บล.กรุงศรีฯ:
KSS Research Update : AOT Update (Buy, TP68)
มุมมองต่อปัจจัยเสี่ยง (1) ธนารักษ์ขึ้นค่าเช่า และ (2) ยกเลิก Duty free ขาเข้า เรามองเป็น Downside ต่อ AOT ไม่มาก แต่เรายังให้น้ำหนักต่อ (1) แนวโน้มกำไรปี FY24F-FY25F ฟื้นเด่น และ (2) มี Upside จากอีกหลายโครงการที่จะมีความชัดเจนมากกว่า เราจึงมองราคาหุ้นอ่อนตัวเป็นโอกาส “ทยอยสะสม”
ประเด็น :
- 27 มิ.ย. นายเผ่าภูมิ รมช.คลัง มอบนโยบายให้กรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้เพิ่ม 5% ต่อปี เบื้องต้นเรามองกระทบต่อ AOT ไม่มาก เพราะ
(1) สัญญาเช่าเดิม AOT จะสิ้นสุดในปี 2594 เชื่อว่าธนารักษ์ต้องรอสัญญาเดิมหมดอายุก่อนถึงจะปรับขึ้นค่าเช่าได้ หรือ
(2) เราลองคำนวณค่าเช่าที่ราชฯ ปี 67 อยู่ที่ 4 พันลบ. หากเพิ่มขึ้น 5% เท่ากับค่าเช่าส่วนเพิ่มจะอยู่ที่ 200 ลบ./ปี เท่านั้น เราจึงมองความเสี่ยงประเด็นนี้มีผลต่อ AOT น้อยมาก
- เมื่อ 27 มิ.ย. กระทรวงการคลังเตรียมเสนอผลการศึกษาการยกเลิก Duty free ขาเข้าต่อ ครม. แต่ รมว.คลังได้เสนอให้เลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน เบื้องต้นหากมีการยกเลิก Duty free ขาเข้าเราประเมินผลกระทบต่อ AOT ไม่เกิน <3% จาก
(1) พื้นที่ Duty free ขาเข้าคิดเป็นสัดส่วนราว 10% ของพื้นที่ Duty free ทั้งหมดหรือคิดเป็นส่วนแบ่งรายได้ 1.6-1.7 พันลบ./ปี และ
(2) เราเชื่อว่า AOT จะนำพื้นที่ Duty free ขาเข้าให้ผู้ประกอบการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจอื่นแทน เบื้องต้นเราประเมิน AOT จะมีรายได้กลับเข้ามา 50% ของรายได้ที่หายไป ดังนั้น ผลกระทบจากประเด็นข้างต้นจะอยู่ที่ราว 850 ลบ./ปี เท่านั้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 3% ของกำไร AOT และคิดเป็น Downside ต่อราคาเป้าหมาย (68 บาท) ราว 3%
- เรามองราคาหุ้น AOT ลดง -2% ในวันนี้เป็นโอกาส “ทยอยสะสม” เนื่องจาก
(1) มี Downside จาก 2 ปัจจัยลบข้างต้นไม่มาก <3%
(2) เราเชื่อว่า AOT จะมีรายได้จากโครงการใหม่ๆ ที่เราและตลาดยังไม่รวมในประมาณการเข้ามาชดเชยในอนาคต เช่น การประมูลผู้ให้บริการ Ground รายที่ 3 ที่สุวรรณภูมิ /การรับมอบ 3 สนามบิน /การพัฒนาที่ดินข้างสุวรรณภูมิ 2 แปลง /และการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมผู้โดยสาร Transit/Transfer เป็นต้น และ
(3) คาดกำไรสุทธิปี FY24F-FY25F เติบโตโดดเด่น +120% yy และ +28% yy ตามการฟื้นของอุตฯ การบิน ทั้งนี้ ปัจจุบันราคาหุ้น AOT ซื้อขายที่ PE’25F (ต.ค.24-ก.ย.25) ที่ 33x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยในอดีตเรามองว่าไม่แพงและสะท้อนปัจจัยเสี่ยงข้างต้นเเล้ว
