แกว่งรอด CPI ไทย+เลือกตั้ง UK / 1,290- 1,305

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

SET แกว่งตัวออกข้าง: ระหว่างรอระหว่างรอปัจจัยใหม่ โดยวันนี้มีปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนตลาด ได้แก่ 1) ตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน มิ.ย. โดย Core CPI คาดจะออกมาที่ 0.4%y-y ขยายตัวจากเดือนก่อนที่ 0.39%y-y ขณะที่ CPI คาดจะออกมาที่ 1%y-y ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ 1.54%y-y ภาพ Core CPI สะท้อนกำลังซื้อที่เร่งตัว ขณะที่ CPI ที่ชะลอตัวสะท้อนภาพการลดลงของระดับราคาสินค้าและบริการ เป็นบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจ 2) เข้าสู่วันหยุด Independence day ของสหรัฐ ในช่วง Driving season ที่อากาศอบอุ่น ยังหนุนทิศทางบวกให้หุ้นพลังงาน 3) ย่างเข้าสู่ช่วง High season ของหุ้นในหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มโรงพยาบาลที่ได้ประโยชน์จากการเข้าสู่ไตรมาส 3 ที่มีฝนชุก และเกิดโรคตามฤดูกาล กลุ่มท่องเที่ยว เนื่องจากเข้าสู่ High season ของการท่องเที่ยวเกาะสมุย และหุ้นที่มีสัดส่วนส่งออกสูง เนื่องจากเป็นช่วงที่จะเกิดการสต๊อกสินค้าก่อนที่จะเข้าสู่ไตรมาส 4 ที่มีวันหยุดเยอะ 4) คืนนี้ลุ้นตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐ ได้แก่ ค่าจ้างรายชั่วโมงเดือน มิ.ย. คาดออกมาที่ 3.9%y-y ลดลงจากเดือนก่อนที่ 4.1%y-y ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน มิ.ย. คาดออกมาที่ 1.94 แสนตำแหน่ง ลดลงจากเดือนก่อนที่ 2.72 แสนตำแหน่ง หากออกมาตามคาดจะสอดคล้องกับตัวเลขภาคแรงงานที่ออกมาในช่วงก่อนหน้า ช่วยสร้างความหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด นอกจากนี้คาดตลาดจับตาผลการเลือกตั้งอังกฤษล่าสุดพรรคฝ่ายแรงงานได้ที่นั่งในสภาไปแล้ว 13 ที่ โดยในครั้งนี้ต้องการที่นั่งในสภากว่า 326 ที่ค่าเงินปอนด์แข็งค่าตอบรับการเลือกตั้ง และนโยบายของพรรคแรงงานที่อิงไปในทางสร้างความมั่นคงให้ระบบเศรษฐกิจ และสร้างเสถียรภาพภายใน พร้อมปรับลดหนี้สาธารณะและแก้ไขงบประมาณที่เคยขาดดุลให้กลับมาสมดุลใน 5 ปี ส่วนในสัปดาห์หน้า ติดตามการแถลงนโยบายการเงินของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส CPI จีน และ CPI สหรัฐ เดือน มิ.ย.

กลยุทธ์การลงทุน : 1) เก็งงบกลุ่มธนาคาร: KTB, KBANK, TTB 2) พลังงาน: BCP, PTTEP, SPRC, TOP 3) เข้า High Season : BH, BDMS, ITC, BA, DELTA, HANA 4) ค้าปลีก : BJC, CPN, HMPRO, CPALL, CPAXT และ 5) Selective: GULF, AOT, ADVANC

ปัจจัยบวก

  • ธ.กลางจีนวางแผนยืมพันธบัตรรัฐบาลจากธนาคารใหญ่ 2 แห่ง คือธนาคารโพสทัล เซฟวิงส์ แบงก์ ออฟ ไชน่า และ ธนาคาร ICBC เพื่อใช้ชะลอความร้อนแรงตลาด
  • รมช.คมนาคม เผยขณะนี้ได้เสนอโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงส่วนต่อขยาย เส้นทางช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว และจะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อนำเข้าครม.ในลำดับถัดไป ขณะที่อีก 2 เส้นทาง คือ ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา และตลิ่งชัน-ศิริราช คาดจะนำเข้าครมได้ในเดือน ก.ค.-ส.ค.
  • สมาคมผู้ผลิตและผู้คารถยนต์ของอังกฤษ เผยยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในเดื้อนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 179,263 คัน โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากยอดขายในกลุ่มลูกค้าองค์กร
  • BYD วางแผนตั้งโรงงานเพื่อขึ้นรูป เชื่อม และประกอบยานยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยจะมีกำลังการผลิตกว่า 1.5 แสนค้นต่อปี คาดจะสร้างงานในไทยได้กว่า 1 หมื่นตำแหน่ง

ปัจจัยลบ

  • อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2567 อยู่ที่ 157.13 ล้านลิตร/วัน ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.4%
  • ธปท. มองภาพเศรษฐกิจไทยในช่วงปี 2566-2571 คาดว่าจะเติบโตได้แค่ราว 3% ซึ่งเป็นระดับศักยภาพของไทยในปัจจุบันที่ลดลงจากในอดีต และยากที่จะกลับไปเติบโตได้สูงถึง 4-5% เช่นกับในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
  • หัวหน้าฝ่ายความเสี่ยงของประเทศในเอเชีย ของ BMI ชี้ ประชากรวัยทำงานในจีนจะลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษหน้า และเศรษฐกิจจีน ต้องเผชิญกับการเติบโตของ GDP ที่ลดลง 1% ต่อปี ตลอด 10 ปี ข้างหน้านี้
  • สรท. ชี้ส่งออกไทยครึ่งปีหลังหดตัว มองโตเพียง 1-2% คาดจะมีปัจจัยเสี่ยง คือ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยึดเยื้อ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนและการตั้งกำแพงภาษีระหว่างกันและชาติพันธมิตร

PICKS OF THE DAY

BDMS BUY

  • เป้าหมาย 28.00 / 29.00 แนวรับ  25.50 / 26.00
  • 3Q67 รักษามากขึ้น: เข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทยในช่วง 3Q จะเป็นช่วงที่มีความต้องการรักษาต่างๆ เช่น โรค ติดต่อที่เป็นง่ายช่วงฤดูฝน การเกิดอุบัติเหตุบนถนนที่ง่ายขึ้น หรือกระทั่งสัตว์มีพิษต่างๆ จะทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น BDMS ที่มีโรงพยาบาลกว่า 57 แห่งในประเทศ จะได้รับปัจจัยบวกจากยอกผู้ป่วยที่มีมากขึ้น
  • เดินหน้าตลาดต่างประเทศ: BDMS ได้เดินหน้า Road Show เพื่อขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศมากขึ้น โดยโปรโมท COEs ที่มีความสามารถโรคกลุ่ม NCDs ที่มีความซับซ้อน ขณะที่ราคาค่ารักษาถูกกว่าในต่างประเทศ ซึ่งช่วยดึงดูดผู้ป่วยต่างชาติในการ Fly-in เพื่อมารักษาโดยเฉพาะ ซึ่งด้วยการรักษาโรคซับซ้อน ทำให้มี Margin ที่สูงกว่าการรักษาโรคทั่วไป

KTB BUY

  • เป้าหมาย 18.00 / 18.50 แนวรับ 17.20
  • คาดกำไร 2Q67 ทำ New high: ทางฝ่ายคาด KTB จะมีกำไร 2Q67 11.1 พันลบ. เป็นระดับ New high ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน โดยคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น 9.6% y-y และ 0.4% q-q จากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
  • ได้ประโยชน์จากโครงการภาครัฐ: เนื่องจาก KTB มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือกองทุนเพื่อการฟื้นฟู ฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ และรัฐบาลมักจะใช้ KTB เป็นตัวกลางในการส่งผ่านนโยบายการเงิน ทำให้มองว่า KTB จะได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนต่าง ๆ ของรัฐบาลทั้งการปล่อยสินเชื่อโดยตรง การที่ลูกค้ามีความต้องการสินเชื่อเพื่อลงทุนมากขึ้น รวมไปถึงการได้รับรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมต่าง ๆ ที่จะมาผ่านที่ KTB
- Advertisement -