บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์ สรุปประเด็น SET วันที่ 17/6/24
SET Index ปรับลงและหลุด 1300 จุด -9.9 จุด -0.76% ปิดที่ 1296.5 จุด (ต่ำสุดในรอบราว 4 ปี)แรงกดดันมาจากนักลงทุนกังวลการเมืองภายใน โดยวันนี้มีปัจจัยบวกจากประเด็นข่าวตลาดหลักทรัพย์เผยมาตรการเพิ่ม Uptick Rule รายหลักทรัพย์ที่จะมาใช้แทน Zero-plus Tick เริ่มใช้ 1 ก.ค. 2567 โดยวันนี้มูลค่าการซื้อขายโดยรวมอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 113 บริษัท จำนวนหุ้นปรับลง 419 บริษัท) โดย Sector ที่ปรับขึ้นหนุนดัชนีหลักๆ คือ กลุ่มการเงิน TIDLOR กลุ่ม Defensive หลักๆคือกลุ่มโรงพยาบาล ฯลฯ กลุ่มที่กดดัชนีหลักๆคือ กลุ่มธนาคาร KBANK, BBL กลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP กลุ่ม ICT (ADVANC) (SCB) ฯลฯ
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่นคือ
〽️ITC +1.8% BJC +1.45% BA +0.98%
หุ้นที่เก็งจะคาดจะเข้า SET 50 /100 วันนี้ Outperform คาดตลาดหลักทรัพย์จะประกาศรายชื่อหุ้น SET50 และ SET100 ชุดใหม่ ช่วงต้นสัปดาห์นี้ โดยจะมีผลราคาปิดวันที่ 28 มิ.ย. (เริ่มใช้ 1 ก.ค. 24) ทีมกลยุทธ์ได้คำนวณหุ้นเข้า/ออก SET50-SET100 สำหรับรอบ 2H24 ล่าสุด ดังนี้ หุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 รอบนี้มี 4 บริษัท คือ BJC (โอกาสเข้า 100%), BCP (โอกาสเข้า 90%), TIDLOR (โอกาสเข้า 90%) และ ITC (โอกาสเข้า 90%) หุ้นที่คาดเข้า SET100 รอบนี้มี 9 บริษัท คือ BJC, BA, MBK, CKP, JAS, QH, SKY, PRM, TIPH กลยุทธ์ KSS แนะนำ เก็งกำไร BJC, BCP, ITC ที่จะเข้า SET50 ส่วน SET100 แนะนำเก็งกำไร BA, CKP
🏢BH +0.83% BCH +2.2%
หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลแข็งแกร่งกว่าตลาด ในช่วงที่ตลาดผันผวนจากประเด็นเรื่องการเมืองไทย ตลาดมองเป็นหุ้น Defensive และมีปัจจัยหนุนจากหน้าฝน จะมีผู้ป่วยมาใช้บริการเพิ่มขึ้น หนุนรายได้ของบริษัท โดยนักวิเคราะห์ KSS ให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มการแพทย์เป็น Bullish เลือก แนะนำ BDMS (TP24F-37.00) และ CHG(TP-3.7) เลือกเป็นหุ้นเด่นกลุ่มฯ
🛢PTT -0.79% PTTEP -1.33%
หุ้นน้ำมันมีจิตวิทยาลบตาม ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงระยะสั้น อิงเมื่อวันศุกร์น้ำมันดิบ West Texas -0.17%d-d ปิดที่ US$ 78.05/barrel
▪️KEX -0.7%
ราคาหุ้นปรับลง โดย KSS ปรับลดคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ขาย” และปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 2.40 บาท (เดิม 4.80 บาท) หลังเพิ่มผล dilution การเพิ่มทุนผ่าน RO KSS มองลบเพราะ 1.) การเพิ่มทุนเพื่อชำระหนี้บ่งบอกว่าแนวโน้มบริษัทยังมีความไม่แน่นอนในระยะสั้นถึงกลาง 2.) การชำระคืนหนี้ที่มีดอกเบี้ยเพียง 1% ให้กับบริษัทแม่ยังไม่ช่วยให้ผลประกอบการดีขึ้น 3.)เรายังไม่เห็นภาพการพลิกฟื้นในส่วนของการดำเนินงาน
〽️JMT -6.6%
ปรับลง J Group ได้จัดประชุมนักวิเคราะห์เพิ่มเติมในวันนี้ ข้อมูลจากที่ประชุม Tone เป็นกลาง เนื่องจากมีทั้งประเด็นบวกและลบ โดยตั้งเป้าเงินลงทุน 2H24F ที่ 2 พัน ลบ. เน้นเฉพาะ unsecure IRR 12% ต่ำกว่าที่เราประมาณการทั้งปี 7 พัน ลบ. แต่เราคาดว่าบริษัทจะสามารถซื้อได้มากกว่าเป้าหมายเนื่องจาก supply หนี้ในปัจจุบันสูงขึ้นต่อเนื่อง
ระยะสั้น outlook 2Q24F คงภาพเดิมคือทรงตัวจาก 1Q24 เนื่องจากภาพเศรษฐกิจยังอ่อนแอ ลูกค้ายังชำระเงินแต่ไม่มีความสามารถในการปิดหนี้ โดยรวมกำไรปี 2024F อาจมี downside จากประมาณการเนื่องจากเป้าหมายการซื้อหนี้เสียต่ำกว่าคาดมาก
