คุณปู่อาจอยู่ในกรอบเดิม / 1,340-1,355

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET อาจไม่ไปไหน: โดยมองน้ำหนักปัจจัยลบกดดันทางขึ้นยังมีมากกว่าบวก นำโดย 1) การปรับดัชนี MSCI ซึ่งจะใช้ราคาปิดในวันนี้ในการคำนวณ คาดอาจมีแรงขายเข้ามากดดันหุ้นที่ถูกลดขั้นจาก Global Standard ไปยัง Global Small Cap ได้แก่ MTC BTS และ LH 2) Sentiment ลบกดดันจากกายนอกหลังตัวเลข GDP สหรัฐใน 1Q67 ออกมาขยายตัวเพียง 1.7%q-q ต่ำกว่าที่ตลาดคาดจะขยายตัว 2% ภาพดังกล่าวได้ชี้นำการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งอาจต้องได้รับการกระตุ้นจากนโยบายการเงินผ่านการลดดอกเบี้ย แต่มองตลาดจะให้น้ำหนักกับตัวเลข PCE และ Core PCE สหรัฐเดือน เม.ย. ในคืนนี้ที่คาดคงตัวจากเดือนก่อนที่ระดับ 2.7 และ 2.8% ตามลำดับ ซึ่งดูมีน้ำหนักต่อการตัดสินใจของเฟตมากกว่า โดยหากออกมาตามคาดอาจสร้างความกังวลการตรึงดอกเบี้ยยาวนาน เนื่องจากเลข PCE ที่ 2.7%y-y เป็นการคงตัวต่อเป็นเดือนที่ 2 หลังปรับขึ้นจากระดับ 2.4% y-y ในเดือน ก.พ.สะท้อนภาพเงินเฟือจากพลังงานที่ยังคงอยู่ อาจทำให้แฟดต้องการข้อมูลเพิ่มในการตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ย 3) การปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ WTI สู่ระดับ 77.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แพ้ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐออกมาที่ -4.156 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าคาดที่ -1.9 ล้านบาร์เรล แรงขายอาจมาจากการปิดสถานะในสัญญาฟิวเจอร์น้ำมันดิบเพื่อลดความผันผวนก่อนถึงการประชุม OPEC+ 4) เข้าสู่ช่วงคามเกี่ยววันหยุดยาว 3 วันของไทย อาจมีแรงขายเข้ามาเพื่อลดความเสี่ยง ด้านปัจจัยบวกมาจาก ก.คลังเตรียมเสนอกฎหมายเก็บภาษีสินค้านำเข้ามูลค่าไม่เกิน 1500 บาท และเคาะเห็นชอบงบประมาณ 1.22 แสนล้านบาทสำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในการประชุมสัปดาห์หน้า คาดเป็นบวกต่อหุ้นค้าปลีกและท่องเที่ยว ปัจจัยอื่นติดตามตัวเลข Non-Manufacturing และ Service PMI จีนคาดออกมาที่ 50.5 และ 51.5 จุด และตัวเลข CPI เดือน เม.ย.ยูโรโซน คาด +2.5%y-y (เดือนก่อน +2.4%y-y) แต่มองตลาดจะให้น้ำหนักกับการลดดอกเบี้ยของ ECB มากกว่า
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) Spending : CPALL, CPAXT, BJC, CPN, OSP, NSL, TACC 2) Defensive Play: CHG, PR9 3) ศก.ยุโรปฟื้น: GFPT, MINT, XO 4) หวังศก.จีนฟื้น: TTA, PSL,RCL,PRM, SCGP,IVL, PTTGC, NER, STA และ 5) Selective : TRUE, SAFE, PTG, OR

ปัจจัยบวก

  • รมช.คลัง เปิดเผยว่า เตรียมเสนอเรื่องการแก้ไขกฎหมายการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยสร้างความเป็นธรรมให้ภาคเอกชนที่นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ รวมถึงผู้ประกอบการ SME ไทยที่อยู่ภายใต้พื้นฐานของกฎหมายของภาษีเดียว
  • สศค.เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนพ.ค. 67 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้าที่ยังขยายตัวได้แต่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยยังมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการโดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคใต้
  • บริษัท China Vanke ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ อันดับ 2 ของจีน อยู่ในระหว่างการขอเจรจารับเงินสินเชื่อราว 5 หมื่นล้านหยวน หากได้รับอนุมัติจะเป็นสินเชื่อค้อนใหญ่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหากดีลดังกล่าวประสบความสำเร็จ จะทำให้บริษัทรอดพันจากการผิดนัดชำระครั้งใหญ่สุด

ปัจจัยลบ

  • คบน.ปรับเพิ่มราคาน้ำมันดีเซลอีก 50 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 32.94 บาทต่อลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.2567 เพิ่มต้นทุนการขนส่งให้ระบบเศรษฐกิจ และอาจสร้างความคังวัลถึงเงินเฟ้อที่อาจตามมา
  • โตโยต้า มอเตอร์ เผยข้อมูลการผลิตทั่วโลกในเดือนเม.ย. ลดลง 4.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 756,254 คัน ซึ่งนับเป็นการลดลงเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
  • สศอ. ปรับประมาณคารดัชนี MP1 ปี 2567 อยู่ที่ขยายตัว 0.0-1.0% จากประมาณการเดิมขยายตัว 2.0 – 3.0% ด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ภาคอุตสาหกรรม ปี 2567 คาดขยายตัว 0.5-1.5% จากประมาณการครั้งค่อนคาดว่าจะขยายตัว 2.0- 3.0%
  • NATO ได้จัดการซ้อมรบครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็น โดยส่งคำเตือนถึงปูตินให้อยู่ห่างๆ ขณะที่ยูเครนกำลังต่อสู้ในสงครามจริง และยังมีแนวโน้มลุกลามออกไป โดย NATO ย้ำ หากสมาชิกร้ายใดถูกคุกคามจะพร้อมโจมตีกลับ

PICKS OF THE DAY

PRM BUY

  • เป้าหมาย 8.10 / 8.40 แนวรับ 7.70
  • แนวโน้ม 2Q67 คาดกำไรโต q-q, y-y: จาก 1Q67 ที่กำไรออกมาดี ใน 2Q67 แนว โน้มจะดีขึ้น จากเรือใหม่ 2 ลำที่รับ 1Q67 และอีก 2 ลำรับ 2Q67 จะทำให้กองเรือเพิ่มขึ้น และเรือใหญ่ 3 ลำ ที่เข้าอู่ 1Q67 ใน 2Q67 กลับมาทำงานได้หมดแล้ว อีกทั้งการใช้น้ำมันในประเทศสูงขึ้น โดย เฉพาะน้ำมันเครื่องบิน ทำให้การขนส่งเพิ่มขิ้น และเรือ FSU ความต้องการเก็บน้ำมันกลับมาดีขึ้น ทำให้กำไร 2Q67 จะโตทั้ง q-q, y-y
  • 2H67 ยังดีและมีรับเรือเพิ่ม: ภาพ 2H67 ยังดีต่อเนื่องจาก 2Q67 อีกทั้งจะมีรับเรือ FSU ที่เป็นเรือใหญ่ 1 ลำคาดอยู่ใน 3Q67 มีลูกค้ารอใช้บริการแล้ว และอยู่ระหว่างจัดหาเรือขนส่งน้ำมันดิบ 1 ลำ ให้ลูกค้ถ้าได้เร็วจะเป็น upside เพิ่ม รวมถึงหาโอกาสเพิ่มเรือปิโตรเคมีและกลุ่มเรือสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ตลาดยังมีความต้องการ

PTG BUY

  • เป้าหมาย 8.80 / 9.00 แนวรับ 8.30
  • ยอดขายยังโตต่อเนื่อง : มุมมองยอดขายในไตรมาส 2 คาดว่าจะยังโตได้จากปัจจัยด้านความต้องการใช้น้ำมันดีเซลที่จะเพิ่มขึ้นได้ในฤดูเพาะปลูก น่าจะช่วยหนุนยอดขายของบริษัทใน 2Q67 นี้ เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนการขายน้ำมันดีเซลกว่า 73% ของปริมาณการขายน้ำมันทั้งหมด
  • ค่าการตลาดผ่อนคลายขึ้น : กำไรขั้นต้นต่อลิตรนั้นมีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการประกาศเลิกตรึงราคาน้ำมันดีเซลจากเดิมไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นไม่เกิน 33 บาท ต่อลิตร และล่าสุดกบน.ได้ปรับเพิ่มราคาดีเซลขึ้นอีก 50 สตางค์ เป็น 32.94 บาทต่อลิตร ทำให้คาดว่าการปรับค่าการตลาดน่าจะผ่อนคลายและปรับเพิ่มได้มากขึ้น

 

- Advertisement -