ความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยปรับลงต่อเนื่องสามเดือน
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 0.17% แต่ดัชนี S&P500 , Nasdag ปิด New High ติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ได้แรงหนุนหลักจากหุ้นกลุ่ม Technology หลังจากสหรัฐฯ รายงาน ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานมากกว่าที่ตลาดคาด ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.2% ได้แรงหนุนหลักจากการที่กลุ่ม OPEC+ คาดว่าอุปสงค์น้ำมันจะปรับตัวขึ้น
Market Outlook
เมื่อวานที่ผ่านสหรัฐฯรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.42 แสนรายแย่กว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 2.25 แสนราย พร้อมกับรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยายตัวเพียง 2.2%YoY ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 2.5%YoY โดยรวมแล้วจากตัวเลขเศรษฐกิจที่รายงานออกมากดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2.10 ปี ปรับตัวลงและ CME FED Watch กลับมาให้น้ำหนักมากขึ้นราว 61% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน สะท้อนถึงการผ่อนคลายนโยบายการเงินจากความคิดของนักลงทุน ช่วงสั้นๆประเมินเป็นบวกกับกลุ่มการเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ส่วนปัจจัยในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ ที่มีนัยสำคัญ นักลงทุนรอติดตามสถานการณ์การเมืองในสัปดาห์หน้า ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาพรรคก้าวไกล รวมไปถึงคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เชื่อว่าหากสถานการณ์การเมืองมีความชัดเจนมากขึ้นไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม เชื่อว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวก หลังจากนั้น ส่วนเมื่อวานมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน พ.ค. พบว่าปรับลง 3 เดือนติดต่อเนื่องจากผู้บริโภคกลับมากังวลกับการเมือง โดยประเมินว่าขาดเสถียรภาพหลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ 40 สว.เกี่ยวกับคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีและกังวลเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงและฟื้นตัวช้า อย่างไรก็ตามไม่มีผลกับการลงทุนมาก เชื่อว่าตลาด Price In ปัจจัยข้างต้นไปมากแล้ว โดยปัจจัย ติดตามคืนนี้ ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ จากมหาวิทยาลัยมิชีแกน Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 72
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1300 – 1320 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำทยอยสะสมเพื่อรอการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง แนะนำกลุ่มค้าปลีก (CPALL CRC DOHOME GLOBAL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB TTB) กลุ่มการเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ส่งออก (ITC TU) เครื่องดื่ม (ICHI TACC) ขนส่ง (BEM)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
HMPRO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 13.90 บาท)
การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วงเดือน พ.ค. เริ่มดูดีขึ้นจากสภาพอากาศที่ร้อนกว่าปีที่แล้ว เห็นได้จากคิวรอติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว โดยเราคาดว่า SSSG ช่วง 2024 จะทรงตัวถึงติดลบเพียงเล็กน้อย แม้ว่า SSSG เดือน เม.ย. 2024 ของ HomePro ติดลบ 6% Mega Home +0.5% และ HomePro Malaysia -12% จากปัจจัยเฉพาะตัว โดยเราคาดเห็นการฟื้นตัวชัดเจนในช่วง 2H24 จากการเพิ่ม สินค้าใหม่และช่องทางจัดหน่าย รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 74.00 บาท)
ภาพรวมช่วง FY2H24 คาดว่าอาจจะเห็นการชะลอตัวจาก FY1H24 เพราะเริ่มเข้าสู่ช่วง Low Season ของการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามหากเทียบกับปี 23 คาดยังเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่องเพราะได้รับผลดีจากมาตรการฟรีวีซ่าประเทศจีนที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 24 ที่ผ่านมา