วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,303 / 1,290 แนวต้าน 1,313 / 1,325

ตัวเลขแรงงานสหรัฐเมื่อคืนนี้ออกมาสะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐ เริ่มลดความร้อนแรงลง US-bond Yield ปรับตัวลงหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้างในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม คาดตลาดจะรอติดตามตัวเลข PCE สหรัฐและการดีแบตศึกชิง ปธน. รอบแรก คาดส่งผลให้ตลาดผันผวนได้

Our View? “ผันผวนในกรอบจำกัด”

คาดตลาดวันนี้ “‘Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,303 / 1,290 และแนวต้านที่บริเวณ 1,313 / 1,325 เมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ขอยื่นรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาอยู่ที่ระดับ 2.33 แสนรายต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย ขณะที่ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 1.839 ล้านราย ทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่เดือน พ.ย.’64 และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง กระตุ้นความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่า ที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณออกมาในช่วงก่อนหน้า โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) โดยเฉพาะรุ่น 10 ปี วกตัวลงเช้านี้อยู่ที่ระดับ 4.28%+/- เรามองเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อ

ทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ดี เรามองตลาดยังรอพิจารณาการรายงานตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน พ.ค. ในวันที่ 28 มิ.ย. เพื่อหาประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐ ซึ่งเป็นประเด็นที่ FED ให้ความสนใจโดย Bloomberg Consensus คาดจะออกมาอยู่ที่ระดับ +2.6%YoY ขณะที่คาดว่า Core PCE จะออกมา +2.6%YoY ชะลอตัวลงจากเดือน เม.ย. รวมทั้งยังต้องติดตามการดีเบตระหว่าง ปธน.โจ ไบเดนและอดีตปธน. โดนัลด์ทรัมป์ เพื่อประเมินผลการเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐ คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้าง

ขณะที่เรายังมองแรงกดดันภายในตลาดภูมิภาคหลังตัวเลขผลกำไรภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนพ.ค.ของจีนออกมา +0.7%YoY สำหรับ YTD อยู่ที่ระดับ +3.4YoY เริ่มชะลอตัวลงอีกครั้งคาดจะกดดันทิศทางตลาดในภูมิภาคได้บ้างในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจจีนมากขึ้นหลังสถาบันการท่องเที่ยว จีนเผยแพร่รายงานคาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะแตะระดับ 80% ของระดับก่อนเกิด Covid-19 โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ค้นหาเที่ยวบินและที่พักในจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญซึ่งส่วนหนึ่งเราเชื่อว่ามาจากมาตรการ Free Visa คาดจะหนุนทิศทางเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ หลังเริ่มเห็นสัญญาณเงินเฟ้อที่กลับมาเป็นบวก และตัวเลข PMI ภาคผลิตและบริการกลับมาขยายตัวอีกครั้ง มองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นจีนและเป็น จิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดในภูมิภาคในระยะถัดไป

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ส.ค. เมื่อคืนนี้ยังแกว่งตัวผันผวนพยายามขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้น ปิดที่ระดับ 81.74 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.84 ดอลลาร์ (+1.04%) เราคาดว่ายังคงได้รับแรงหนุนจากความยืดเยื้อของสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและยูเครนยังยืดเยื้อกระทบอุปทานน้ำมัน พร้อมทั้งความคาดหวัง FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงคาดจะหนุนคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในสหรัฐได้

สำหรับปัจจัยภายในประเทศเรามองตลาดรับรู้ประเด็นรัฐบาลปรับเงื่อนไข ThaiESG ขยายวงเงินขอลดหย่อนภาษีเงินได้ เป็นสูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาท และปรับลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปีนับจากวันที่ซื้อ พร้อมทั้งส่งสัญญาณจะศึกษาการนำกองทุนวายุภักษ์คาดจะสามารถสร้างเม็ดเงินที่เข้ามาสู่ตลาดได้มากขึ้นไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม เรามองปัจจัย Overhang ทางการเมืองจากการพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกลและคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีคาดยังจำกัด Upside ตลาดหุ้นไทยได้อยู่

อย่างไรก็ดี เรามองการที่ ตลท. ปรับเกณฑ์ในการ Short Sell เป็น Uptick Rule ในช่วงเดือน ก.ค. คาดจะหนุนแรง Cover Short ช่วยจำกัด Downside ของตลาดหุ้นไทยได้เช่นกัน คาดจะส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออก ด้านข้างในกรอบจำกัดได้ต่อ โดยเรายังคงมุมมองกลยุทธ์ในการเลือกเล่นหุ้นรายตัว (Selective Play) คาดยังมีความได้เปรียบอยู่สำหรับตลาดหุ้นไทย

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “HTC”

  • คาดอาจเห็นแรงซื้อจากคาดการณ์ผลประกอบการ 2Q’67 เติบโตขึ้นจาก High Season รวมทั้งตัวเลขนักท่องเที่ยวภาคใต้ปรับตัวขึ้น ขณะที่เรามองราคาซื้อขายในปัจจุบันอยู่ที่ระดับเพียง Fwd PE ที่ 94 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5ปี ที่ 11.0 เท่า รวมทั้ง Fwd Div. อยู่ที่ระดับ 6.3%+/- ทำให้เรามองว่า Downside ของ HTC ค่อนข้างจำกัด
  • ทางเทคนิค ราคา Breakout แนวต้านที่เส้นแนวโน้มขาลงระยะสั้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD ให้สัญญาณซื้อแต่ SSTO ยังอ่อนกำลังอยู่
  • แนะนำ “เล่นรีบาวด์”
  • แนวรับ 16.00 / 15.60 Target 16.70 / 17.60 Stop <15.40

- Advertisement -