ยังคงไร้ปัจจัยใหม่ๆ รอติดตามแรงงานสหรัฐฯ คืนนี้

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.09% หลังสหรัฐฯรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้นักลงทุนคาดหวังกับการปรับลดดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.3% ได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะรับผลกระทบจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 1Q24 ครั้งสุดท้ายพบว่าใกล้เคียงกับที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ พร้อมกับรายงานคำสั่งซื้อสินค้าคงทนขยายตัวดีกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ อย่างไรก็ตามรายงาน Pending Home Sale แย่กว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ หลังจากทราบผลดังกล่าว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับลงเล็กน้อย พร้อมกับอ่อนค่าของ Dollar Index โดย CME FED Watch ยังคงให้น้ำหนักปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนด้วยโอกาส 58% ส่วนปัจจัยในประเทศเมื่อวานที่ผ่านมา สำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้ออกมารายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือน พ.ค. พบว่าขยายตัวในภาคท่องเที่ยว การส่งออกสินค้า และภาคเกษตร อย่างไรก็ตาม การบริโภคสินค้าคงทนและการลงทุนภาคเอกชนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ในส่วนของการเก็บ Vat ขยายตัว 8.4%YoY และ 1.2%MoM อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์ -28%YoY การนำเข้าสินค้าทุน -8.4%YoY , -1.7%MoM รวมไปถึงยอดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ (-20%YoY) ด้านการใช้จ่ายภาครัฐเริมเห็นการขยายตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ รายจ่ายลงทุน (+189%YoY) รายจ่ายประจำ (+108%YoY) และทำให้รายจ่ายรวมรัฐบาลขยายตัวมากถึง 118%YoY จากเดือนเม.ย. ที่ติดลบ (-11.5%YoY) ข้อมูลข้างต้นสะท้อนแล้วว่าเศรษฐกิจไทยเผชิญจุดต่ำสุดไปในช่วง 1Q24 และมีแนวโน้มจะเร่งตัวขึ้น สอดคล้องกับข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยและ Bloomberg Consensus ที่ระบุว่าจุดต่ำสุดเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วง 1Q24 มองบวกกับกลุ่มค้าปลีก (CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่เงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่เป็นปัจจัยสำคัญ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.6%MoM , ทรงตัว MoM ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานประเมินไว้ที่ 2.6%YoY , 0.1%MoM หากรายงานแล้วแย่กว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น และช่วงบ่ายรอติดตามดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยจากธนาคารแห่งประเทศไทย Bloomberg Consensus ประเมินว่าจะเกินดุล 663 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมไปถึงภาวะเศรษฐกิจรายเดือนจากธนาคารแห่งประเทศไทย

วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1305 – 1320 เชิงกลยุทธ์การลงทุนคงคำแนะนำทยอยสะสมเพื่อรอการฟื้นตัวช่วงถัดไป แนะนำกลุ่มค้าปลีก (CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB TTB) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ส่งออก (ITC TU) ขนส่ง (BEM) ระยะสั้นวันนี้แนะนำเก็งกำไรในกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) และรับเหมาก่อสร้าง (CK STEC)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 195.00 บาท)

ราคาขายเฉลี่ยต่อชิ้น (ASP) ของไตรมาส 1 อยู่ที่ 47.2 US$/BOE (-5%YoY, -2%QoQ) จากราคาก๊าซที่ 5.9US$/mmBTU (-10%YoY, +1%QoQ) เนื่องจากการผลิตก๊าซจากแหล่งเอราวัณปรับสูงขึ้น (ASP ต่ำกว่าแบบสัมปทานเดิม) แม้ว่าราคา น้ำมันอยู่ที่ 81.2US$/bbl (+4%YoY, -1%QoQ) ทรงตัว

AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 74.00 บาท)

AOT มีกำไรสุทธิงวด FY2Q24 ที่ 5,785 ล้านบาท (+211%YoY, 27%QoQ) ถ้าไม่รวมรายการพิเศษที่เป็นยอดค่าใช้จ่ายสุทธิ 90 ล้านบาท จะมีกำไรปกติที่ระดับ 5,875 ล้านบาทใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้ โดยเป็นการเติบโตตามจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 22%YoY, 12%Q0Q มาอยู่ที่ 32 ล้านคน และเที่ยวบินที่มีจำนวน 188,817 เที่ยวบิน (+15% YoY, +6%QoQ)

- Advertisement -