บล. ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย): 

NIM ของกลุ่มแบงก์ในไตรมาส 2/67 น่าจะอ่อนตัว คาดไตรมาส 2/67 สินเชื่อโตชะลอตัว-NIM ลดลง ฉุดผลประกอบการ 5 แบงก์ใหญ่
  • เราประมาณการว่าธนาคาร 5 แห่งที่ศึกษา ได้แก่ BBL, KBANK, KTB, SCB และ TTB จะทำกำไรสุทธิในไตรมาส 2/67 ราว 4.8 หมื่นล้านบาท ลดลง 1.8% yoy และลดลง 7.2% qoq และมีกำไรก่อนตั้งสำรอง (PPOP) รวม 1.04 แสนล้านบาท ลดลง 4.2% yoy และลดลง 5.1% qoq
  • เชื่อว่าปัจจัยที่ฉุดผลประกอบการไตรมาส 2/67 ของกลุ่มธนาคาร คือ ยอดสินเชื่อที่เติบโตชะลอตัวและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ที่ลดลง ทั้งนี้คาดว่า NIM เฉลี่ยจะลดลง 10bp qoq เป็น 3.39% ในไตรมาส 2/67 จาก 3.49% ในไตรมาส 1/67 เพราะอัตราผลตอบแทนจากสินเชื่อลดลง หลังธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ในปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่มีปัญหาเป็นเวลา 6 เดือน
  • ขณะที่ต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น สินเชื่อเติบโตติดลบจากการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยคาดว่า ธนาคารใหญ่ 5 แห่ง จะมีอัตราการเติบโตของสินเชื่อเฉลี่ยเพียง 0.6% yoy และ 0% qoq ในไตรมาส 2/67 นี้
สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ น่าจะเป็นกลุ่มเดียวที่หนุนการเติบโต
  • ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยรายงานย่อแสดงทรัพย์สินและหนี้สินรายเดือนของธนาคารไทย 8 แห่ง ณ วันที่ 31 พ.ค.67 พบว่าธนาคารมียอดสินเชื่อรวมลดลง 0.4% mom และลดลง 0.5% จากยอดสินเชื่อในสิ้นปี 66 โดยแนวโน้มดังกล่าวสอดคล้องกับผลสำรวจภาวะและแนวโน้มสินเชื่อในไตรมาส 2/67 ที่ชี้ว่าอุปสงค์ของสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคชะลอตัวลง
  • ยังเชื่อว่า สถาบันการเงินได้เพิ่มความเข้มงวดของเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและ สินเชื่อรถในไตรมาส 2/67 โดยเฉพาะสินเชื่อรถ เนื่องจากความต้องการสินเชื่อกลุ่มนี้ลดลงและความน่าเชื่อถือทางเครดิตของลูกหนี้ลดลง ดังนั้นมองว่าสินเชื่อกลุ่มเดียวที่จะหนุนการเติบโตในไตรมาส 2/67 คือสินเชื่อธุรกิจ ขนาดใหญ่สำหรับใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
รายได้ดอกเบี้ยสุทธิจะลดลง qoq แต่จะเพิ่มขึ้น yoy
  • เราคาดว่า ในไตรมาส 2/67 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเฉลี่ยของธนาคารใหญ่ 5 แห่ง จะอยู่ที่ 1.43 แสนล้านบาท ลดลง 3.2% qoq และเพิ่มขึ้น 1.5% yoy โดยหากเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/67 เชื่อว่า BBL และ SCB น่าจะมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงมากสุดที่ 5.2% qoq และ 3.7% qoq ตามลำดับ โดยคาด NIM ในไตรมาส 2/67 ของธนาคารจะอยู่ที่ 14bp และ 11bp ตามลำดับ
  • ขณะเดียวกันประมาณการว่ารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยโดยรวมของธนาคารใหญ่ 5 แห่ง จะลดลง 10.5% yoy และ 6.8% qoq ในไตรมาส 2/67 เพราะรายได้ค่าธรรมเนียมอ่อนตัวลง ทั้งค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ, ตลาดทุน, การซื้อขายหลักทรัพย์และกองทุนรวมฯ และยังเชื่อว่ารายได้เหล่านี้จะยังไม่ฟื้น ตัวเนื่องจากมีการทำธุรกรรมน้อยลง และสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังไม่สดใส
แนะนำ Neutral เลือก BBL-KBANK เป็นหุ้น Top pick
  • ยังแนะนำ Neutral กลุ่มธนาคาร โดยเลือก BBL ราคาเป้าหมาย 183 บาท และ KBANK ราคาเป้าหมาย 178 บาท เป็น Top pick กลุ่มธนาคารไทยซื้อขายอยู่ที่ P/BV 0.57 เท่าในปี 67 หรือ -1SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี อย่างไรก็ตามอาจมี upside risk หากการบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้น, การส่งออกเติบโตดีขึ้นและรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ ส่วน downside risk จะมาจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ลดลงและความวุ่นวายทางการเมืองในไทย
- Advertisement -