รอติดตามภาคผลิตสหรัฐฯ คืนนี้
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones ปิดบวก 0.77% อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500, Nasdaq ปิดในแดนลบ เพราะถูกแรงกดดันจากการปรับลงของหุ้น NVIDIA ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.75% ขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ลดลงมากกว่าคาด
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.38 แสนราย ใกล้เคียงกับที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ อย่างไรก็ตามในอีกตัวเลขรายงานใบขออนุญาตก่อสร้างที่ 1.39 ล้าน ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 1.45 ล้าน พร้อมกับยอดสร้างบ้านใหม่ที่ 1.28 ล้านต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 1.37 ล้าน โดยรวมสะท้อนภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ที่อ่อนแรงลง ภายหลังจากทราบปัจจัยพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2, 10 ปี ปรับขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ในแนวโน้มขาลง สะท้อนถึงการคลายกังวลจากดอกเบี้ยของนักลงทุน โดย CME FED Watch ยังประเมินเช่นเดิมว่าการลดดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนด้วยโอกาส 57.5%
สำหรับปัจจัยในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ นักลงทุนรอติดตามตัวเลขการค้าระหว่างประเทศในสัปดาห์หน้า ส่วนตลาดหุ้นไทยวานนี้พลิกกลับมาปรับลง 0.4% โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิอีก 1.9 พันล้านบาทและนับเป็นการขายสุทธิติดต่อกันแล้วถึง 21 วันทำการ ส่งผลให้ YTD นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิมากถึง 1.06 แสนล้านบาท ซึ่งสาเหตุการขายเป็นไปได้หลายปัจจัย อาทิ ปัญหาการเมืองเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำ และตลาดหุ้นประกอบไปด้วยอุตสาหกรรมเก่าๆ ขณะที่ปัจจุบันกระแสความนิยมของนักลงทุนทั่วโลกกำลังให้น้ำหนักกับกลุ่ม Technology อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจากเข้าสู่เดือน ก.ค. การขายของนักลงทุนต่างชาติอาจมีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะกฎ Uptick Rule จะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะทำให้การ Short ทำได้ยากมากขึ้น ปัจจัยติดตามวันนี้ ได้แก่ ดัชนี PMI เบื้องต้นของฝั่ง EU และช่วงกลางคืนจะมีดัชนี PMI เบื้องต้นของสหรัฐฯ ฝั่งผลิตและฝั่งบริการ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 51, 53.4 รวมไปถึงยอดขายบ้านมือสอง Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 4.08 ล้าน หลังเรือนหากรายงานแล้วแย่กว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยหนุนกับตลาดหุ้น
วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1290 – 1305 เชิงกลยุทธ์การลงทุนคงคำแนะนำทยอยสะสมเช่นเดิมเพื่อรอการฟื้นตัวในครึงปีหลัง ตลาดรับรู้ปัจจัยลบด้านการเมืองไปมากแล้ว และเศรษฐกิจไทยกำลังค่อยๆฟื้นตัว ซึ่งน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วง 1Q24 แนะนำกลุ่มค้าปลีก (CPALL CRC DOHOME GLOBAL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB TTB) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ส่งออก (ITC TU) ระยะสั้นแนะนำ Trading ในกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) และโรงกลั่น (BCP SPRC TOP)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
TOP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 75.00 บาท)
มีกำไรสุทธิงวด 1Q24 ที่ 5.9 พันล้านบาท (+99%YoY, +29% QoQ) มากกว่าอุตสาหกรรมคาด โดยปัจจัยสำคัญมาจากค่าการกลั่น และ Aromatic ที่ปรับตัวดีขึ้น จากการปิดซ่อมฉุกเฉินใน US ทำให้อยู่ที่ GIM 1Q24 : 10.6 (+25%YoY, +194%QoQ) แม้ว่ามีการปิดซ่อมนอกแผนของโรงกลั่นหน่วยที่ 3 เป็นเวลา 13 วัน ส่งผลให้เหลือกำลังการผลิต 288 KBD (-7%YoY,-6%QoQ) โดยแนวโน้มในไตรมาสถัดไป Singapore GRM ชะลอตัวลง QoQ จากฐานที่สูง (1Q24: 7.3 USS/bbl, 2QTD : 3.7 USS/bbl) เราคาดว่า Downside เริ่มจำกัดมากขึ้นจากปรับลดกำลังการผลิตของโรงกลั่นในภูมิภาคและสินค้าคงคลังของน้ำมันเบนชินอยู่ในระดับต่ำ
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 195.00 บาท)
แนวโน้มในไตรมาสถัดไปคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามราคาน้ำมัน (1Q24: 81.7 US$/bbl, 2QTD : 87.8 US$/bbl) และปริมาณการขายที่สูงขึ้นจากแหล่งผลิตในไทยและเมียนมา