY) มองเป็นบวกกับหุ้นอย่าง (CPF CBG GFPT ITC ICHI TU)

วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1360 – 1380 เชิงกลยุทธ์การลงทุนคงคำแนะนำทยอยสะสมเช่นเดิม เพราะ Valuation ที่น่าสนใจ แนะนำกลุ่มค้าปลีก (CPALL DOHOME HMPRO GLOBAL) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ส่งออก (ITC TU)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 18.10 บาท)

รายงานกำไรสุทธิงวด 1Q24 ที่ 1,153 ล้านบาท (+13% YoY) ถ้าไม่รวมรายการพิเศษกำไรปกติจะอยู่ที่ 910 ล้านบาท (+13%YoY, -25%QoQ) ใกล้เคียงที่เราคาดไว้ โตจากปีก่อนเพราะการฟื้นตัวของธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปและอาหารสัตว์เลี้ยง รวมกับกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นเป็น 17% จาก 15%

ITC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 26.20 บาท)

แนวโน้มช่วง 2Q24 ทาง ITC มีคำสั่งซื้อจากลูกค้าแล้วประมาณ 94% ของเป้าที่คาดไว้ (จากการเติบโตระดับ 15% YoY) ซึ่งเพิ่มจาก 60% ณ วันที่เราออกรายงานฉบับก่อนไป ซึ่งคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากคำสั่งซื้อที่เลื่อนมาจาก 1024 และสินค้าใหม่ที่ ITC มีการร่วมคิดบลูกค้า ที่จะทยอยส่งมอบในช่วง 2024 เป็นต้นไป ซึ่งในช่วง 2H24 ยังคงมีสินค้าใหม่ที่มีกำหนดเปิดตัวและส่งมอบให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราคาดว่าจะเห็นการเติบโตของรายได้เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าได้ตลอดทั้งปี

Daily Strategy – บล.พาย: 24/05/67

- Advertisement -