Daily Focus: Selective and Earnings Play / 2024 SET Target : 1470
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องตามคาด จาก Sentiment บวกจากต่างประเทศ ดัชนีปิดบวกอีก 6.09 จุด ที่ระดับ 1,329.37 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้นเป็น 4 หมื่นลบ. หนุนโดยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรฯ อสังหาฯ สื่อสารฯ เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่ถ่วง คือ ไฟแนนซ์ การแพทย์ สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 881 ลบ. และ 584 ลบ. ตามลำดับ (แต่ต่างชาติ Long Index Futures สุทธิต่อเนื่องอีก 1.96 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index มีโอกาสแกว่ง Sideways to Sideways Up ขึ้นได้ต่อเนื่อง หลังผ่านแนวต้านหลักระยะสั้นที่ 1,325 จุด โดยมอง Upside เปิดเข้าหาระดับ 1,350+- จุด หนุนจากทั้งภาพการ Short Covering ทั้งหุ้นรายตัวและ Index Futures ของต่างชาติ ขณะที่เงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯเดือน มิ.ย. ออกมาต่ำกว่าคาด (Headline -0.1% m-m, +3% y-y ส่วน Core +0.1% m-m, 3.3% y-y) ส่งผลให้ตลาดเพิ่มความคาดหวังว่า FED จะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. ด้วยความน่าจะเป็นเกือบ 90% รวมถึงมองว่าอาจลดดอกเบี้ยได้เกิน 2 ครั้งในปีนี้ สูงกว่าที่คาดก่อนหน้า ส่งผลให้ Bond Yield และ Dollar Index ปรับตัวลงแรงหนุนค่าเงินสกุลเอเชียแข็งค่า และเป็นบวกต่อกระแสเงินทุนให้มีแนวโน้มไหลเข้า ส่วนปัจจัยในประเทศรอติดตามบอร์ดใหญ่ Digital Wallet ประชุมวันที่ 15 ก.ค. เพื่อสรุปรายละเอียดทั้งหมด ก่อนแถลงใหญ่อย่างเป็นทางการ 24 ก.ค. เรามองความน่าจะเป็นของโครงการที่จะเกิดขึ้นได้มีสูงขึ้นหลังอาจไม่ใช้เงินจากธ.ก.ส. ส่วนคดีการเมืองยังต้องติดตามการพิจารณาต่อเนื่องจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งหากคลี่คลายในเชิงบวกจะทำให้ปัจจัย Overhang หายไป หนุนการฟื้นตัวระยะกลาง-ยาวโดยเฉพาะกลุ่ม Domestic Play ระยะสั้นเราคาดหุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 2Q24 ออกมาแข็งแกร่งจะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาหนุน และเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาด
กลยุทธ์ : เลือกหุ้นเป็นรายตัวที่มีแนวโน้มกำไร 2Q24 โดดเด่น และมี ESG Rating สูง // ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้ายังถือลงทุนต่อเนื่องระยะกลาง-ยาว
หุ้นเด่นเดือน ก.ค.: CPF, DOHOME, PHG, SAPPE, TTA
FSSIA Portfolio: AOT, BDMS, CPALL, CPN, GPSC, KCG, SHR, SJWD, TIDLOR, TU
หุ้นเด่น Finansia 12 ก.ค. 24 : GPSC
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 59 บาท
- ระยะสั้นคาดได้ Sentiment บวกจาก Bond Yield ที่ปรับลงและและค่าเงินบาทที่พลิกมาแข็งค่า เบื้องต้นแนวโน้มกำไร 2Q24 จะเพิ่มขึ้นจากต้นทุนราคาก๊าซฯที่ปรับลง และกำลังผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้า SPP หน่วยที่ 2 100MW ส่วนแบ่งกำไรจาก Avaada จะเพิ่มขึ้น รวมถึงโรงไฟฟ้าลมไต้หวันที่เริ่มผลิตไฟตั้งแต่เดือน พ.ค.
- บริษัทยังตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตปัจจุบันที่ 6,757 MW จะเพิ่มเป็น 10,440 MW ในปี 2026 ผ่านการลงทุนในต่างประเทศ ส่วนในไทยมีลุ้นได้กำลังการผลิตเพิ่มจากการเปิดประมูลการรับซื้อไฟฟ้ารอบใหม่ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วง 2H24 ส่วนวันนี้จับตากกพ.เคาะขึ้นค่าไฟงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 0.20-0.40 บาท/หน่วยหรือไม่
- แนวรับ 38.50-38 บาท แนวต้าน 42.75//44//46 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนโดยรวมพลิกมาไหลเข้าภูมิภาคได้ตามคาดสุทธิ US$525 ล้าน โดยยังกระจุกตัวที่เกาหลีใต้ US$441 ล้าน ส่วนไต้หวันพลิกมาไหลเข้าเล็กน้อย US$61 ล้าน ส่วนฝั่งอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้าอินโดนีเซีย US$37 ล้าน แต่ไหลออกจากไทย US$16 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่าจะไหลเข้าต่อเนื่องหลังเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ Dollar อ่อนค่าเป็นบวกต่อค่าเงินสกุลเอเชีย
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) KCG คาดกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 75 ลบ. +5% q-q, +48% y-y ดีกว่าที่เคยคาดก่อนหน้านี้ แม้คาดรายได้จะชะลอตัว 7% q-q จาก Low Season ของธุรกิจ แต่เพิ่มขึ้น 7% y-y จากความต้องการเนยชีสที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-7% ต่อปี รวมถึงการออกสินค้าใหม่ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นยังทำได้ดีกว่าที่เคยคาดที่ 31.7% เพิ่มขึ้นจาก 30.5% ใน 1Q24 และ 29.6% ใน 2Q23 จากแม้ต้นทุนวัตถุดิบเนยชีสปรับขึ้นเล็กน้อย แต่มีการกลับรายการตั้งสำรองสินค้าคงเหลือ แนวโน้มกำไร 2H24 จะดีมากกว่า 1H24 จาก High Season ของธุรกิจ คาดกำไรปี 2024 ที่ 365 ลบ. +18% y-y ทำ Record High คงราคาเป้าหมาย 12.80 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด PE เพียง 15 เท่า ต่ำกว่าเฉลี่ยกลุ่มอาหาร&เครื่องดื่มที่ 20 เท่า ยังแนะนำ “ซื้อ”
(0) ICHI คาดกำไรปกติ 2Q24 ที่ 342 พันลบ. -6% q-q , +34% y-y ต่ำกว่าที่เราเคยคาดก่อนหน้านี้ หลักๆ มาจากค่าใช้จ่ายรวมที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในอินโดนีเชียที่ลดลง คาดยอดขายเพิ่มขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นยังแข็งแกร่ง แม้รายได้จาก OEM ชะลอตัวจากปัญหากระบวนการผลิตน้ำมะพร้าว แต่จะถูกชดเชยจากยอดขายชาเขียวพร้อมดื่มที่ยังดีต่อเนื่อง แนวโน้ม 2H24 จะเป็น Low season ของธูรกิจเครื่องดื่มในประเทศ ขณะที่เครื่องดื่มชูกำลังยังคงค่อยๆ เจาะตลาด คาดรายได้รวม 2H24 แค่ทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย เราปรับประมาณการกำไรปี 2024 ขึ้น 14% เป็นเติบโต 23% y-y เนื่องจากประมาณการก่อนหน้าต่ำเกินไป และได้ราคาเป้าหมายใหม่ 19 บาท แนวโน้มภาพรวม ICHI เรามองเป็นกลาง และเป็น หุ้น Dividend Play ที่ให้ Yield 7% ยังแนะนำ “ซื้อ”
(0) KTC คาดกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 1.8 พันลบ. +2% q-q, +2% y-y โดยรวม KTC ยังถูกกดดันจาก Credit cost และ cost of fund ที่สูงขึ้น โดยคาด PPOP ที่ 3.9 พันลบ. ทรงตัว q-q และ +6.3% y-y จากที่คาดว่าสินเชื่อขยายตัว 2.7% q-q และ 2.5% y-y ซึ่งทั้งปี 2024 บริษัทคาดเติบโต 6-7% ดูท้าทาย เนื่องจากอัตราการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำที่สูงขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี อัตราการอนุมัติสินเชื่อลดลง รวมถึงมี NPL write off เป็นก้อนใหญ่ใน 1Q24 ด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังแย่ลงตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ยังสามารถบริหารจัดการได้ NPL ทรงตัว q-q เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2024-26 เติบโตเฉลี่ย 5.8% CAGR จากการเติบโตของสินเชื่อ 4.8% CAGR แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 40 บาท เพื่อสะท้อนการปรับสมมติฐาน Cost of Equity ที่สูงขึ้นคงคำแนะนำ “ถือ”
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 32.39 จุด หรือ +0.08% ปิดที่ 39,753.75 จุด ส่วนดัชนี Nasdag ดิ่งลงอย่างหนัก โดยตลาดถูกกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ และหันไปซื้อหุ้นบริษัทขนาดเล็ก หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด และทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่ลดลงเกินคาด ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือน ก.ย.
(-) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ หลังรายงานเงินเฟ้อสหัรฐฯ ที่ต่ำคาดเมื่อคืนนี้ โดยตลาดนิกเกอิน่าปรับตัวลงจากจุดสูงสุดใหม่ สวนทางกับเงินเยนที่แข็งค่ามากขึ้น
(+) ค่าเงินบาท แข็งค่าแรง อยู่ที่บริเวณ 36.11 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.88%
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 82.62 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าเฟดจะปรับบวกอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เช้านี้บวกอยู่ที่ระดับ 83.10 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.58%
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้นแรง 42.20 ดอลลาร์ หรือ 1.77% ปิดที่ 2,421.90 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ในขณะที่เช้านี้ลดลงอยู่ที่ระดับ 2,417.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.19%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 835.09/ +0.21%