รอติดตามเงินเฟือสหรัฐฯ คืนนี้

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 1% หลังจากที่ประธาน FED ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.5% หลังจากสหรัฐฯ รายงานสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินลดลงมากกว่าคาด

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานสต็อกน้ำมันดิบลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล พร้อมกับสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2 ล้านบาร์เรล ซึ่งทั้ง 2 ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ หนุนให้ราคาน้ำมันดิบกลับมาปรับขึ้น ในขณะเดียวกันประธาน FED ได้แถลงนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรสรอบ 2 เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยระบุว่าเงินเฟ้อในสหรัฐฯ กำลังค่อยๆ ปรับล งแต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะลดลงเหลือ 2% ได้อย่างยั่งยืน แต่ก็ได้เสริมเพิ่มเติมว่าการทำงานเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ภาระกิจนี้ยังไม่จบดี แต่เราก็มีการที่ต้องทำเพิ่มเติม โดยเฉพาะการพิจารณาตลาดแรงงานที่เริ่มมีสัญญาณอ่อนแรง คำพูดข้างต้นของประธาน FED คล้ายเป็นสัญญาณว่า FED มีโอกาสสูงที่จะลดดอกเบี้ย เบื้องต้น CME FED Watch ให้น้ำหนักลดดอกเบี้ยเดือนกันยายนอยู่ที่ 70% อย่างไรก็ตาม ในการประชุม FED สิ้นเดือน ก.ค. ยังให้น้ำหนัก 95% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยระดับเดิม ส่วนปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรมีนัยยะสำคัญ เมื่อวานที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญระบุว่ายังไม่วินิจฉัยคดีคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีของคุณเศรษฐา เนื่องจากยังต้องการหลักฐานเพิ่มเติม โดยจะวินิจฉัยอีกครั้งในวันที่ 24 ก.ค. ถือเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย แต่ก็คล้ายกับนักลงทุนจะไม่ได้ให้น้ำหนักมากนักเพราะว่าในช่วงบ่ายหลังจากทราบผลตลาดหุ้นไทยก็ยังปิดบวกได้ 0.25% พร้อมกับการแข็งค่าของเงินบาทที่ยังคงแนวโน้มแข็งค่าและแข็งค่ากว่าการแข็งของ US Dollar สะท้อนว่าปัจจัยการเมืองไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน

สำหรับ Digital Wallet วานนี้ มีความคืบหน้าออกมาว่าทางคณะกรรมการได้พิจารณาแล้วว่าเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มือถือ เป็นสินค้าราคาสูง จึงไม่เข้าข่ายที่จะนำเงิน Digital Wallet ไปร่วมรายการได้ มองเป็นแรงกดดันกับหุ้นในกลุ่มค้าขายสินค้า IT (COM7 SYNEX) แต่กลุ่มค้าปลีกที่เน้นอาหารยังได้ประโยชน์ (BJC CPALL)

ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่เงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 3.1%YoY 0.1%MoM และเงินเฟ้อพื้นฐานที่ 3.4%YoY 0.2%MoM หากรายงานแล้วแย่กว่าคาดการณ์จะยิ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาด

วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในครอบ 1320 – 1330 เชิงกลยุทธ์การลงทุนคงคำแนะนำทยอยสะสมเพื่อรอการฟื้นตัวช่วงถัดไป หนุนจากหลายๆปัจจัย อาทิ เศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุด การปรับลดดอกเบี้ยของ FED มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ แนะนำกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ส่งออก (ITC TU) เครื่องดื่ม (ICHI TACC) ระยะสั้นวันนี้แนะนำเก็งกำไรในกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) และโรงกลั่น (BCP SPRC TOP)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 68.00 บาท)

AOT มีจำนวนผู้โดยสารในช่วง FY3Q24 (เม.ย.-มิ.ย.) จำนวน 28.9 ล้านคน (+16%YoY,-11%QoQ) แบ่งเป็น ผู้โดยสารในประเทศ 11.1 ล้านคน (+1%YoY,-10%QoQ) และผู้โดยสารระหว่างประเทศ 17.8 ล้านคน (+ 28%YoY,-11%QoQ) ด้านจำนวนเที่ยวบินในช่วงดังกล่าวอยู่ที่ 181,473 เที่ยวบิน (+13%YoY,-6%QoQ) การเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็นไปตามทิศทางเดียวกับการท่องเที่ยวของไทยที่จำนวนนักท่องเที่ยว เดือน เม.ย.-พ.ค.24 เพิ่มขึ้น 29% YoY

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 195.00 บาท

คาดกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 2.16 หมื่นล้านบาท (+3%YoY, +15.9%QoQ) สูงสุดในรอบ 7 ไตรมาส ปรับตัวขึ้นจากทั้งราคาขายเฉลี่ยที่ 47.8 USS/BOE (+4.7%YoY, +1.3%QoQ) ตามราคาน้ำมันดิบดูไบไตรมาส 2 ที่ 85.3 USS/bbl (+15.7%YoY,+5%QoQ) และปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 507 KBOED (+14%YOY, 7.2%QoQ) เนื่องจากการผลิตก๊าซจากแหล่งเอราวัณรับรู้เต็มไตรมาส

- Advertisement -