เราคาดกรอบ SET ที่ 1280-1315 จุด Overhang คำตัดสินทางการเมืองยังคงอยู่

  • เราคาดกรอบ SET ที่ 1280-1315 จุด Overhang คำตัดสินทางการเมืองยังคงอยู่ โดย ประธานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงว่า คดียุบพรรคก้าวไกล และ คดีพิจารณาหลักฐานคดีจริยธรรมนายกฯ มีแนวโน้มได้ข้อสรุปก่อนเดือน ก.ย. 2024 หรือ นับจากนี้อีกเกือบ 2 เดือน
  • Uptick rule ที่มีการเริ่มใช้ในเดือนก.ค. 2024 ทำให้เริ่มเห็นแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติบ้างในรอบหลายสัปดาห์ อย่างไรก็ดี SET Index ก็ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากประเด็นทางการเมืองดังกล่าว
  • ในส่วนของภาพต่างประเทศ คำสุนทรพจน์ของ FED เกี่ยวกับ Disinflationary path ยังคงคลุมเคลือ เรื่องการปรับดอกเบี้ยสู่ระดับ 2% / จับตา Non-farm payroll ศุกร์นี้ตลาดคาด +200k
  • จากนี้จับตาพัฒนาการณ์ทางการเมืองและผลประกอบการณ์ใน 2Q24 เริ่มโดย กลุ่มแบงค์ โดย เราประมาณการว่ากำไรสุทธิโดยรวมใน 2Q24 ของธนาคารใหญ่ห้าแห่งจะลดลง 1.8% yoy และ 7.2% qoq เพราะส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยคาดจะลดลง qoq เหลือ 3.39% เราเชื่อว่าสินเชื่อจะยังเติบโตชะลอตัวใน 2Q24 เนื่องจากธนาคารยังใช้เกณฑ์การปล่อยสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคที่เข้มงวด
  • ยังแนะนำ Neutral กลุ่มธนาคาร โดยเลือก BBL และ KBANK เป็นหุ้น Top pick
  • กลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้นเทรดดิ้งกลุ่ม Mid-Small cap ที่ภาพรวมกำไร 2Q, 2H24 แข็งแกร่ง รวมถึงหุ้น Global play (Exports / Commodities) และ Defensive play (ICT / Hospital)
  • เราแนะนำ KLINIQ ITC TU GFPT HANA CPF TFG ADVANC
  • ส่วน Domestic play ที่เรามองว่าหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมาพอสมควรและมีมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ (Undemanding Valuation) ได้แก่ CRC LH BBL HMPRO ซึ่งเรามองเป็นการ DCA เพื่อรอการฟื้นตัวใน 4Q24 (เน้นสะสมช่วงปลาย 3Q24)

หุ้นแนะนำ

  • BJC
    • Trading BJC หลังราคาปรับตัวลดลงมาพอสมควร และ BigC ปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจจากเดิมที่เน้นอัตรากำไรมาเป็นการเน้นเพิ่มยอดขายรวมทั้งมีการจัดโปรโมชั่นเชิงรุกและแคมเปญลดราคาน่าจะทำให้ปริมาณการขายและส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มสูงขึ้น โดย อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) มีแนวโน้มดีขึ้นจาก -3% ในเดือนเม.ย.-พ.ค. 2024 เป็น +2% ในเดือนมิ.ย. 2024
    • ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจทำให้ EPS เติบโตได้สูงกว่าคาดและน่าจะช่วยทำให้อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยและรายได้ค่าเช่าเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
    • (Take profit : 21.40 / Stop loss : 20.30)
  • TFG
    • กระทรวงเกษตรของจีนรายงานว่าจำนวนพ่อแม่พันธุ์สุกรในจีนลดลงซึ่งน่าจะมีสาเหตุจาก ราคาที่ตกต่ำในปี 2023 และ การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ที่ทำให้อุปทานของสุกรลดลง ราคาสุกรในเวียดนามอยู่ในขาขึ้นเพราะการระบาดของ ASF และ สถานการณ์การลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนค่อย ๆ ดีขึ้น
    • เราคาดว่าทิศทางราคาโภคภัณฑ์เป็นผลดีกับ CPF และ TFG มากขึ้นและน่าจะทำให้บริษัทมีกำไรเติบโตใน 2Q-3Q24 มากไปกว่านั้น CPF คาดว่าต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ในปี FY24 น่าจะต่ำกว่าปี FY23 ประมาณ 10%
    • (Take profit : 4.18 / Stop loss : 4.00 )

Daily Global Market / 4 กรกฎาคม 2024

In News:

  • ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับนิวไฮ นักลงทุนเพิกเฉยต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ส่งผลให้นักลงทุนคาดหวังว่า จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
  • การจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนมิถุนายนขยับขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่ง ต่ำที่สุดนับแต่เดือนมกราคม และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์นักวิเคราะห์ที่ระดับ 160,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้นเดือนพฤษภาคม 157,000 ตำแหน่ง ส่วนตัวเลขค่าจ้างเพิ่มขึ้นเพียง 4.9% YoY เดือนมิถุนายน ปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดนับแต่สิงหาคม 2021 หลังจากเพิ่มขึ้น 5.0% เดือนพฤษภาคม
  • สัปดาห์ที่แล้ว ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 238,000 ราย และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 234,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.858 ล้านราย สูงสุดนับแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ 1.840 ล้านรายของนักวิเคราะห์
  • ดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐประจำเดือนมิถุนายนขยับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.3 ซึ่งสูงสุดนับแต่เดือนเมษายน 2022 จากระดับ 54.8 ในเดือนก่อนหน้า จากแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน รวมถึงการปรับตัวดีขึ้นของความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจ
  • คำสั่งซื้อภาคโรงงานสหรัฐประจำเดือนพฤษภาคมขยับตัวลง 0.5% ไม่เป็นตามที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะปรับเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากขยับขึ้นเมื่อเดือนก่อนหน้า 0.4% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและการชะลอตัวของอุปสงค์ ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ที่ไม่รวมหมวดอาวุธและเครื่องบินปรับตัวลง 0.6%
  • ด้านการเมืองสหรัฐ มีรายงานว่าประธานาธิบดี Joe Biden กำลังพิจารณาที่จะยกเลิกการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับอดีตประธานาธิบดี Donald Trump หากยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการลงสมัครรับเลือกตั้ง หลังจากการอภิปรายชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดที่หลายฝ่ายเห็นว่า ไม่ดีนัก ทั้งนี้ มีการคาดการณ์อย่างแพร่หลายว่า นาง Kamala Harris จะเป็นตัวเลือกอันดับแรก หากประธานาธิบดีเลือกที่จะออกจากการชิงตำแหน่ง
  • นักลงทุนจับตามองการเมืองในยุโรป โดยทั้งฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรจะจัดการเลือกตั้งรัฐสภาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า กลุ่มขวาจัดชนะการเลือกตั้งรัฐสภาฝรั่งเศสรอบแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้โอกาสที่อำนาจของ RN ที่ต่อต้านผู้อพยพและต่อต้านการอพยพจะชนะในสุดสัปดาห์นี้แม้ว่าจะยังคงไม่แน่นอน ด้านสหราชอาณาจักรเตรียมจัดการเลือกตั้งในวันพฤหัสบดีท่ามกลางความคาดหวังว่า พรรคแรงงานฝ่ายค้านจะได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย
  • ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ยังไม่แน่ใจเรื่องการเพิ่มภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน ประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศที่ขายรถยนต์จำนวนมากไปยังจีนคัดค้านการขึ้นภาษีนี้ ในขณะที่ฝรั่งเศสสนับสนุนมาตรการดังกล่าว ส่วนประเทศสมาชิกอื่นๆ ส่วนใหญ่ยังคงตัดสินใจเรื่องนี้เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่อาจเกิดขึ้นกับจีน
  • กิจกรรมทางธุรกิจภาคบริการของเยอรมนีประจำเดือนมิถุนายนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แม้อัตราการขยายตัวจะลดลงเล็กน้อย ส่งผลให้ไตรมาสที่ 2 เป็นไปในเชิงบวก ดัชนี PMI ภาคบริการจาก HCOB ลดลงจาก 54.2 ในเดือนพฤษภาคมสู่ระดับ 53.1 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งต่ำกว่าประมาณการเบื้องต้นที่ 53.5 เล็กน้อย
  • บริการภาคธุรกิจญี่ปุ่นหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปีเดือนมิถุนายน เนื่องจากความต้องการภายในประเทศลดลงแม้ว่าความเชื่อมั่นทางธุรกิจและตัวชี้วัดการจ้างงานยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ดัชนี PMI จาก au Jibun ลดลงสู่ระดับ 49.4 ในเดือนมิถุนายนจาก 53.8 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งยุติการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 21 เดือน
  • ภาคบริการของจีนขยายตัวช้าลงมากที่สุดในรอบ 8 เดือน ดัชนี PMI ของ Caixin/S&P Global ลดลงจาก 54.0 ในเดือนพฤษภาคมสู่ระดับ 51.2 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 แต่ยังคงอยู่ในภาวะขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 ติดต่อกัน
  • รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศให้การสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมถึงภาคการก่อสร้าง ที่กำลังเผชิญความยากลำบากจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2024 โดยพร้อมปรับเพิ่มประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจของปีนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลเตรียมมาตรการสนับสนุนมูลค่ารวม KRW 25 tr. สำหรับการเติบโตเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง คาดว่า จะเติบโต 2.6% ในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 2.2% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมกราคม
  • ร้านค้าปลีกในออสเตรเลียมีรายงานยอดขายในเดือนพฤษภาคมสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนหลักจากโปรโมชั่นและส่วนลดปลายปีงบประมาณของร้านค้าปลีกต่างๆ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงทรงตัว เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่สูงและอัตราดอกเบี้ยที่ส่งผลต่อการชะลอตัวของการใช้จ่ายลงอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา ยอดขายภาคค้าปลีกเติบโต 0.6% MoM ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ที่ 0.3% และเพิ่มขึ้นจาก 0.1% ในเดือนก่อนหน้า

Stock Movement

  • หุ้น Paramount Global (PARA ND) ทะยานขึ้น 6.90% หลังจากที่ Reuters รายงานว่า National Amusements ได้ทำข้อตกลงเบื้องต้นในการขายหุ้นให้กับ Skydance Media
  • หุ้น Apple Inc. (AAPL ND) ปรับตัวบวก 0.58% มีรายงานว่า บริษัทผู้ผลิต iPhone จะเข้าไปเป็นกรรมการหรือผู้สังเกตการณ์ในคณะกรรมการบริษัท OpenAI ผู้สร้างโปรแกรม ChatGPT ซึ่งอาจสื่อถึงการติดตามสถานการณ์เทคโนโลยี AI ของ Apple
  • หุ้น Eli Lilly (LLY NYSE) ขยับตัวร่วงลง 0.95% แม้ว่าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาอนุมัติยารักษาโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งขยายทางเลือกในการรักษาที่จำกัดสำหรับโรคดังกล่าว
  • หุ้น Tesla Inc. (TSLA ND) พุ่งขึ้น 6.54% หลังบริษัทรายงานยอดส่งมอบรถยนต์ที่สูงกว่าคาดการณ์ในช่วง 2Q นักวิเคราะห์จาก Wedbush ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย 12 เดือนของบริษัทขึ้นสู่ระดับ USD 300 จาก USD 275 การคาดการณ์ใหม่นี้บ่งชี้ถึงโอกาส upside 30% เมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดวันอังคาร
  • หุ้น GSK Plc. (GSK LON) ปิดลบ 0.37% หลังบริษัทซื้อสิทธิทั้งหมดในการพัฒนาและผลิตวัคซีนสำหรับไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA จากบริษัท CureVac ด้วยมูลค่ามากกว่า USD 1 bn.
  • หุ้น Vodafone Group Plc. (VOD LON) ไต่ขึ้น 1.02% บริษัทโทรคมนาคมบรรลุข้อตกลงแบ่งปันเครือข่ายใหม่กับ Virgin Media O2 ในสหราชอาณาจักร ซึ่งรวมถึงแผนการปรับคลื่นความถี่ ซึ่งอาจช่วยให้ Vodafone ได้รับอนุมัติตามกฎหมายสำหรับการควบรวมกิจการกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถืออย่าง Three
  • หุ้น Topps Tiles Plc. (TPT LON) ปรับตัวลง 2.70% หลังจากที่บริษัทค้าปลีกกระเบื้องสัญชาติอังกฤษรายงานว่า สภาวะตลาดที่ท้าทายยังคงดำเนินต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ ท่ามกลางความอ่อนแอของกิจกรรมการซ่อมบ้านและยอดขาย
  • หุ้น L’Oreal SA (OR EPA) ปิดลบ 0.049% แม้ RBC Capital Markets ชี้ว่า L’Oreal มีการเติบโตทั้งด้านขนาดตลาดและส่วนแบ่งการตลาดจากยอดขายที่แข็งแกร่ง แม้จะปรับราคาขึ้นและเผชิญกับความท้าทายในประเทศจีน แต่ L’Oreal ยังคงสามารถขายสินค้าได้มากกว่าเดิม ซึ่งส่งผลดีต่อราคาหุ้นในอนาคต ทั้งนี้ ทาง RBC ได้ปรับเรตติ้งหุ้นขึ้นจาก Underperform สู่ Sector Perform
  • หุ้น Diageo Plc. (DGE LON) ปรับบวก 1.60% Citi มองว่า ผู้ผลิตวิสกี้ Johnnie Walker กำลังเผชิญกับปริมาณสินค้าคงคลังที่สูงเนื่องจากความต้องการที่ลดลง แต่ผลประกอบการที่จะเผยในวันที่ 30 กรกฎาคมอาจช่วยฟื้นฟูความสนใจนักลงทุน นอกจากนี้ ธุรกิจเบียร์ของบริษัทยังมีศักยภาพการเติบโตที่ดี ทั้งนี้ Citi ได้ปรับเพิ่มเรตติ้งหุ้นจาก Neutral สู่ระดับ Buy
  • หุ้น BYD Co., Ltd. (1211 HK) ขยับบวก 0.88% บริษัทได้ลงนามข้อตกลงกับ Ayvens บริษัทให้เช่ารถสัญชาติฝรั่งเศสที่สำนักงานใหญ่ของ BYD ในเซินเจิ้น เพื่อจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลและรถยนต์ขนาดเบาให้กับลูกค้าในยุโรป
  • หุ้น Cathay Pacific Airways Ltd. (0293 HK) ขยับขึ้น 0.13% สายการบินประสบความสำเร็จตามแผนการฟื้นฟูเที่ยวบินโดยสาร โดยปัจจุบันช่วง 2Q2024 มีจำนวนเที่ยวบินกลับมาให้บริการคิดเป็น 80% ของระดับก่อนเกิดโควิด-19 และมีแผนจะเพิ่มขึ้นเป็น 100% ภายในช่วง 1Q2025
  • หุ้น Li Auto Inc. (2015 HK) ขยับบวก 5.35% บริษัทมียอดขาย 109,000 คันในช่วง 2Q2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 35% QoQ และปรับขึ้น 25% YoY ขณะที่แนวโน้มยอดขายใกล้เคียงกับ 50,000 คันต่อเดือน อย่างไรก็ตาม Macquarie ปรับลดประมาณการยอดขายปี 2024 และ 2025 ลง 5% และ 9% ตามลำดับ โดยคำนึงถึงตลาด EV ที่แข่งขันรุนแรงขึ้น
  • หุ้น BHP Group Ltd. (BHP ASX) ปิดบวก 1.14% Goldman Sachs เชื่อว่าหุ้น BHP เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุน โดยคงเรตติ้งซื้อและราคาเป้าหมายที่ AUD 48.40

Sources: aastocks, briefing, businesstimes, cnbc, investing, japantoday, nasdaq, ryt9, thestandard

- Advertisement -