นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO

PIMO-ไพโม่ เปิดแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง 67 ตอกย้ำการเป็นผู้ผลิตชั้นนำของไทยและเป็นโรงงานที่ได้รับเลือกจากกลุ่มลูกค้าให้เป็นผู้ส่งมอบมอเตอร์เครื่องปรับอากาศ มอเตอร์อุตสาหกรรมและเครื่องสูบน้ำ ด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ พร้อมคาดปีนี้สร้างผลงานดีต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา หลังรับอานิสงส์ออเดอร์ไหลเข้าต่อเนื่อง

นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) (PIMO-ไพโม่)ผู้ประกอบธุรกิจหลักผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ,มอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป,เครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง มอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำ มอเตอร์สำหรับปั๊มบ้าน เปิดเผยว่าทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 บริษัทฯ ยังคงตอกย้ำการเป็นผู้ผลิตชั้นนำของไทยและเป็นโรงงานที่ได้รับเลือกจากกลุ่มลูกค้าให้เป็นผู้ส่งมอบมอเตอร์เครื่องปรับอากาศ มอเตอร์อุตสาหกรรมและเครื่องสูบน้ำ ด้วยสินค้าที่มีคุณภาพและราคาน่าพอใจส่งมอบตรงเวลา

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคาดว่าคำสั่งซื้อสินค้า (ออเดอร์) จากลูกค้าในประเทศจะเริ่มกลับมาดีขึ้น ในขณะเดียวกันออเดอร์จากลูกค้าในต่างประเทศก็มีโอกาสดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน จึงทำให้คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้มีโอกาสสดใสและดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

“ธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างดีเยี่ยมและสร้างรายได้เติบโตต่อเนื่อง จากธุรกิจหลักได้แก่ธุรกิจผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioning Motor) มอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป (Induction Motor) เครื่องสูบน้ำ ปั้มหอยโข่ง มอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำมอเตอร์สำหรับปั้มบ้าน (Submersible Pump,Pool Spa Pump and Home Pump) สร้างรายได้ให้บริษัทฯ เพิ่มมากขึ้น  ซึ่งบริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการผลิตสินค้า ที่มีคุณภาพ ราคาที่น่าพอใจ ส่งมอบตรงเวลา มีใบรับรองระบบการจัดการคุณภาพสากล รวมถึงมาตรฐานการจัดการคุณภาพ CE และ UL เป็นหนึ่งในโรงงานที่ผลิตมอเตอร์ ที่มีคุณภาพสูง ดำเนินงานโดยกลุ่มผู้บริหารที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ในธุรกิจนี้เป็นอย่างดี” นายวสันต์ กล่าว

ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทฯ ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลาย รวมทั้งยังเน้นให้ความสำคัญด้านคุณภาพและความปลอดภัยในการใช้งาน โดยมีมาตรฐานการตรวจสอบระดับสากลที่ได้รับจากองค์กรชั้นนำทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศมากมายและสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่าต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการเติบโตของรายได้และผลตอบแทนที่ดีตามมา

นายวสันต์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับลูกค้ารายใหม่ที่มีฐานลูกค้าอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการประชุม เพื่อหารือแผนการผลิตร่วมกันและในอนาคตคาดว่าจะทำให้บริษัทฯ มีออเดอร์เข้ามา ซึ่งจะส่งผลดีทำให้บริษัทฯ เติบโตอย่างยั่งยืน ส่วนความคืบหน้าโครงการผลิตม่านอากาศให้กับลูกค้าในตะวันออกกลาง คาดว่าจะเริ่มผลิตและส่งมอบสินค้าได้ภายในปีนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้น PIMO-ไพโม่ อีกด้วย

- Advertisement -