YLG ชี้ทองเข้าใกล้นิวไฮ 2,450USD อีกครั้ง เหตุตัวเลขเศรษฐกิจชะลอ เอื้อเฟดเริ่มวงจรดอกเบี้ยขาลง พร้อมปัจจัยหนุนทองคำรวม 4 ด้าน

วายแอลจีชี้ทองคำแกว่งตัวร้อนแรงอยู่ที่โซน 2,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เข้าใกล้จุดสูงสุดเดิมอีกครั้งที่ 2,450 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หลังพบปัจจัยหนุน 4 ด้าน ทั้งความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย คาดเฟดมิอาจเลี่ยงการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย  อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจาก แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มมาจากความกังวลต่อสถานการณ์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ส่วนธนาคารกลางทั่วโลกยังซื้อทองคำต่อเนื่อง และการลดบทบาทเงินดอลลาร์ของกลุ่ม BRICS

 มองระยะสั้นเคลื่อนไหวในกรอบ 2,376-2,450 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์  ด้านทองคำไทย96.5% มองเคลื่อนไหวกรอบ 40,700-42,000 บาทต่อบาททองคำ  พร้อมแนะนำนักลงทุนหน้าใหม่ เริ่มสะสมทองคำแบบ DCA ง่ายๆ ผ่านแอปฯ Get Gold by YLG ลงทุนทองคำขั้นต่ำเพียง 100 บาท

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG)

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า

ราคาทองคำในตลาดโลกยังเคลื่อนไหวทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่โซน 2,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติกาลที่ระดับ 2,450 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์  โดยการกลับมาเคลื่อนไหวในระดับสูงในช่วงนี้ มาจากปัจจัยหลักๆ 4 ด้าน ได้แก่

  1. ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัว โดยล่าสุดมาตรวัดเงินเฟ้อผู้บริโภค หรือ CPI ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้ไปกระตุ้นคาดการณ์ตลาดว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ อาจคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้มากถึง 2 ครั้ง จากกระแสดังกล่าวส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ปรับตัวลดลงมา และส่งผลให้ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
  2. ความกังวลต่อสถานการณ์การเลือกตั้งสหรัฐที่จะมีขึ้นปลายปีนี้ เนื่องจากหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ หนึ่งในผู้สมัครสำคัญอาจจะได้รับแรงสนับสนุนมากกว่าที่คาด อีกทั้งล่าสุดยังได้คะแนนนิยมที่สูงขึ้น หลัง นายทรัมป์ ถูกยิงเข้าที่ส่วนบนของหูขวาระหว่างการปราศรัยในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันเสาร์ (13 ก.ค.)  ปัจจัยความวุ่นวายของสถานการณ์การเมืองสหรัฐนี้ จึงทำให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มสะสมทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
  3. การเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลก แม้ว่าธนาคารกลางจีนจะหยุดทำการซื้อหลังจากซื้อต่อเนื่องมา 18 เดือน เนื่องจากเศรษฐกิจจีนเติบโตลดลง ประกอบกับราคาทองคำที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี ยังไม่ได้มีการเทขายแต่อย่างใด ขณะที่ธนาคารกลางประเทศอื่นๆนั้นยังเดินหน้าซื้ออย่างต่อเนื่อง เช่น ตุรกี เป็นต้น
  4. การเคลื่อนไหวของกลุ่ม BRICS โดยเฉพาะความร่วมมือของอินเดียกับรัสเซียที่พยายามเชื่อมต่อการชำระเงินให้ 2 ประเทศสามารถชำระเงินกันได้โดยตรง ถือเป็นประเด็นสนับสนุนนโยบายลดบทบาทค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือที่เป็นกระแส De-Dollarization ที่มีความชัดเจนมากขึ้น  ทั้งนี้กระแสดังกล่าว เป็นหนึ่งในสาเหตุกระตุ้นการเพิ่มสำรองทองคำของเหล่าธนาคารกลางทั่วโลกด้วยเช่นกัน

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในช่วงนี้ วายแอลจีแนะนำเน้นการเก็งกำไรในระยะสั้น เนื่องจากราคาที่เคลื่อนไหวในระดับสูง และความผันผวนที่เพิ่มขึ้น  โดยในระยะสั้น ทองคำต่างประเทศมองแนวรับที่ระดับ2,393-2,376 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวต้าน 2,432-2,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งใกล้เคียงกับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์  ส่วนทองคำในประเทศ 96.5% แนวรับที่โซน 41,000-40,700 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านโซน 41,700-42,000 บาทต่อบาททองคำ 

อย่างไรก็ดีวายแอลจีมองว่าการลงทุนสะสมแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ เพราะจะทำให้นักลงทุนสามารถสร้างวินัยการออม และเข้าถึงราคาทองได้หลากหลาย อีกทั้งปัจจุบันยังสามารถตั้งเวลาซื้อล่วงหน้าได้อีกด้วย สำหรับนักลงทุนมือใหม่วายแอลจีแนะนำแอปพลิเคชัน Get Gold by YLG ที่เปิดโอกาสให้เริ่มสะสมด้วยเงินลงทุนเพียง 100 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และตอบโจทย์การลงทุนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมงเข้าถึงง่ายด้วยสมาร์ตโฟน และมีความน่าเชื่อถือ ด้านความปลอดภัย สามารถทำกำไรได้จริง โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชั่น รู้ผลอนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อ-ขาย ทองคำได้ทันที เปิดให้ลงทุนเริ่มต้นที่ 100 บาท ไปจนถึง 80 กิโลกรัมต่อ 1 วัน ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ที่ App Store และ Play Store หรือ LINE : @ylggetgold โทร. 0-2678-9888 #2

- Advertisement -