เผชิญแรงกดดันมากมาย / 1,275-1,305

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET ปรับตัวลงต่อ: การเผย CPI เดือนมิ.ย.67 ของยูโรโซน แม้ Headine เท่ากับตลาดคาดที่ 2.5% y-y และชะลอลงจาก 2.6% y-y ใน เดือนพ.ค.67 แต่ Core สูงกว่าตลาดคาดที่ 2.8%y-y โดยทรงตัวที่ 2.9%y-y เท่ากับเดือนก่อนหน้า ท่ามกลางเงินเฟ้อภาคบริการในยูโรโซน ที่ยังคงตัวในระดับสูงที่ 4.1% y-y ซึ่งอาจทำให้ ECB มีความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านราคา อีกทั้ง มองการเผยตัวเลขแรงงานที่แกร่งเกินคาดของสหรัฐฯจะเป็นอีก Sentiment ทางลบ หลังสหรัฐเผย JOLTS พบว่าการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้น 2.21 แสนตน. จาก 7.92 ล้านตน.ในเดือนเม.ย.67 สู่ 8.14 ล้านตน.ในเดือนพ.ค.67 และสูงกว่าตลาดคาดที่ 7.96 ล้านตน. กอปรกับถ้อยแถลงของปธ.เฟดเผยว่า ต้องการความมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวลงสู่ 2% อย่างยั่งยืน ก่อนที่จะเริ่มการผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งเป็นการสะท้อนว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะคงดอกเบี้ยในระดับสูงไปอีกสักระยะ ขณะที่วันนี้ติดตามการพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล ซึ่งอาจยังไร้ข้อสรุป เนื่องจากวันที่ 9 ก.ค.67 มีนัดให้คู่กรณีเข้าตรวจพยานหลักฐาน กอปรกับปธ.ศาลรธน.เผยว่าการพิจารณาคดีข้างต้นจะได้ข้อสรุปก่อนเดือนก.ย.67 ส่งผลให้ทางฝ่ายมองการเมืองไทยจะยังคงเป็น Overhang กดดัน SET Index ต่อไป อย่างไรก็ตาม คาด SET Index ยังพอมีแรงพยุงจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลัง API เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 มิ.ย.67 ลดลง 9.16 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าตลาดคาดที่ 0.15 ล้านบาร์เรล และพลิกจากการเพิ่มขึ้น 0.91 ล้านบาร์เรลในการรายงานสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกของอุปสงค์น้ำมันสหรัฐฯสำหรับตัวเลขศก.เดือนมิ.ย.67 ของต่างประเทศที่ต้องติดตามวันนี้ ได้แก่ 1) จีน: PMI ภาคบริการจาก Caixin ตลาด คาดที่ 53.4 จาก 54 ในเดือนพ.ค.67 และ 2) สหรัฐฯ: PMI ภาคบริการจาก S&P และ ISM ตลาดคาดที่ 55.1 และ 52.7 จากเดือนพ.ค.67 ที่ 54.8 และ 53.8 ตามลำดับ และการจ้างงานของภาคเอกชนจาก ADP ตลาดคาดที่ 1.59 แสนตน. จาก 1.52 แสนตน.ในเดือนพ.ค.67
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) ส่งออก: CBG, CPF, GFPT, ITC, SAPPE, TFG 2) พลังงาน: BCP, PTTEP, SPRC, TOP 3) Defensive: ADVANC, BEM, BH, INTUCH และ 4) เก็บสะสมหุ้น Dividend: NER, OSP, SCP, SIRI, SIS, STA, SUN, TTB

ปัจจัยบวก

  • รมว.ท่องเที่ยวฯเผยว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.67  ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา 17.5 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 8.26 แสนลบ.
  • นายกฯ เผยจะรับไปพิจารณา กรณีผู้ประกอบการร้านอาหาร ขอให้แก้ไขกฎหมายที่ล้าหลัง เช่น ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารช่วง 14.00-17.00 น.ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2515 นั้น
  • ครม.รับทราบผลการศึกษายกเลิกร้าน Duty Free ทั้งนี้ จากผลการศึกษาของก.คลังพบว่ากรณีที่มีการหยุดดำเนินการร้าน Duty Free ขาเข้าเป็นระยะเวลา 1 ปี คาดว่าจะส่งผลให้ GDP ขยายตัวได้เพิ่มขึ้น 0.012% ต่อปี
  • ThaiBMA เผยหุ้นกู้ผิดนัดชำระในช่วง 1H67 มี 3 บริษัท รวม 1.1 พ้นลบ.เทียบกับปี 66 ที่มีหุ้นกู้ผิดนัดชำระ 22 รุ่น จากผู้ออก 5 ราย มูลค่ารวม 1.64 หมื่นลบ. และค่าดว่า 2H67 จะมีมูลค่าหุ้นกู้ออกใหม่ใกล้เคี้ยงมูลค่า หุ้นกู้ครบกำหนดที่ 4.43 แสนลบ.

ปัจจัยลบ

  • รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ขึ้นค่าโดยสาร เริ่มต้น 17 บ. สูงสุด 45 บ. มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.67-2 ก.ค.69 ซึ่งอาจส่งผลกดดันค่าครองชีพ
  • สมาคมผู้แทนจำหน่ายรถยนต์แห่งญี่ปุ่น และสมาคมรถยนต์ขนาดเล็กของญี่ปุ่น รายงานตัวเลขเบื้องต้นว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในญี่ปุ่นลดลง 13.2% y-y แตะ 2.13 ล้านคันในช่วง 1H67 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีที่ยอดข้ายลดลงต่ำกว่าตัวเลขของปีก่อนหน้า
  • ญี่ปุ่นเผย PMI ภาคบริการเดือนมิ.ย.67 ที่ 49.4 ลดลงจาก 53.8 ในเดือนพ.ค.67 และต่ำกว่าตลาดคาดที่ 49.8 อีกทั้ง เป็นการบ่งชี้ว่าภาคบริการของญี่ปุ่นหดตัว
  • เกาหลีใต้เปิดเผยว่าเกาหลีใต้ได้กลับมาซ้อมรบด้วยกระสุนจริงใกล้กับชายแดนเกาหลีเหนืออีกครั้ง เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี หลังจากที่ได้ระงับสนธิสัญญาทางการทหารทวิภาคีที่ลงนามร่วมกันเมื่อปี 2561

PICKS OF THE DAY

CPF BUY

  • เป้าหมาย 24.00 / 24.30 แนวรับ 23.20
  • ราคาสุกรต่างประเทศปรับตัวขึ้นดี: ราคาสุกรในเวียดนาม จีน กัมพูชา ปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วง 2Q67 CPF ได้ประโยชน์จากมีสัดส่วนรายได้ในเวียดนามและจีนมากสุดในอุตสาหกรรมรวมกว่า 26%ของรายได้รวม
  • 2Q67 ฟื้นตัวต่อ: 2Q67 มีแนวโน้มกำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น y-y และ q-q จากราคาสุกรในหลายประเทศที่ปรับตัวขึ้น ในขณะที่ราคาสุกรไทย 2Q67 เฉลี่ย 69 บาท/กก. สูงขึ้น q-q, สุกรในเวียดนามและไทยที่ปรับตัวขึ้นทำให้ CPF จะมีกำไรจากการตีมูลค่าสินทรัพย์ชีวภาพ และยังมีต้นทุนการเลี้ยงเฉลี่ยที่ลดลงต่อเนื่อง

PTTEP BUY

  • เป้าหมาย 155.00 / 160.00 แนวรับ 150.00
  • แรงกดดันด้านอุปทานยังมี: สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดเนื่องจากความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งสถานการณ์ยังมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น เช่นเดียวกับความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียที่ยังมีต่อเนื่อง
  • 2Q67 มีปัจจัยหนุน: ช่วง 2Q67 คาดกำไรมีปัจจัยหนุนจากทั้งด้านปริมาณขายจากการเพิ่มกำลังการผลิตของแหล่งเอราวัณ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองกับการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากประเด็นการเมืองภายในประเทศในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ในด้านปัจจัย พื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง ทางฝ่ายจึงมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าสะสม
- Advertisement -