PCE ชะลอ แต่ Fund flow ไม่เลย / 1,290-1,310

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET แกว่งตัวออกข้าง: แรงหนุนจากความคลายกังวลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และมาตรการในประเทศ หากแต่จำกัดด้วยศก.จีนที่น่ากังวลและ Fund flowที่ไหลออกต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาด SET Index จะได้ Sentiment หนุนจากการเผย PCE ของสหรัฐฯเดือนพ.ค.67 ที่ชะลอตัวลงและจะเป็นปัจจัยหนุนต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดย PCE ขยายตัว 2.6% y-y และ 0.0% m-m จาก 2.7%y-y และ 0.3% m-m ด้าน Core PCE ขยายตัว 2.6%y-y และ 0.1%m-m จาก 2.8%y-y และ 0.3% m-m รวมถึงได้แรงหนุนจากมุมมองที่ดีเกินคาดของผู้บริโภคสหรัฐฯ หลังม.มิชิแกนเผย 1) ดัชนีความเชื้อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.67 ที่ 68.2 สูงกว่าตลาดคาดที่ 65.6 และ 2) ผู้บริโภคคาดเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 3.0% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า จาก 3.3% ในเดือนพ.ค.67 นอกจากนี้ มอง SET Index จะได้แรงหนุนจากแรงซื้อเก็งกำไรในหันทีที่เข้า SET50/100 อีกทั้ง มองมาตรการเพิ่ม Uptick ที่มีผลในวันนี้ เป็นอีกปัจจัยหนุนต่อ SET Index นอกจากนี้ ติดตามการประชุมครม.ศก.ในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจเป็นอีกแรงหนุน หลังรมช.คลังเผยจากนี้ไปจนถึงก่อนสิ้นปีนี้ รัฐบาลจะมีการออกมาตรการกระตุ้นศก.อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะมีดิจิทัลวอลเล็ต อย่างไรก็ตาม มองทางขึ้นจำกัดจากภาพความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของศก.จีน หลังว่านนี้เผย PMI เดือน มิ.ย.67 โดย 1) ภาคการผลิตอยู่ที่ 49.5 เท่ากับเดือนก่อนหน้า และเป็นการบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนหดตัวเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน และ 2) ภาคบริการอยู่ที่ 50.5 ชะลอลงจาก 51.1 ในเดือนพ.ค.67 และต่ำกว่าตลาดคาที่ 51.0 ขณะที่วันนี้ติดตามการเผย PMI ภาคผลิตเดือนมิ.ย.67 จาก Caixin ซึ่งอาจบ่งชี้แนวโน้มศก.เพิ่มเติม โดยตลาดคาดที่ 51.5 ลดลงจาก 51.7 ในเดือนพ.ค.67 นอกจากนี้ คาด Fund flow ยังคงมีแนวโน้มเป็นแรงกดดัน สอดรับกับนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิ 27 วันทำการติดต่อกันขณะที่คืนนี้ติดตามการเผย PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯเดือนมิ.ย.67 โดยตลาดคาดจาก S&PGlobal และ ISM ที่ 51.7 และ 49.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ค.67 ที่ 51.3 และ 48.7 ตามลำดับ
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) SET50/100: BA, BCP, CKP, ITC, PRM 2) ส่งออก: AAI, COCOCO, CPF, SAPPE, TFG 3) Defensive: ADVANC, BDMS, BH 4) พลังงาน: PTTEP, SPRC, TOP และ 5) TESG: CPALL, KTB, SCGP

ปัจจัยบวก

  • กรมธุรกิจพลังงานเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่าง Oil Plan 2024 โดยภาพรวมผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการตามร่างฉบับนี้ คาดว่าในมิติศก.จะมีเม็ดเงินลงทุนกว่า 1.13 แสนลบ. สามารถช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตไบโอดีเซลและเอทานอลกว่า 7.1 หมื่นลบ./ปี และช่วยประหยัดเงินตราต่างประเทศจากการนำเข้าน้ำมันดิบได้ 5.9 หมื่นลบ./ปี
  • ททท. ร่วมกับรฟท. และบริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด เปิดตัวกิจกรรม “สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม” ช่วงเดือนก.ค.-ส.ค.67 นำร่อง 6 เส้นทางการท่องเที่ยว หวังช่วยผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวภาคกลางแตะ 103.07 ล้านคน-ครั้ง
  • อังกฤษเผย GDP1Q67 ขยายตัว 0.7% q-q เพิ่มขึ้นจากที่เคยประมาณการไว้ก่อนหน้าที่ 0.6% q-q เท่ากับว่าศก.อังกฤษรอดพ้นภาวะถดถอยแล้ว โดยมีการใช้จ่ายภาคบริการเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ

ปัจจัยลบ

  • สศอ.เผย MPI เดือนพ.ค.67 อยู่ที่ระดับ 98.34 ลดลง 1.54% y-y ส่งผลให้ช่วง 5M67 เฉลี่ยอยู่ที่ 98.16 ลดลง 2.08% โดยมีปัจจัยกดดัน ได้แก่ ยอดผลิตยานยนต์ลดลงเป็นเดือนที่ 10 โดยหดตัวจากตลาดภายในประเทศ จากกำลังซื้อที่ลดลง จากปัญหาหนี้ครัวเรือน
  • โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เผยภาพรวมตลาดรถยนต์เดือนพ.ค.67 มียอดขาย 49,871 คัน ลดลง 23.4% y-y โดยตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดลดลงถึง 35.4% ด้วยยอดขาย 17,651 คัน
  • IMF เผยเฟดควรจะรอเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงอย่าง น้อยสิ้นปีนี้ โดยระบุว่าสหรัฐฯเป็นเพียงประเทศเดียวในกลุ่ม G20 ที่ศก.ขยายตัวในระดับสงกว่าช่วงก่อนโควิด ซึ่งการเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯมีความเสี่ยงที่จะอยู่ในช่วงขาขึ้น

PICKS OF THE DAY

CKP BUY

  • เป้าหมาย 4.10 / 4.20 แนวรับ 3.80
  • 2Q67 มีโอกาสพลิกฟื้นสู่กำไร: แม้ว่า 1Q67 จะขาดทุน 460 ลบ. จากการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนโรงไฟฟ้าไซยะบุรี (XPCL) อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2Q67 นี้ มองมีโอกาสพลิกสู่กำไร จากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น และต่อเนื่องสู่ 3Q67 ซึ่งเป็นช่วงที่สภาวะอากาศเปลี่ยนจาก เอลนิญโญ่ เป็นลานิญญ่า ซึ่งเป็น High Season ของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ
  • ดีเดย์ เข้าคำนวนดัชนี SET100: โดย CKP ติดโผเข้าคำนวนดัชนี SET100 รอบครึ่งปีหลัง (มีผล 1 ก.ค.–31 ธ.ค.67) จึงมองเป็นแรงหนุนจากโอกาสเข้าซื้อของทั้งกลุ่มกองทุนและกลุ่มนักลงทุนสถาบัน

PRM BUY

  • เป้าหมาย 9.00 / 9.30 แนวรับ 8.20 / 8.40
  • 2Q67 คาดกำไรโต q-q, y-y: คาดกำไร2Q67 จะดีขึ้น จากการรับเรือใหม่ 2 ลำใน 1Q67 และอีก 2 ลำใน 2Q67 กองเรือเพิ่ม ขึ้น อีกทั้งเรือใหญ่ 3 ลำ ที่เข้าอู่ใน 1Q67 กลับมาทำงานใน 2Q67หมด และการใช้น้ำมันในประเทศสูงขึ้น ตามการใช้น้ำมันเครื่องบิน (Jet-A1) ปริมาณการขนส่งจึงเพิ่มขิ้น รวมถึงเรือ FSU อัตราการใช้งานเรือสูงขึ้นจากความต้องการเก็บน้ำมันที่กลับมาดีขึ้น คาดกำไร 2Q67 จะโตทั้ง q-q, y-y
  • 2H67 มีรับเรือเพิ่ม และได้เข้า SET100: 2H67 ยังดีต่อเนื่องจาก 2Q67 และจะรับเรือ FSU เป็นเรือใหญ่ 1 ลำ อยู่ใน 3Q67 และอยู่ระหว่างจัดหาเรือขนส่งน้ำมันดิบ 1 ลำ ซึ่งทั้ง 2 ลำมีลูกค้ารอใช้งานแล้ว และเรือที่นำไปดัดแปลงเป็นเรือ FSO กลับเข้ามาทำงานปลายปี 2567 อีกทั้ง ได้เข้า SET100 เริ่ม 1 ก.ค. จึงมีความน่าสนใจของนักลงทุนมากขึ้น

 

- Advertisement -