Daily Focus: Selective and ESG Play

2024 SET Target : 1470

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาคจากแรงกดดัน Bond Yield และ Dollar ที่ปรับตัวขึ้น กดดันค่าเงินสกุลเอเชีย ดัชนีปิดลบ 9.69 จุด ที่ระดับ 1,309.46 จุด มูลค่าการซื้อขายยังค่อนข้างเบาบาง 3.4 หมื่นลบ. สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 745 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 26 อีก 2.4 พันลบ. (และยัง Short Index Futures 9.5 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่ง Sideways ในกรอบ 1,300-1,320 จุด ภาพรวมตลาดยังไม่มีประเด็นใหม่ที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้น โดยต่างรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ PCE และรายได้-การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือน พ.ค. ของสหรัฐฯคืนนี้ โดยสำหรับ Core PCE ตลาดคาดชะลอลงจากเดือนก่อนเป็น +0.1% m-m, +2.6% y-y ส่วนรายได้และการใช้จ่ายคาด +0.4% m-m และ +0.3% m-m ตามลำดับ หากออกมาใกล้เคียงหรือต่ำกว่าคาด จะเป็นบวกต่อภาพรวมการลงทุนจาก Bond Yield ที่จะชะลอตัวและเป็นหนึ่งปัจจัยให้ FED ลดดอกเบี้ยได้เร็วขึ้นหาก ตัวเลข 2-3 เดือนข้างหน้าออกมาในทิศทางเดียวกันส่วนเช้านี้จะมีการดีเบตระหว่างไบเดน-ทรัมป์ครั้งแรก ด้านปัจจัยในประเทศโดยรวมยังไม่มีประเด็นเพิ่มเติมหลังจากตอบรับเชิงบวกต่อมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุนไปแล้วพอสมควร

ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยัง Overhang จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยคดีคำแหน่งนายกๆของคุณเศรษฐา ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือน ก.ค. หากออกมาในเชิงบวกจะหนุนให้ดัชนีฟื้นตัวกลับไปโซนระดับ 1,360-1,400 ได้อีกครั้ง และตลาดจะกลับมาโฟกัสที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและกำไรบจ.ซึ่งอยู่ในทิศทางขาขึ้น ในทางกลับกันหากคำวินิจฉัยออกมาในทางลบจะกดดันดัชนีให้อ่อนตัวลงสู่ระดับ 1,300 จุดหรือต่ำกว่าอีกครั้ง

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นเป็นรายตัวที่มีแนวโน้มเติบโตแกร่งกว่าตลาดและมี ESG Rating สูง // ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้ายังถือลงทุนต่อเนื่องระยะกลาง-ยาว

หุ้นเด่นเดือน มิ.ย.: CHG, CPALL, ITC, KCG, TFG

FSSIA Portfolio: AOT, BMS, CPALL, CPN, GPSC, KCG, SHR, SJWD, TIDLOR, TU

หุ้นเด่น Finansia 28 มิ.ย. 24 : PHG

– แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21 บาท

– เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ราคาถูกที่สุดในไทย ปัจจุบันเทรด PE เพียง 15 เท่า ไม่มีหนี้ และคาดกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 303 ลบ. +17% y-y 

– ปัจจัยหนุนการเติบโต ได้แก่ 1) รายได้ปรับสูงขึ้นหลังยกระดับขีดความสามารถในการรักษา Tertiary Care 2) มีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติ CLMV เพิ่มขึ้นจากค่ารักษาที่ถูกกว่าคู่แข่งอย่างมีนัยยะ  3) มีแผนสร้างโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง คาดแล้วเสร็จ 2Q25 – 4Q25 หนุนการเติบโตระยะยาว 

– แนวรับ 15.40//15 บาท แนวต้าน 16.50-16.60//17.30//20-21 บาท

Fund Flow : วานนี้ระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคสุทธิ US$794 ล้าน นำโดยไต้หวันและอินโดนีเซีย US$690 ล้านและ US$328 ล้าน ตามลำดับ ขณะที่ไทยแลเวียดนามไหลออก ต่อเนื่องประเทศละ US$45-65 ล้าน มีเพียงเกาหลีใต้ที่ไหลเข้า US$335 ล้าน โดยรวมวานนี้มีแรงกดดันจากค่าเงินสกุลเอเชียที่อ่อนค่า อย่างไรก็ตามประเมินแนวโน้มกระแสเงินทุนวันนี้จะผสมผสานและชะลอการไหลออก โดยรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ PCE และรายได้-การใช้จ่าย ส่วนบุคคลของสหรัฐฯคืนนี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) SFLEX คาดกำไรปกติ 2Q24 ที่ 55 ลบ. -13% q-q, +9% y-y โดย q-q ที่ลดลงเป็นผลกระทบจาก low season ของธุรกิจ แต่กำไรที่เกิน 50 ลบ. ต่อไตรมาส ถือเป็นระดับที่ดีรวมถึงส่วนกำไรจาก JV เวียดนามจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย SPV (SFLEX ถือ 25%) กำไร 2Q24 คาด +54% q-q โดยรวมปีนี้เชื่อว่าจะเป็นอีกปีที่ดีของ SLEX หลักๆ มาจากผลของการเพิ่มขึ้นของอุปทาน PE ใหม่ในจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะหนุนให้ผู้ผลิตพลาสติกปลาย น้ำอย่าง SFLEX มี margin ที่สูงขึ้น หากกำไร 2Q24 ออกมาตามคาดรวมกำไร 1H24 จะคิดเป็นมากกว่าครึ่งของประมาณการของเราทั้งปี 2024 ที่ 224 ลบ. +23.4% y-y ซึ่งอาจทำให้เราปรับประมาณการกำไรเพิ่ม ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) SIRI คาด Presales 2Q24 ที่ 1.05 หมื่นลบ. +10% q-q, +5% y-y จากการเปิดโครงการใหม่และการเน้นขายโครงการเดิม หนุนให้ 1H24 คิดเป็น 45% ของเป้าทั้งปี คาดกำไรปกติ 2Q24 ยังทรงตัวสูง 1.15 พันล้านบาท +5% q-q, -6% y-y ดีกว่ากลุ่มฯที่หดตัวมาก y-Y โมเมนตัม 3Q24 เร่งขึ้น q-q ตามแผนเปิดตัวแนวราบเพิ่มและโอนคอนโดใหม่ 4 แห่ง ขณะที่ข่าวครม.ทบทวนเพิ่มโควตาคอนโดต่างชาติจาก 49% เป็น 75% หากทำได้ SIRI จะได้รับประโยชน์จาก 17% ของสต็อกคอนโดที่มีสัดส่วนต่างชาติแล้ว 30-40% ในกทม.และเมืองท่องเที่ยว แต่ยังต้องติดตามเงื่อนไขและความชัดเจน คงประมาณการกำไรปกติ 4.7 พันลบ. -7% Y-Y ราคาเป้าหมาย 1.90 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) SAPPE คาดกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 396 ลบ. +12.5% q-q, +27% y-y ทำ new high โดยคาดรายได้ +11% q-q และ 23% y-y ทำ record high ที่ 2 พันลบ. เติบโตทุกภูมิภาคจากทั้ง ปัจจัยฤดูกาลที่เติบโตดีในยุโรปและสหรัฐ และภาวะอากาศที่อุ่นขึ้นในเอเชีย รวมถึงกำลังผลิตสินค้าใหม่มีคำสั่งซื้อที่แข็งแรง แนวโน้ม 3Q24 จะดีต่อเนื่อง คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 1.4 พันลบ. +32% y-y ราคาเป้าหมาย 115 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(0) ตลท.ประกาศหุ้นเข้า-ออก SET50/SET100 งวด 2H24 สำหรับ SET50 หุ้นเข้า BCP BJC TIDLOR ITC หุ้นออก BANPU COM7 SAWAD KCE // ส่วน SET100 คาดหุ้นเข้า BA BJC CKP JAS MBK PRM QH SKY TIPH ออก AURA BYD FORTH MOSHI NEX ORI SNNP THG TKN

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 36.26 จุด หรือ +0.09% ปิดที่ 39,164.06 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนมีความระมัดระวังก่อนการเปิดเผย ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก และการเลือกตั้งรอบแรกของฝรั่งเศสในช่วงสุด สัปดาห์นี้ ขณะที่หุ้น H&M ร่วงลงหลังการเปิดเผยคาดการณ์ผลกำไรรายไตรมาส ที่ต่ำกว่าคาด

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก โดยนักลงทุนติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของญี่ปุ่น เพื่อประเมินทิศทางนโยบายทางการเงินของ BoJ

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 36.83 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.34%

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 81.74 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางและยุโรป ในขณะที่เช้านี้บวกอยู่ที่ระดับ 81.95 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.26%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 23.40 ดอลลาร์ หรือ 1.01% ปิดที่ 2,336.60 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผย ดัชนี PCE ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในขณะที่เช้านี้ลบอยู่ที่ระดับ 2,333.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.13%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 829.05/ –

- Advertisement -