ธนาคารกลางยุโรปปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 5 ปี

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.2% ปัจจัยบวกยังคงมาจากเรื่องการผ่อนคลายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยนักลงทุนรอติดตามการจ้างงานในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.86% หลังจาก ECB ปรับลด ยุโรปหนุนให้ FED ปรับลดและจะช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมัน

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ เปิดเผยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.29 แสนราย สูงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 2.2 แสนราย สะท้อนถึงปัจจัยหนุนกับตลาดหุ้นเพราะการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ภายหลังจากทราบข้อมูลข้างต้นพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2, 10 ปีปรับลงต่อเนื่อง พร้อมกับการอ่อนค่าของ Dollar Index โดยความเห็นจาก CME FED Watch ล่าสุดให้น้ำหนักประชุม FED เดือนกันยายนปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ด้วยโอกาส 55% ปรับเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้าที่ 42% ขณะที่โอกาสคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ค. เริ่มน้อยลงเหลือ 78% จากก่อนหน้าที่ระดับ 95% ในขณะเดียวกันเมื่อคืนที่ผ่านมาที่ประชุมธนาคารกลางยุโรปปรับลดดอกเบี้ย 0.25% เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี หนุนตลาดหุ้นฝั่งยุโรปปรับขึ้นเด่นเมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อประกอบกับธนาคารกลางแคนาดาที่ปรับลดดอกเบี้ยไปก่อนหน้า จึงเชื่อว่านักลงทุนจะพิจารณามากขึ้นเกี่ยวกับดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย คงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยลงอย่างการเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ด้านปัจจัยในประเทศรอติดตามเงินเฟ้อไทยประจำเดือน พ.ค. Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.2%YoY , 0.3%MoM และเงินเฟ้อพื้นฐาน Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.4%YoY หากรายงานแย่กว่าคาดการณ์จะเป็นบวกกับค่าเงินและตลาดหุ้น ปัจจัยติดตามคืนนี้ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.86 แสนราย และ 3.9% ตามลำดับ หากแย่กว่าคาดจะเป็นบวกกับตลาดหุ้น

วันนี้ประเมิน SET INDEX แกว่งในกรอบ 1320 – 1340 วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับลงสวนทางกับภูมิภาค สะท้อนว่าเกิดจากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก ซึ่งเป็นไปได้ทั้งเรื่องการเมืองรวมไปถึงการมีปัญหากันระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยกับรัฐบาล ซึ่งเชื่อว่าเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต่างประเทศกำลังให้น้ำหนัก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าท้ายที่สุดจะมีทางออกที่ดีทั้ง 2 เรื่องที่กล่าวมา ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุนด้วยระดับ Valuation ที่น่าสนใจจึงยังแนะทยอยสะสมเช่นเดิมเน้นที่กลุ่มค้าปลีก (CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ส่งออก (ITC TU) สื่อสาร (ADVANC) อสังหาริมทรัพย์ (AP SPALI)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 195.00 บาท)

รายงานกำไรสุทธิใน 1Q24 ที่ 1.87 หมื่นล้าน (-3% YoY, +2%QoQ) ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด โดยปริมาณการขายทรงตัวที่ 473 KBOED (+3%YoY, 0% QoQ) เนื่องจากการผลิตก๊าซจากแหล่งเอราวัณปรับสูงขึ้น (ราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่าแบบสัมปทานเดิม) หักลบกับ Algeria HBR ที่ปริมาณการขายลดลง ในขณะที่ราคาเฉลี่ย (ASP) อยู่ที่ 47.2 USS/BOE (-6%YOY, -2%QoQ) ตามราคาก๊าซและ น้ำมันที่ปรับตัวลง โดยแนวโน้มในไตรมาสถัดไปคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามราคาน้ำมัน (1Q24: 81.7 USS/bbl, 2QTD : 87.8 USS/bbl) และปริมาณการขายที่สูงขึ้นจากแหล่งผลิตในไทยและเมียนมา

MTC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 48.25 บาท)

ผลการดำเนินงานใน 1Q24 ออกมาตามคาดมีกำไรสุทธิที่ 1.4 พันล้านบาท (+29.8% YoY, +2.8% QoQ) อยู่บนเส้นทางการฟื้นตัว ขณะทึ่งบดุลแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ NPL ratio ปรับลดลงเหลือ 3%และ Coverage ratio ปรับขึ้นเป็น 120.9% เอื้อต่อการผ่อนคลายนโยบายสำรองหนี้ฯ ในอนาคต

- Advertisement -