Daily Focus: Selective and ESG Play 

2024 SET Target : 1470

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 อีกเล็กน้อย 2.41 จุด ที่ระดับ 1,319.14 จุด โดยมูลค่าการซื้อขายขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.9 หมื่นลบ. กลุ่มที่หนุนตลาด ได้แก่ ปิโตรเคมี ค้าปลีก ท่องเที่ยว สื่อสารฯ ธนาคาร เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่ถ่วง คือ อิเล็กทรอนิกส์ ขนส่งสถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเร่งขึ้นเป็น 1.2 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขาย สุทธิเป็นวันที่ 24 อีก 1.8 พันลบ. (แต่ Long Index Futures ค่อนข้างสูง 2.7 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,310-1,330 จุด หลังจากตอบรับเชิงบวกระยะสั้นต่อมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุนของกระทรวงการคลัง SET และ SEC ขณะที่ภาพปัจจัยจากต่างประเทศโดยรวมยังขาดประเด็นใหม่เข้ามากระตุ้น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีคาดว่าจะมีแรงซื้อหนุนวันนี้ตาม Nvidia ที่ฟื้นตัวแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนโฟกัสหลังของตลาดในสัปดาห์นี้ยังคงอยู่ที่การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ PCE เดือน พ.ค. ของสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยเรามองว่าอยู่ในช่วงการรีบาวด์ระยะสั้น หลังจากปรับฐานแรงในช่วงเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม Upside ยังคงถูกจำกัดบริเวณ 1,330+- จุด จากประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยังคงอยู่ โดยเราคาดว่าต้องความชัดเจนของคดีคำแหน่งนายกฯของคุณเศรษฐา ซึ่งคาดว่าจะมีคำวินิจฉัยอย่างเร็วในช่วงครึ่งหลังของเดือน ก.ค. โดยหากออกมาเป็นบวกคาดจะหนุนให้ดัชนีฟื้นตัวกลับไปโซนระดับ 1,360-1,400 ได้อีกครั้ง และตลาดจะกลับมาโฟกัสที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและกำไรบจ. ซึ่งอยู่ในทิศทางขาขึ้น

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นเป็นรายตัวที่มีแนวโน้มเติบโตแกร่งกว่าตลาดและมี ESG Rating สูง // ส่วน ที่สะสมในช่วงก่อนหน้ายังถือลงทุนต่อเนื่องระยะกลาง-ยาว

หุ้นเด่นเดือน มิ.ย.: CHG, CPALL, ITC, KCG, TFG

FSSIA Portfolio: AOT, BDMS, CALL, CPN, GPSC, KCG, SHR, SJWD, TIDLOR, TU

หุ้นเด่น Finansia 26 มิ.ย. 24 : HANA

– แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 50 บาท

– ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไร 2Q24 ที่จะทยอยฟื้นตัวและเร่งขึ้นใน 2H24 ภาพรวมกลุ่ม PCB ยังมีคำสั่งซื้อดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงงานลำพูนได้ market share เพิ่มขึ้น กอปรกับโรงงานที่จีน และ US ยังแข็งแกร่ง 

– เราคาดว่า HANA จะเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ประโยชน์จากกลุ่ม Consumer Electronics ที่ถึงรอบการเปลี่ยนอุปกรณ์และมีแรงหนุนจากฝัง AI เข้าไปในอุปกรณ์ เราคาดกำไรปี 2024 ที่ 2.2 พันลบ. +9% y-y รวมถึงเป็นหุ้นที่ยังมียอด Short คงค้างในสัดส่วนสูงที่สุดในตลาดฯ 2.88% ของทุนที่ชำระแล้ว และมี SET ESG rating AA 

– แนวรับ 45//43 บาท แนวต้าน 49-50 บาท

Fund Flow : วานนี้ระแสเงินทุนผสมผสานสุทธิแล้วพลิกมาไหลเข้าภูมิภาค US$295 ล้านเม็ดเงินไหลเข้าสูงสุดที่อินโดนีเซีย US$485 ล้าน รองลงมาคือเกาหลีใต้ US$101 ล้าน ส่วนตลาดที่ไหลออกสูงสุดคือไต้หวัน US$214 ล้าน ส่วนอาเซียนไหลออกสูงสุดที่ไทยต่อเนื่องอีก US$50 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังผสมผสาน โดยมีโอกาสพลิกมาไหลเข้าฝั่งเอเชียตะวันออกจากการรีบาวด์ของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ตลาดรอจับตาตัวเลขเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯคืนวันศุกร์

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) AOT ผลกระทบจากการขอคืนพื้นที่สัมปทานสนามบินสุวรรณภูมิ 1 พันตรม. และภูเก็ต 491 ตรม. เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่พักผ่อน และลดความแอ่อัด จะส่งผลให้ AOT สูญเสียรายได้สัมปทาน หรือ minimum guarantee ในปี FY24 ประมาณ 0.3 พันลบ. และปี FY25 ประมาณ 1.1 พันลบ. อย่างไรก็ดี เราเห็นปัจจัยบวกหลายอย่างที่จะช่วยชดเชยรายได้สัมปทานที่ลดลง อาทิ การปรับขึ้นค่า PSC สำหรับผู้โดยสาร transit/transfer และการขยายพื้นที่ส้มปทานอื่น รวมถึง SAT-1และ runway ที่ 3 จะเพิ่มจำนวนผู้โดยสารเป็น 80 ล้านคนในปี 2027 เป็นต้น เราปรับประมาณการกำไรปกติปี FY24 – FY26 ลง 1-4% ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 70 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(-) ZEN คาดกำไรสุทธิ 2024 ที่ 12 ลบ. -26% q-q, -75% y-y ต่ำสุดในรอบ 9 ไตรมาส หลักๆ มาจากยอดขายสาขาเดิมติดลบมากขึ้น คาด -14% y-y ใน 1Q24 จากกำลังซื้อที่ลดลงมากกว่าคาด และการแข่งขันที่สูงขึ้น นอกจากนี้อัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลงจากต้นทุนปลาซามอลที่เพิ่มขึ้น และ SG&A ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงการเลื่อนเปิดสาขาใหม่ เราปรับลดประมาณกำไรสุทธิปี 2024 ลงเหลือเติบโตเพียง 9% y-y ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 6 บาท และปรับลดคำแนะนำเป็น “ขาย”

(-) AEONTS คาดกำไรสุทธิ 1QFY24 ที่ 744 ลบ. -32% q-q, +21% y-Y หลักๆ มาจากปัจจัยฤดูกาลและการตั้งสำรอง ECL และ credit cost ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านคุณภาพ สินทรัพย์ NPL พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 5.2% ใน 1QFY24 จากธรกิจเครดิตการดีที่เพิ่มอัตราการจ่ายขั้น ต่ำเป็น 10% อย่างไรก็ดีบริษัทมีแผนลดการจ่ายขั้นต่ำของสินเชื่อบุคคลจาก 3% เป็น 2% เพื่อลด NPL หากกำไรสุทธิ 1QFY24 ตามคาด จะคิดเป็น 23% ของประมาณการทั้งปี เรายังคงคาดกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 3.2 พันลบ. -0.4% y-y แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 145 บาท จาก cost of equity ที่ปรับขึ้น ยังแนะนำเพียง “ถือ”

(0) ตลท.ประกาศหุ้นเข้า-ออก SET50/SET100 งวด 2H24 สำหรับ SET50 หุ้นเข้า BCP BJC TIDLOR ITC หุ้นออก BANPU COM7 SAWAD KCE // ส่วน SET 100 คาดหุ้นเข้า BA BJC CKP JAS MBK PRM QH SKY TIPH ออก AURA BYD FORTH MOSHI NEX ORI SNNP THG TKN

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 299.05 จุด หรือ -0.76% ปิดที่ 39,112.16 จุด โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทค้าปลีก แต่ดัชนี Nasdag ปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% ขานรับการฟื้นตัวของหุ้น Nvidia และหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก นำโดยหุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มการเงินที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเลือกตั้งรัฐสภารอบแรกของฝรั่งเศสในสัปดาห์นี้

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดผสม ก่อนการรายงานดัชนีเงินเฟ้อของออสเตรเลียและญี่ปุ่น ขณะที่ตลาดนิกเกอิ นำเปิดบวกได้ในเช้านี้ด้วยกลุ่มเทค สอดคล้องกับทิศทางของดัชนี Nasdaq

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 36.73 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ +0.25%

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 80 เซนต์ หรือ 0.98% ปิดที่ 80.83 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากการชะลอตัวของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานที่บ่งชี้ถึงอุปสงค์เชื้อเพลิงที่อ่อนแอลงในสหรัฐ ในขณะที่เช้านี้ลบอยู่ที่ระดับ 80.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.09%

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 13.60 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ 2,330.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยฉุดตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในขณะที่เช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2,330.90ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ 0.00%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 829.05/ –

- Advertisement -