KS Daily View 18.06.2024 >>> รอผล 4 คดีการเมืองวันนี้ แนวรับสำคัญ 1,290-1,295 ไม่ควรหลุด คาดซื้อขายในกรอบ 1,290 – 1,310 จุด แนะนำ SISB, CKP

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ประเมินดัชนีวันนี้แกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,295-1,310 จุด รอพิจารณา 4 คดีทางการเมืองทั้ง คดียุบพรรคก้าวไกล, คดี 40 สว. ยื่นถอดถอนนายกฯ กรณีแต่งตั้ง รมต. ขาดคุณสมบัติ, คดีคุณทักษิณทำความผิด ม.122 ,และคดีการได้มาซึ่งสว. ที่อาจขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยทั้งหมดศาลมีกำหนดพิจารณาในวันนี้ แม้แนวโน้มหลักของตัวดัชนีเป็นภาพของการปรับตัวลง แต่ดัชนีตลาดปรับตัวลงมาสะท้อนภาพลบของประเทศไปค่อนข้างมากแล้วต่อเนื่องมาจากตั้งแต่ปีที่แล้ว หากดูสายเทคนิกก็เรียกได้ว่าถึงจุด oversold โดยเรายังคงมองว่าแนวรับบริเวณ 1,290-1,295 จุด เป็นแนวรับสำคัญที่ไม่ควรหลุด ดูจากด้าน valuation ตลาดเองก็เทรดในระดับ PE ราว 14x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว -0.5SD และที่PE 14x ตรงนี้เองก็เคยเป็นแนวรับสำคัญให้ในช่วงปี 2013(ชุมนุมทางการเมือง), 2015 (เศรษฐกิจโตต่ำและการเบิกจ่ายงบรัฐล่าช้าหลังปฏิวัติ), 2018 (สหรัฐฯและจีนเริ่มสงครามการค้า)ซึ่งดัชนีปรับตัวลงมาทดสอบที่ระดับนี้ก่อนจะฟื้นตัวขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์หลักเมื่อดัชนีปรับตัวลงจนมาถึงจุดนี้เราแนะนำลุ้นการฟื้นตัวโดยเฉพาะหากสถานการณ์การเมืองและความเชื่อมั่นฟื้นตัวได้จะเป็นปัจจัยช่วยหนุน แต่หากปัจจัยในประเทศไม่อำนวยจริงๆ downside ประเมินเต็มที่ดัชนีราวบริเวณ 1,200 จุด คงไม่น่าหลุด ซึ่งเทียบเป็น PE 13x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวถึง -1.0SD

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. ติดตามผลการพิจารณาคดีการเมืองสำคัญทั้ง 4 คดีวันนี้ ทั้งในส่วนของคดียุบพรรคก้าวไกล, คดี 40 สว. ยื่นถอดถอนนายกฯ กรณีแต่งตั้ง รมต. ขาดคุณสมบัติ, คดีคุณทักษิณทำความผิด ม.122 ,และคดีการได้มาซึ่งสว. ที่อาจขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ
  1. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมแถลงความคืบหน้ามาตรการยกระดับความเชื่อมั่นครั้งที่ 2 ในวันที่ 18 มิ.ย. 67 หลังพบข้อมูลมีการใช้ ProgramTrading ขายหุ้นไทยมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านบาท และทำShort selling รวมเกือบ 1 แสนล้านบาทในช่วง 16 วันทำการที่ผ่านมา โดยจากข่าว ด้านตลท. มีแผนบังคับใช้เกณฑ์ Uptick ในวันที่ 1 ก.ค. 67 ซึ่งจะส่งผลให้การขาย Short หุ้นต้องใช้ราคาที่สูงกว่าราคาซื้อ-ขายครั้งสุดท้าย จากเกณฑ์ปกติที่สามารถขาย Short ได้ที่ราคาเท่ากับหรือสูงกว่า ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์มีแผนที่จะเพิ่มมาตรการอื่นๆ อย่าง dynamic pricing brand, การลงทะเบียน high frequency trading และอื่นๆหลังจากนี้
  1. นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน สั่งทบทวนการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทในการซื้อสมาร์ทโฟนและสินค้านำเข้า โดยให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณารายการสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ เนื่องจากกังวลว่าจะผิดวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศ ผลการพิจารณาจะถูกเสนออีกครั้งในสัปดาห์หน้า
  1. จีนรายงานตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrialproduction) สำหรับเดือน พ.ค. ขยายตัว 5.6% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 6.2% YoY และชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 6.7% YoY ขณะที่ด้านยอดค้าปลีก (Retail sales) สำหรับเดือน พ.ค. รายงานขยายตัว 3.7% YoY ดีกว่าที่ตลาดมอง 3.0% YoY และเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.3% YoY ข้อมูลรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีนสะท้อนมุมมองทิศทางการฟื้นตัวที่ค่อนข้างผสมและไม่ชัดเจน
  1. สหรัฐฯรายงานตัวเลขภาคการผลิต Empire state mfg index สำหรับเดือน มิ.ย. ที่ -6.0 จุด ติดลบน้อยกว่าเดือนก่อนหน้าที่ -15.6 จุดและน้อยกว่าที่ตลาดมองที่ -12.5 จุด ตัวเลขที่ปรับตัวดีขึ้นคาดส่งผลต่อบวกต่อดัชนี ISM mfg PMI ที่จะออกในช่วงต้นเดือนหน้า
  1. ปธน.ปูตินของรัสเซียประกาศเตรียมเยือนเกาหนีเหนือเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางทหารในช่วงวันที่ 18-19 มิ.ย. นี้

Daily pick

SISB: ราคาพื้นฐานที่ 45.11 บาท 

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อบริษัทหลังผู้บริหารคงเป้ารายได้ปี 2567 ที่ 2.4 พันลบ. และการเติบโตของกำไรสุทธิที่ราว 40% จากความต้องการสมัครเรียนที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะเราคาดกำไรในครึ่งหลังของปี 67 จะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อถึงปีการศึกษาใหม่และค่าเล่าเรียนที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล จำนวนนักเรียนล่าสุดในไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 4,340 คน (+28% YoY) คิดเป็น 94% ของเป้าหมายทั้งปีของ SISB และ 88% ของประมาณการของเรา

CKP: ราคาพื้นฐาน 4.6 บาท 

รายงานกำไร Q1/67 อาจยังดูไม่น่าสนใจ แต่ถือว่าเป็นไปตามที่เราคาดขณะที่ Q2-Q3/67 ภาพทุกอย่างจะพลิกมาเป็นแนวโน้มเชิงบวกจากการคาดการณ์ล่าสุดของศูนย์พยากรณ์สภาพภูมิอากาศของสหรัฐฯ จุดสูงสุดของปรากฏการณ์เอลนีโญได้ผ่านไปแล้ว และมีโอกาสสูง (>80%) ที่ปรากฏการณ์ลานีญาจะพัฒนาในครึ่งหลังของปี 2567 ภาวะน้ำที่เพิ่มมากขึ้นจะเป็นบวกกับบริษัทจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันอังคาร ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ดัชนียอดค้าปลีก (Retail sales) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.3% MoM เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.0% MoM ต่อด้วย ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial  production) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.3% เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.0% MoM

วันพุธ ติดตามตัวเลขส่งออก (Export) ของญี่ปุ่นเดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 12.7% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 8.3%YoY และ ตัวเลขนำเข้า (Import) ของญี่ปุ่นเดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 9.5% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 8.3% YoY ขณะที่ตลาดสหรัฐหยุดทำการเนื่องจากเป็นวัน Juneteenth เฉลิมฉลองการเลิกทาส

วันพฤหัสฯ ติดตาม Loan prime rate ของธนาคารกลางจีนเดือน พ.ค. ระยะเวลา 1 ปีคาดการณ์ไว้ที่ 3.45% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า และ Loan prime rate อายุ 5 ปีคาดการณ์ไว้ที่ 3.95% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ต่อด้วย รายงานจำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้าง (Housing Starts) ของสหรัฐ เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.38 ล้านหลัง เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.36 ล้านหลัง และปิดท้ายด้วยการรายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดที่ 2.35 ตำแหน่งชะลอตัวลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.42 แสนตำแหน่ง

วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อญี่ปุ่น  (Japan CPI) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.9% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.5% YoY ขณะที่ Core CPI ตลาดคาดที่ 2.2% YoY ลดลงจาก 2.4% YoY ในเดือนก่อนหน้า ในส่วนของสหรัฐติดตามรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของสหรัฐ (S&P Global US Manufacturing PMI Flash) เดือน มิ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 51 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้ารายงานที่ 51.3 จุด ต่อด้วย รายงานยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) เดือน พ.ค. ตลาดคาดที่ 4.09 ล้านหลัง ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.14 ล้านหลัง

- Advertisement -