คาดกรอบ SET แกว่งกรอบเดิม 1285-1320 จุด +/- รอคอยประเด็นทางการเมือง

  • คาดกรอบ SET แกว่งกรอบเดิม 1285-1320 จุด +/- รอคอยประเด็นทางการเมืองทั้ง คดียุบพรรคก้าวไกล ให้คู่กรณีมาตรวจพยานหลักฐาน 9 ก.ค. และ คดีพิจารณาหลักฐานคดีจริยธรรมนายกฯ กรณีประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของ 40 สว. ขอให้วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี โดย ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยื่นหลักฐานเพิ่มใน 15 วัน นัดพิจารณา 10 ก.ค.
  • สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจ จีนรายงาน Caixin Manufacturing PMI ออกมาใกล้เคียงคาดที่ 51.8 (ตลาดคาด 51.5) เป็นกลางต่อกลุ่มปิโตรเคมี (SCC IVL SCGP PTTGC)
  • กลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้นเทรดดิ้งกลุ่ม Mid-Small cap ที่ภาพรวมกำไร 2Q, 2H24 แข็งแกร่ง รวมถึงหุ้น Global play (Exports / Commodities) และ Defensive play (ICT / Hospital)
  • เราแนะนำ KLINIQ ITC TU GFPT HANA CPF TFG ADVANC ส่วน Domestic play ที่เรามองว่าหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมาพอสมควรและมีมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ (Undemanding Valuation) ได้แก่ CRC LH BBL HMPRO ซึ่งเรามองเป็นการ DCA เพื่อรอการฟื้นตัวใน 4Q24

หุ้นแนะนำ

TFG

  • สถานการณ์ในจีน กระทรวงเกษตรของจีนรายงานว่าจำนวนพ่อแม่พันธุ์สุกรในจีนลดลงซึ่งน่าจะมีสาเหตุจาก ราคาที่ตกต่ำในปี 2023 และ การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ที่ทำให้อุปทานของสุกรลดลง สถานการณ์ในเวียดนาม ราคาสุกรในเวียดนามอยู่ในขาขึ้นเพราะการระบาดของ ASF และ สถานการณ์การลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนค่อย ๆ ดีขึ้น
  • เราคาดว่าทิศทางราคาโภคภัณฑ์เป็นผลดีกับ CPF และ TFG มากขึ้นและน่าจะทำให้บริษัทมีกำไรเติบโตใน 2Q-3Q24 มากไปกว่านั้น CPF คาดว่าต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ในปี FY24 น่าจะต่ำกว่าปี FY23 ประมาณ 10%
  • ในเชิงกลยุทธ์ หุ้นกลุ่ม Commodity ยังได้รับผลกระทบน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Domestic plays จากความไม่แน่นอนทางการเมือง และ เราเชื่อว่าราคาหุ้นกลุ่มอาหารยังปรับตัวขึ้นน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Commodity อื่นๆ อาทิ ยางพารา / เรือเทกอง
  • (Take profit : 4.28 / Stop loss : 3.98 )

HANA

  • เราเชื่อว่าตลาดชิปแบบอนาล็อก (analog chip) ได้ผ่านจุดต่ำสุดใน 1Q24 แล้วและคาดว่ารายได้ของ Hana จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นช่วงหกเดือนข้างหน้า
  • สถานะสต็อกสินค้าของลูกค้าเริ่มดีขึ้นหลังจากปรับฐานอย่างมีนัยสำคัญช่วงหกเดือนที่ผ่านมา และ แนวทางจากผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลก (i.e. Texas Instruments, Broadcom) และคู่แข่งในธุรกิจการประกอบและทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ (OSAT) เป็นไปในทิศทางบวก
  • เราประมาณการว่า Powermaster Semiconductor (PMS) จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 22% qoq เป็น 110 ล้านบาท (-15% qoq) ใน 2Q24 จากการผลิตอุปกรณ์ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) เพิ่มขึ้น 50% และยอดขาย SiC ที่เพิ่มขึ้น 15% หลังอุปสงค์และราคาในจีนเริ่มทรงตัว
  • เราคาดว่า Hana จะมีกำไรปกติต่อหุ้นเติบโต 36% qoq เป็น 480 ล้านบาท (-36% yoy) ใน 2Q24 จากอัตราการใช้กำลังการผลิตและมาร์จินที่เพิ่มขึ้น
  • (Take profit : 47.00 / Stop loss : 41.50 )

Daily Global Market | 2 กรกฎาคม 2024

In News:

  • ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดในแดนบวก โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการเริ่มต้นครึ่งปีหลังของตลาดหุ้น การปรับตัวขึ้นนี้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานการจ้างงานประจำเดือน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้
  • ประเด็นสำคัญของสหรัฐประจำสัปดาห์นี้จะอยู่ที่การเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมประจำเดือนมิถุนายนในวันศุกร์ ตัวเลขเหล่านี้จะช่วยให้มองเห็นภาพตลาดแรงงานได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ FED ใช้พิจารณาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 189,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน จากเดือนก่อนหน้าที่ 272,000 ตำแหน่ง และ คาดว่า อัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.0%
  • ก่อนการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการเปิดรับสมัครงานที่จะเผยในวันอังคารนั้นคาดว่า จะลดลงอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม
  • ในวันพุธนี้ จะมีการเปิดเผยรายงานสรุปการประชุมของ FED เดือนมิถุนายน เนื้อหาของรายงานจะถูกวิเคราะห์เพื่อดูมุมมองของธนาคารเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อทิศทางของนโยบายการเงิน
  • นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ FED หลายรายจะออกมาแถลงในสัปดาห์นี้ นาย Jerome Powell ประธานธนาคารกลาง มีกำหนดกล่าวปาฐกถาในเวทีประจำปีของธนาคารกลางยุโรปที่ประเทศโปรตุเกสในวันอังคาร
  • ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐจาก S&P Global ขยับขึ้นสู่ระดับ 51.6 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับเดือนพฤษภาคมที่ 51.3 ทั้งนี้ แม้ว่าความเชื่อมั่นภาคธุรกิจจะแตะระดับต่ำสุดรอบ 19 เดือน แต่ดัชนี PMI ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน
  • กิจกรรมการผลิตทั่วยูโรโซนร่วงลงเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากความต้องการลดลง แม้โรงงานต่างๆ จะพยายามปรับลดราคาก็ตาม ดัชนี PMI ภาคการผลิตยูโรโซนสุดท้ายของ HCOB โดย S&P Global ลดลงสู่ระดับ 45.8 ในเดือนมิถุนายนจาก 47.3 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งสูงกว่าระดับคาดการณ์ที่ 45.6
  • ราคาบ้านในอังกฤษเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนมิถุนายนเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ตลาดที่อยู่อาศัยยังคงได้รับถึงผลกระทบของต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น ราคาบ้านหากพิจารณารายเดือนปรับเพิ่มขึ้น 0.2% ขณะที่สูงกว่าระดับเดือนมิถุนายนปีก่อนหน้าประมาณ 1.5%
  • ญี่ปุ่นแก้ไขการหดตัวของ GDP ในไตรมาสแรกสู่ระดับ 2.9% YoY จากระดับ 1.8% ที่รายงานก่อนหน้านี้ การแก้ไขดังกล่าวเกิดจากข้อมูลการลงทุนด้านการก่อสร้างใหม่
  • ในเดือนมิถุนายน โรงงานจีนขยายตัวเกินคาด ดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก Caixin ขยับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.8 เกินจากระดับคาดการณ์ที่ 51.5 และเพิ่มขึ้นจาก 51.7 ของเดือนก่อน ซึ่งตรงกันข้ามกับข้อมูลของรัฐบาลที่แสดงให้เห็นว่าการผลิตหดตัวในช่วงสองเดือน
  • กิจกรรมภาคการผลิตเกาหลีใต้โตขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนมิถุนายน สูงที่สุดในรอบ 26 เดือน เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่กระโดดขึ้นจากความต้องการจากทั่วโลกปรับตัวดีขึ้น ดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก S&P Global ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.0 ในเดือนมิถุนายน จากเดือนก่อนหน้าที่ 51.6
  • การส่งออกเกาหลีใต้ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน ได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่แข็งแกร่งของชิปและรถยนต์ ยอดขายในต่างประเทศปรับขึ้นขึ้น 5.1% จากปีก่อนหน้าสู่ระดับ USD 57.07 bn. ขณะที่การนำเข้าขยับลง 7.5% สู่ระดับ USD 49.07 bn.
  • ภาคการผลิตออสเตรเลียยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องเดือนมิถุนายน ดัชนี PMI ภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 47.2 ซึ่งขยับลดลงจาก 49.7 ในเดือนพฤษภาคม

Stock Movement

  • หุ้น Tesla Inc. (TSLA ND) พุ่งขึ้น 6.05% ก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าประจำ 2Q ที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันนี้ แม้ว่าการส่งมอบรถยนต์ 2Q จะสะท้อนถึงความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับช่วง 1H2024 แต่ Wedbush กล่าวว่า ผู้ผลิตรายนี้มีแนวโน้มการฟื้นตัวเล็กน้อย ซึ่งน่าจะช่วยให้ Tesla เข้าใกล้ประมาณการของตลาดที่ 435,000 คัน
  • หุ้น Nvidia Corp. (NVDA ND) ปรับบวก 0.62% Morgan Stanley ยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตของหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ พร้อมปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย
  • หุ้น Birkenstock Holding Plc. (BIRK NYSE) ขยับขึ้น 1.76% หลังจาก UBS ปรับเพิ่มเรตติ้งหุ้นจาก Hold สู่ระดับ Buy โดยมองว่า บริษัทมีราคาขายเฉลี่ยที่ขยับสูงขึ้นและมีการเติบโตที่แข็งแกร่งในตลาดเอเชีย
  • หุ้น Chewy Inc. (CHWY NYSE) ดิ่งลง 6.61 หลังจากทะยานขึ้นช่วงแรก 16% เนื่องจาก Roaring Kitty นักเทรดหุ้นมีมชื่อดังซื้อหุ้น Chewy จำนวน 9 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 6.6% ของบริษัทจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงแบบออนไลน์
  • หุ้น Boeing Inc. (BA NYSE) ไต่ขึ้น 2.58% บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินประกาศการเข้าซื้อ Spirit AeroSystems Holdings Inc. (SPR NYSE, +3.38%) มูลค่ารวม USD 4.7 bn.
  • หุ้น Anglo American Plc. (AAL LON) ปรับตัวลง 2.38% หลังบริษัทเหมืองกล่าวว่า ได้ระงับการผลิตที่เหมืองถ่านหินโลหะวิทยาในออสเตรเลียหลังจากเกิดเพลิงไหม้ใต้ดินเมื่อวันเสาร์
  • หุ้น Sanofi SA (SAN EPA) ปรับบวก 2.12% ผู้ผลิตยาสัญชาติฝรั่งเศสใกล้บรรลุการตัดสินใจลงทุนมูลค่าระหว่าง EUR 1.3 bn. – 15 bn. ที่โรงงานขนาดใหญ่ในแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี ซึ่งจะเป็นที่ผลิตอินซูลินยี่ห้อ Lantus
  • หุ้น Atos SE (ATO EPA) ปิดลบ 0.34% แม้ว่าบริษัทเทคโนโลยีของฝรั่งเศสบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มธนาคารและผู้ถือหุ้นกู้เกี่ยวกับเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้
  • หุ้น Nestle SA (NESN SWX) เพิ่มขึ้น 0.17% หลังจากที่ CEO กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารของสวิสตั้งเป้าการเติบโตที่มั่นคงของปริมาณการขายตั้งแต่ 2Q และตลอดช่วงที่เหลือของปีเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อต้นทุนผ่อนคลายลง
  • หุ้น TechnologyOne Ltd. (TNE ASX) ปิดปรับตัวร่วงลง 2.31% หลัง Goldman Sachs พิจารณาโอกาสของผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ระดับองค์กรในตลาด UK พร้อมให้เรตติ้งหุ้นที่ Buy และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นสู่ AUD 19.70
Sources: aastocks, briefing, businesstimes, cnbc, investing, japantoday, nasdaq, ryt9, thestandard
- Advertisement -