บล.กรุงศรีฯ: 

KSS Research Update SCGP (Trading Buy; TP38.5)

ราคาหุ้นปรับลง -6% ยังไม่พบข่าวกระทบโดยตรงใหม่ คาดปัจจัยกดดันอาจมาจาก

i) ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2024 ครบกำหนด exercise สิทธิ์ซื้อ/ขาย Fajar ส่วนที่เหลือ 44.48% มูลค่า 2.3 หมื่นลบ. กำหนดชำระเงินภายใน 3Q24F (ใช้สิทธิ์ตามกำหนด) ซึ่งการซื้อดังกล่าว premium กว่า Book value คาดมีโอกาสเห็นการ adjust ราว -16,698 ลบ หรือราว -3.89 บาท/หุ้น ในส่วนของ equity ใน 3Q24F(จะไม่เห็นผลกระทบในงบกำไรขาดทุน ทั้งนี้เรายังไม่รวมในประมาณการ)

ii) ความกังวลสงครามการค้า U.S.-จีน (จีนคิดเป็นราว6% ของรายได้) และ ตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน อาจส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจจีน และ demand ในภูมิภาค รวมถึงต้นทุนค่าขนส่ง ทั้งนี้ต้นทุนค่าขนส่งของ SCGP คิดเป็นราว 4-5% ของต้นทุนทั้งหมดในช่วง 2020-23 (ช่วงดังกล่าวมีภาวะค่า freight ผันผวนลักษณะเดียวกับ 1H24 เช่นกัน) 

เบื้องต้นประเมินทุกๆรายได้ที่ต่ำกว่าคาด 1% กระทบกำไร 2024F  (6 พันลบ.) ราว 214 ลบ. หรือ -4% และทุกๆค่าขนส่งที่เพิ่มขึันทุกๆ 5% จะกระทบกำไร -4%

iii) คาดกำไร 2Q24F ลดลง q-q จากวันหยุดมาก และมีปิดซ่อมโรง Fibrous

มองราคาหุ้นที่ปรับลงน่าจะสะท้อนความกังวลไประดับหนึ่ง เรายังคงมุมมอง 2H24F ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคฟื้นตัว คงคำแนะนำ Trading Buy ที่ TP24F=38.5

ความเสี่ยงสำคัญ overhang ความกังวลการค้าจีนจะยังคงอยู่ใน 2H24F และหากสุดท้ายเกิดสงครามการค้ารุนแรงจะกระทบประมาณการอย่างมีนัยสำคัญ ผู้รับความเสี่ยงไม่ได้ต้องหลีกเลี่ยงการลงทุนไปก่อน

- Advertisement -