บล.พาย:

MTC: Muangthai Capital PCL

คาดกำไรฟื้นตัวต่อเนื่องใน 2Q24

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐานที่ 53 บาท ราคาหุ้นปรับลดลงราว 2% YTD เพราะความกังวลต่อการเมืองในประเทศ และเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเปาะบาง แม้ว่า MTC มีการฟื้นตัวแข็งแกร่ง และการจัดการคุณภาพสินเชื่อดีขึ้นในปี 2024 ดังนั้น หากปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองคลี่คลาย เรามองว่าความกังวลด้านการลงทุนจะลดลง และราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นใน 2H24 กอปรกับเราคาดว่ากำไรสุทธิของ MTC จะเติบโตแข็งแกร่ง 19.7% CAGR (2024-26) สำหรับผลการดำเนินงานใน 2Q24 เราคาดกำไรสุทธิจะฟื้นตัวต่อเนื่องที่ 1.4 พันล้านบาท (+19.4% YoY, +3.1% QoQ) ขณะที่งบดุลทรงตัว โดยคาดมี NPL ratio ที่ 3% และ coverage ratio ที่ 120.9% ใน 2Q24 ซึ่งจะส่งผลให้การตั้งสำรองหนี้ฯ ผ่อนคลายลงและหนุนให้ความสามารถการทำกำไรดีขึ้น

คาดกำไรสุทธิใน 2Q24 เติบโต 19.4% YoY 3.1% QoQ

  • คาดการณ์กำไรสุทธิงวด 2Q24 ที่ 1.4 พันล้านบาท (+19.4% YoY, +3.1% QoQ) โดยกำไรสุทธิเติบโต YoY และ QoQ หนุนจาก (1) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวจากการขยายสินเชื่อ (2) Credit cost ปรับลดลงที่ 324 bps (-47 bps YoY, +12 bps QoQ) และ (3) Cost to income ratio ลดลงที่ 47.1% จากรายได้การดำเนินงานปรับสูงขึ้น และการควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี ต้นทุนการเงินที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) จะยังปรับลดลงต่อเนื่องที่ 14.8% (-85 bps YoY, -5 bps QOQ)
  • ด้วยปัจจัยฤดูกาลที่ผู้ปกครองมีภาระเพิ่มขึ้นจากการเปิดเทรมของบุตรหลาน เราคาดว่าสินเชื่อใน 2Q24 เพิ่มขึ้น 4.7% QoQ (+16.3%YoY) ส่งผลให้สินเชื่อใน 1H24 ขยายตัว 7.8% YTD
  • แม้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเปาะบาง แต่ด้วยความสามารถในการติดตามหนี้ที่ดีขึ้น รายได้ของลูกค้าหลักในกลุ่มเกษตรกรปรับดีขึ้นและการขายหนี้เสียเพื่อควบคุมหนี้เสีย เราคาดว่า NPL ratio จะทรงตัว QoQ ที่ 3% เป็นไปตามเป้าหมาย NPL ratio <3.2% สิ้นปี 2024 และมี Coverage ratio ทรงตัว Q0Q ที่ 120.9%

คาดกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่ง 19.7% CAGR (2024-26)

ในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า การที่ MTC ให้ความสำคัญมากขึ้นกับคุณภาพสินเชื่อ และควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิเป็นกลยุทธ์เหมาะสม เราคงมุมมองบวกต่อบริษัทที่จะกลับสู่โหมดการเติบโตอีกครั้งในปี 2024 โดยเราคาดว่าอัตราการเติบโตกำไรสุทธิจะกลับมาแข็งแกร่งที่ 18.3%/21%/19.8% ในปี 2024-26 (2023: -3.7%) คิดเป็นเติบโต 19.7% CAGR (2024-26) หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวจากการเติบโตของสินเชื่อ และ Credit cost ปรับลดลงจากงบดุลที่ดีขึ้น โดยคาด ROE เป็นขาขึ้น โดยจะเพิ่มขึ้นเป็น 16.8% /17.4%/17.8% ในปี 2024-26 (2023: 16.1%)

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 53.00 บาท

แนะนำ “ซื้อ” จากมุมมองบวกต่อการฟื้นตัวของความสามารถการทำกำไร และคุณภาพสินเชื่อทรงตัวด้วยมูลค่าพื้นฐานที่ 53 บาท คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 17%, TG 5%) อิงจาก 3.0x PBV’24E และ 19.4xPE’24E

- Advertisement -