อินโดรามา เวนเจอร์ส พร้อมเปิดจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ 1- 4 ก.ค. 2567 ชูดอกเบี้ย 5 ปีแรกที่ 6.10% ต่อปี

อินโดรามา เวนเจอร์ส พร้อมเปิดจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ 1- 4 ก.ค. 2567 ชูดอกเบี้ย 5 ปีแรกที่ 6.10% ต่อปี

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ประกาศความพร้อมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ แก่ประชาชนทั่วไป ในระหว่างวันที่ 1-4 กรกฎาคม 2567 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยในช่วง 5 ปีแรกไว้ที่ 6.10% ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นผลตอบแทนที่น่าสนใจและเป็นโอกาสได้ร่วมลงทุนในบริษัทที่มีกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ชัดเจน มุ่งเน้นการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว

นอกจากอัตราดอกเบี้ยที่น่าดึงดูดแล้ว หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของ อินโดรามา เวนเจอร์ส ได้รับอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ระดับ “A” และอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกหุ้นกู้ยังระดับ “AA-” แนวโน้ม “คงที่” จัดโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ซึ่งถือว่าเป็นผู้ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงที่สุดที่มียอดคงค้างอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย

หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของอินโดรามา เวนเจอร์ส จัดจำหน่ายผ่านสถาบันการเงินชั้นนำหลายแห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส และ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต

การเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของอินโดรามา เวนเจอร์ส 2 ครั้งที่ผ่านมา คือในปี 2557 และปี 2562 ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ชุดเดิมที่จะมีอายุครบ 5 ปีในเดือนพฤศจิกายน 2567 นี้ ทั้งนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส มีประวัติการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่ดีเสนอมา โดยจ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ตามอัตราที่ประกาศไว้ตรงตามกำหนดทุกครั้ง และไถ่ถอนเมื่ออายุครบ 5 ปีอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นปัจจัยที่ยังคงทำให้นักลงทุนให้ความสนใจในหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของบริษัทฯ 

นายดีเค อากาวาล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า “เรากำลังเปิดโอกาสที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนผ่านการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ครั้งใหม่นี้ ซึ่งความสำเร็จของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ครั้งที่ผ่านมา ทำให้เรามั่นใจว่า ด้วยผลตอบแทนที่น่าสนใจ อันดับเครดิตที่ดี และพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง จะเป็นปัจจัยเกื้อหนุนการตัดสินใจของนักลงทุน การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ไม่เพียงยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างมูลค่าเพิ่ม แต่ยังเน้นย้ำถึงความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นที่เราได้รับจากนักลงทุนมาโดยตลอด”

ปัจจุบัน อินโดรามา เวนเจอร์ส เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก โดยมีโรงงาน 140 กว่าแห่งใน 30กว่าประเทศ ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วโลก ทั้งเอเชียแปซิฟิก อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป และแอฟริกา ภายใต้วิสัยทัศน์ของอินโดรามา เวนเจอร์ส ที่มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ผลิตเคมีภัณฑ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับชีวิตของผู้คนนับหลายพันล้านคนในทุก ๆ วัน บริษัทฯ ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในการวิจัยและพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อคิดค้นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการสินค้าที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นของผู้บริโภค โดยบริษัทฯ นำเสนอตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ที่ถูกนำไปใช้ในการผลิตสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ไปจนถึงโซลูชั่นอย่าง เส้นใย เส้นด้าย และสารลดแรงตึงผิว

สำหรับการเติบโตในอนาคต ปี 2567 อินโดรามา เวนเจอร์ส ได้ประกาศกลยุทธ์ธุรกิจ IVL 2.0 ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และใช้ประโยชน์จากความเป็นผู้นำระดับโลกที่ไม่มีใครเหมือนในการสร้างข้อได้เปรียบจากการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม โดยองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์นี้รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพฐานการผลิตทั่วโลก การปรับปรุงกระแสเงินสด ลดหนี้สิน เพิ่มคุณภาพรายได้ และเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างสูงสุด

ด้านสถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายระบุว่า อัตราดอกเบี้ย 6.10% ต่อปีในช่วง 5 ปีแรกของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของอินโดรามา เวนเจอร์ส เป็นอัตราที่จูงใจผู้ลงทุน เมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นกู้อื่นๆ ในตลาด และเมื่อพิจารณารูปแบบการดำเนินธุรกิจระดับโลกของ อินโดรามา เวนเจอร์ส และความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในตลาดที่มีการเติบโตสูงเชื่อมโยงกับการผลิตสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ทำให้มั่นใจว่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนเหมือนครั้งที่ผ่านมา

สถาบันการเงินทุกแห่งที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายพร้อมอำนวยความสะดวกและให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

โดยสามารถติดต่อผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้

  • ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่นBangkok Bank Mobile Banking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Money Connect by Krungthai บนแอปพลิเคชัน Krungthai Next
  • ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) * โทร. 02-888-8888 กด 869
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ** โทร. 02-777-6784
  • ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-626-7777
  • บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) )*** โทร. 02-165-5555
  • บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร.02-695-5000
  • บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050
  • บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-59
  • บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด  โทร 02-680-4004
  • บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร 02-779-9000

* ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

** ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

***ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

 

เกี่ยวกับ อินโดรามา เวนเจอร์ส

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Bloomberg ticker IVL.TB) เป็นหนึ่งในบริษัทปิโตรเคมีชั้นนำระดับโลก มีโรงงานผลิตครอบคลุมภูมิภาคหลักทั่วโลก ได้แก่ ยุโรป แอฟริกา อเมริกา และเอเชียแปซิฟิก โดยมีกลุ่มธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ธุรกิจ Combined PET ธุรกิจ Fibers และ Indovinya (เดิมคือ Integrated Oxides and Derivatives) ผลิตภัณฑ์ของอินโดรามา เวนเจอร์ส รองรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค การเกษตรกรรม ไลฟ์สไตล์ และยานยนต์ ซึ่งรวมถึงกลุ่มเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย ผลิตภัณฑ์ยางในรถ และผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานทั่วโลกราว 26,000 คนและมีรายได้จากการขายรวม 15.6 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566 บริษัทฯ เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ระดับโลก (DJSI World) และกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (DJSI Emerging Markets)

- Advertisement -