Daily Focus: Selective Play

2024 SET Target : 1470

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งแคบออกด้านข้าง สะท้อนหลายปัจจัยที่ยังไม่ชัดเจน และต้องรอผลสิ้นวันดัชนีปิดลบไป 2.47 จุด ปิดที่ระดับ 1,316.10 จุด ทำ Low ใหม่ต่อเนื่อง ถ่วงจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารและพลังงาน นักลงทุนขายลดความเสี่ยง ก่อนรู้ผลประชุม FED รวมถึงความไม่แน่นอนของการเมืองในประเทศ Sector ที่แข็งแกร่งกว่าตลาด ได้แก่ การแพทย์ ICT รับเหมาก่อสร้าง สถาบันในประเทศยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอีก 1.3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 14 อีก 3.2 พันลบ. (แต่พลิกมา Long Index Futures 1.9 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะยังแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,310-1,320 จุด เนื่องจากมีหลายปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในวันนี้ ได้แก่ การประชุมกนง. เราคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.5% ที่ต้องติดตามประมาณการเศรษฐกิจว่าจะมีการขยับหรือไม่ รวมถึงถ้อยแถลงเกี่ยวแนวโน้มการท่านโยบายการเงิน ส่วนการเมืองติดตามศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดียุบ/ไม่ยุบพรรคก้าวไกล ส่วนปัจจัยต่างประเทศโฟกัสหลักอยู่ที่ฝั่งสหรัฐฯ ทั้งการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ CPI เดือน พ.ค. ตลาดคาด Core +0.3% m-m, +3.5% y-y ซึ่งหากตัวเลขออกมาสุงหรือต่ำกว่าคาด จะมีผลต่อคณะกรรมการ FED ในการประชุมคืนนี้โดยเฉพาะ Dot Plot ว่าจะมีการขยับจากเดือน มี.ค. ที่มองลดดอกเบี้ยในปี 2024-26 ปีละ 3 ครั้งอย่างไร ภาพรวมจึงมองการเคลื่อนไหวของดัชนีจำกัดวันนี้ รวมถึงยังไม่ความไม่แน่นอนจากปัจจัยการเมืองในประเทศโดยเฉพาะคดีของนายกฯซึ่งต้องรอศาลวินิจฉัยว่าจะยังอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ กลยุทธ์ยังแนะนำ ถือลงทุนต่อเนื่องและเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและมีความเสี่ยงต่ำจากผลกระทบของ ปัจจัยในประเทศ

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นเป็นรายตัวที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและแนวโน้มเติบโตแกร่งกว่าตลาด // รอ ดูแรงซื้อจากฐานแนวรับถัดไปบริเวณ 1,300+- จุด

หุ้นเด่นเดือน มิ.ย.: CHG, CPALL, ITC, KCG, TFG

FSSIA Portfolio: AOT, BDMS, CPALL, CPN, GPSC, KCG, SHR, SJWD, TIDLOR, TU

หุ้นเด่นวันนี้ : INTUCH

  • แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 89.75 บาท
  • ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานเราคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q24-2H24 จะยังเห็นการเติบโตต่อเนื่องตาม ADVANC ที่ได้อานิสงส์จากการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่ลดลง รวมถึงอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลตอบแทนหลังผ่านช่วงลงทุนใหญ่ 4G/5G ในช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมา
  • ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด Discount จาก NAV ของ ADVANC ราว 9% ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย ราคา หุ้นยังมี Upside 25% เทียบกับราคาเป้าหมายจาก Consensus ส่วนทางเทคนิคยังดูมีโมเมนตัมบวกหลังราคาหุ้นปรับขึ้นทะลุเส้นตันทุนค่าเฉลี่ย 200 วันและการแกว่งพักตัวไม่หลุดจุด Breakout
  • แนวรับ 70-71 บาท แนวต้าน 74-75//77-78 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่นสุทธิ US$1,429 ล้าน เม็ดเงินไหลออกจากทุกประเทศนำโดยไต้หวัน US$1,088 ล้าน รองลงมาคือเกาหลีใต้ US$151 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลออกนำโดยไทยและเวียดนามประเทศละ US$73-87 ล้านแนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดผสมผสานและปริมาณไม่หนาแน่น โดยตลาดรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯและการประชุม FED โดยเฉพาะ Dot Plot คืนนี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) จับตาประชุมเฟดและประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐชุดใหม่ คืนนี้ ตลาดคาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25-5.5% แต่ที่สำคัญคือ Dot Plot จะขยับจากเดิมที่คาดลดดอกเบี้ย 3ครั้งปีนี้ ลงเหลือ 1 หรือ 2 ครั้งหรือไม่ หากลดลงเหลือ 2 ครั้งหรือเท่าเดิมจะเป็น Sentiment เชิงบวกกับตลาดทุนและตลาดเงิน และหากลดเหลือ 1 ครั้งก็จะส่งผลในเชิงลบต่อตลาดทุนและตลาดเงิน นอกจากนี้ตลาดยังคาดตัวเลข Core CPI เดือน พ.ค. ที่ตลาดคาด +3.5% y-y, +0.3% m-m เทียบกับ +3.6% y-Y, +0.3% m-m ในเดือน เม.ย. 2024

(+) TACC เราคาดกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 64 ลบ. +5% q-q, +18% y-y จากรายได้ที่คาดเติบโตต่อเนื่อง หนุนจากปัจจัยฤดูกาลและอากาศที่ร้อน รวมถึงการออกสินค้าใหม่ในเดือนพ.ค. ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% Y-Y หลักๆ มาจาการเติบโตของธุรกิจ B2B และยัง focus ที่การลดส่วนแบ่งขาดทุนบริษัทย่อย (HIP) ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจ แม้ momentum กำไรอาจไม่ตื่นเต้นใน 2H24 แต่ราคาหุ้นที่ปรับลงกว่า 10% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา น่าจะสะท้อนต้นทุนกาแฟที่สูงขึ้นไปแล้วและราคากาแฟโลกเริ่มปรับลง คงประมาณการและกำไร ราคาเป้าหมาย 6.30 บาท ฐานะการเงินแข็งแกร่ง Valuation ถูก เทรด PE เพียง 13 เท่าพร้อม Div. yield 7% ต่อปี ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

(0) THG เราเชื่อว่ากำไร 1Q24 ที่อ่อนแอจากค่าใช้จ่ายพิเศษเพียงครั้งเดียวในการปรับโครงสร้างโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมืองน่าจะเป็น bottom ของปีนี้ และคาดผลการดำเนินงานฟื้นตัวใน 2Q24 เป็นต้นไป EBITDA ของโรงพยาบาลธนบุรีจะเป็นบวกจากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างดังกล่าวลดลง และคาดว่า Operation ของโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมืองจะกลับมาเป็นปกติใน 2H24 ด้วยแผนธุรกิจใหม่และผู้บริการชุดใหม่ โดยรวมเราคาด THG จะมีรายได้ปี 2024 เติบโต 7% Y-Y อย่างไรก็ตามเราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2024-25 ลง 14-39% เพื่อสะท้อนงบ 1Q24 ที่อ่อนแอกว่าคาด ทำให้ปี 2024 คาดมีกำไรปกติ 0.5 พันลบ. เพิ่มขึ้นจาก 0.3 พันลบ. ใน 2023 ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 40 บาท แต่ Valuation ยังแพง คงคำแนะนำ “ถือ”

(0) คาดการณ์หุ้นเข้า-ออก SET50/SET100 งวด 2H24 สำหรับ SET50 คาดหุ้นเข้า BJC TIDLOR ITC BCP หุ้นออก BANPU COM7 SAWAD KCE // ส่วน SET100 คาดหุ้นเข้า BA BJC CKP EPG JAS JTS MBK QH SKY ออก BYD FORTH MOSHI NEX ORI RCL SNNP THG TKN

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 120.62 จุด หรือ -0.31% ปิดที่ 38,747.42 จุด แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นแอปเปิ้ล ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI และผลการประชุมของเฟด ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ นำโดยตลาดหุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรปที่ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในฝรั่งเศส ขณะที่ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ในสัปดาห์นี้

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดผสม ก่อนการรายงานดัชนีเงินเฟ้อของจีนและอินเดีย

(0) ค่าเงินบาททรงตัว อยู่ที่บริเวณ 36.73 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.03%

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.21% ปิดที่ 77.90 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก EIA ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้ ขณะที่กลุ่มโอเปก ยังคงคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันที่แข็งแกร่งในปีนี้ในขณะที่เช้านี้บวกอยู่ที่ระดับ 78.18 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.36%

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 2,326.60 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐ และผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ในขณะที่เช้านี้ลบอยู่ที่ระดับ 2,329.20 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.11%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 830.78/ -0.59%

- Advertisement -