JSP เปิดเกมรุกการตลาดเพื่อความยั่งยืน เจาะผู้สูงวัย หนุนรายได้ 5 เดือนทะลุ 300 ลบ. ครึ่งปีหลังเล็งเปิดโมเดลธุรกิจเพื่อผู้ป่วยไตครบวงจรเพิ่มจำนวนคลินิกฟอกไตใกล้ชุมชุน
ธุรกิจผู้สูงอายุมาแรง! JSP โกยรายได้ 5 เดือน ทะลุ 300 ล้านบาท ปรับเป้าหมายทั้งปีเป็น 800 ล้านบาท หลังประสบความสำเร็จปรับกลยุทธ์งานขายเจาะกลุ่มสูงวัย กระแสตอบรับ “แม่อี๊ด ดวงใจ” ล้นหลาม ครึ่งปีหลังเล็งขยายแผนการตลาดในบริษัทลูก “เกรซ วอเทอร์ เมด” ผู้ผลิตน้ำยาฟอกไต โดยผลักดันให้เป็นธุรกิจด้านการฟอกไตครบวงจร ทั้งการนำเข้าเครื่องฟอกไตและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เตรียมเปิดตัวอาหารเสริมแบรนด์ใหม่ เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไต หวังช่วยกระตุ้นภาวะจิตใจผู้ป่วยให้ฟื้นฟูผ่านอาหารเสริมรสชาติถูกปากคนไทย พร้อมเปิดโมเดลธุรกิจใหม่แบบ B2B ให้เช่าอุปกรณ์เปิดคลินิกฟอกไตสำหรับศูนย์เปิดใหม่ หนุนชุมชนเข้าถึงคลินิกฟอกไตได้ง่ายขึ้น ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางและการดูแลผู้ป่วยฟอกไต ล่าสุดกางแผนเตรียมส่ง เกรซ วอเทอร์ เมด เข้าระดมทุนในตลาดหุ้น
นายพิษณุ แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานขายและการตลาด บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (JSP) เปิดเผยว่า ในปี 2567 JSP ได้ปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ โดยได้มุ่งไปยังตลาดกลุ่มเป้าหมายผู้สูงวัยเป็นหลัก รองลงมาคือ กลุ่มวัยทำงาน ซึ่งในปี 2567 บริษัทได้เพิ่มงบการตลาดเป็น 50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน โดยในครึ่งปีแรกได้ใช้งบการตลาดไปแล้ว 10 ล้านบาท งบประมาณหลักๆที่ใช้ไปมาจากการแต่งตั้ง “แม่อี๊ด ดวงใจ หทัยกาญจน์” เป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งพบว่าได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าผู้สูงวัยเกินคาด ส่งผลให้ 5 เดือนแรก บริษัทมียอดขายประมาณ 300ล้านบาท และจากแนวโน้มที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องส่งผลให้บริษัทได้ปรับเป้าหมายยอดขายของปีนี้จาก 700 ล้านบาท เป็น 800 ล้านบาท
“ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่า 13 ล้านคน คิดเป็น 19% ของประชากรทั้งหมด ถือว่าได้ก้าวเข้าสู่ “สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์” (Aged Society) already และคาดการณ์ภายในปี 2573 จำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง มีประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไป มากกว่า 20% ของประชากร กลายเป็น “สังคมสูงอายุระดับสุดยอด”(Super-Aged Society) และยังพบแนวโน้มคนไทยอายุยืนมากขึ้น JSP ที่มีจุดแข็งคือเป็นโรงงานผลิตยาและอาหารเสริม ที่มีสินค้าจากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจึงเข้ามาจับตลาดกลุ่มนี้อย่างเต็มรูปแบบ” นายพิษณุ กล่าว
อย่างไรก็ดี JSP จะไม่เน้นการตลาดแบบขายสินค้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะขยายไปสู่ภาคบริการด้วยการยกระดับบริการของธุรกิจในเครือที่มีอยู่ให้กลายเป็นตัวทำรายได้ที่สำคัญของบริษัทควบคู่กันไป เริ่มจากปีนี้จะเน้นการนำสินค้าเข้าไปขายผ่านบริษัท เกรซ วอเทอร์ เมด จำกัด (GWM) บริษัทลูกของ JSP ดำเนินธุรกิจโรงงานผลิตน้ำยาล้างไต (A-B Solution) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาสำหรับผู้ป่วยฟอกไต เครื่องฟอกไตเทียม เข็มต่อสายฟอกเลือด และอุปกรณ์การแพทย์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเลือด นอกจากนี้ GWM ยังถือหุ้นในบริษัท วารี เมดิคอล จำกัด ดำเนินธุรกิจการติดตั้งระบบน้ำ และจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องกรองน้ำและติดตั้งระบบน้ำบริสุทธิ์ให้ศูนย์ฟอกไตของ GWM และลูกค้าทั่วไป โดย JSP จะใช้กลยุทธ์การผลิตอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยโรคไตโดยเฉพาะ เพื่อไปวางจำหน่าย ในศูนย์ฟอกไต ที่ปัจจุบันGWMมีเครือข่ายปัจจุบันมากกว่า100ศูนย์
ทั้งนี้การผลิตอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยโรคไตนั้นถือว่าเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วนในสังคม เนื่องจากปัจจุบันผู้ป่วยโรคไตมีความยากลำบากในการเลือกบริโภคอาหาร และการบริโภคอาหารได้ไม่กี่ประเภทจะทำให้เกิดความจำเจ ซึ่งงานวิจัยจากต่างประเทศนั้นพบว่าการบริโภคอาหารมีผลต่อจิตใจของผู้ป่วย แต่ JSP มีแผนที่จะผลิตอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตที่มีรสชาติถูกปากคนไทยซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ป่วยมีสภาพจิตใจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
นอกจากนี้ JSP จะดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างความยั่งยืนในสังคมผ่านการเจาะกลุ่มแพทย์ที่มีความสนใจและมีศักยภาพในการเป็นศูนย์ฟอกไต ด้วยการทำธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์เกี่ยวกับศูนย์ฟอกไต น้ำยาฟอกไต และเวชภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการดำเนินธุรกิจรูปแบบนี้จะทำให้ JSPสามารถเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของ JSP ขณะเดียวกันยังช่วยให้ประเทศไทยมีคลินิกฟอกไตมากขึ้น สามารถอยู่ใกล้ชิดชุมชน ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับผู้ป่วยประโยชน์กับผู้ป่วยในการเดินทางมาฟอกไต ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าประชากรไทยประมาณ 1.06 ล้านคน ในจำนวนนี้ 220,000 คน อยู่ในระยะสุดท้าย ต้องการฟอกไตหรือล้างไตทางช่องท้อง แนวโน้มผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ปัจจัยนี้ส่งผลกระทบ ต่อภาพรวมเศรษฐกิจ กำลังแรงงานลดลง เนื่องจากต้องมีผู้ดูแล แต่ถ้าหากกลยุทธ์ของ JSP ช่วยให้ชุมชนมีคลินิกฟอกไตได้อย่างทั่งถึง ก็จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับการดูแลผู้ป่วยได้อย่างมาก
สำหรับ บ. เกรซ วอเทอร์ เมด ตั้งเป้ารายได้จากการผลิตนำยาฟอกไตและเครื่องมือแพทย์ปี 2567 จำนวน150 ล้านบาท ปัจจุบันให้บริการครอบคลุมศูนย์ไต 120 แห่ง มีเพิ่มขึ้นจาก ปี2566 ที่มี100ศูนย์ คิดเป็น 10 % ของศูนย์ฟอกไตทั่วประเทศไทยที่มีอยู่ ราว 1,200 แห่ง โดยบริษัทตั้งเป้าจะขยายศูนย์ฟอกไตเพิ่มขึ้น 10% จากยอดเดิมในทุกๆ ปี และบริษัทยังมีแผนมีเป้าหมายนำ บ. เกรซ วอเทอร์ เมด เข้าจะจดทะเบียนในตลาด LiVEx ในเร็วๆนี้