เห็นการหมุนของอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ สู่กลุ่มคุณค่า

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 1.8% ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากสหรัฐฯรายงานยอดค้าปลีกดีกว่าตลาดคาดการณ์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.3% นักลงทุนยังกังวลกับเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์จะเป็น ปัจจัยกดดันอุปสงค์น้ำมัน

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานยอดค้าปลีกพบว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนสวนทางกับที่ Bloomberg Consensus คาดว่าจะหดตัว 0.3%MoM (-0.3%MoM) โดยยอดค้าปลีกที่ไม่รวมสินค้ายานยนต์ขยายตัว 0.4%MoM ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 0.1%MoM สะท้อนว่าการขยายตัวมาจากสินค้าที่มีใช่ยานยนต์ ซึ่งในรายละเอียดพบว่ามาจากการขยายตัวสินค้าเกี่ยวข้องกับสุขภาพและอาหารโดยกลุ่มยานยนต์ (-2%MoM) ภายหลังจากทราบข้อมูลข้างต้นพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปีปรับขึ้นเล็กน้อย ตอบรับกับตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม มุมมองดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงเพราะความเห็นจาก CME FED Watch ยังให้น้ำหนักราว 91% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนลง 0.25% พร้อมกับการอ่อนค่าต่อเนื่องของ Dollar Index ขณะที่เงินบาทก็ปรับแข็งค่าต่อเนื่อง แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พบว่า Dow Jones ปรับขึ้นเด่น 1.85% สวนทางกับ Nasdag +0.2% โดย Sector ที่ Outperform สุด ได้แก่อุตสาหกรรม ขนส่ง สินค้าทุน การแพทย์ แต่กลุ่มที่ Underperform ได้แก่ Technology สะท้อนว่าเกิดการหมุนของ Sector จาก Tech ไปยังกลุ่ม Value Stock ซึ่งตลาดหุ้นไทยอาจได้จิตวิทยาเชิงบวกจากประเด็นข้างต้น ในส่วนของการประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ ยังไม่มีการพิจารณากองทุน TESG มีเพียงการพิจารณาหวยเกษียณ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเม็ดเงินบางส่วนในหวยเกษียณจะนำมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยบางส่วน (มองเป็นประเด็นสนับสนุนหุ้นไทยเล็กน้อย) ปัจจัยติดตามคืนนี้ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.3%MoM พร้อมกับสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ลดลง 0.9 ล้านบาร์เรล

วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวกรอบ 1315 – 1330 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน คงคำแนะนำทยอยสะสมเพื่อรอการฟื้นตัวช่วงถัดไป หนุนจากการค่อยๆฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ แนะนำกลุ่มค้าปลีก (CRCCPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB TTB) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 79.00 บาท)

คาดรายงานกำไรงวด 2Q24 ที่ 6 พันล้านบาท (+33%YoY, -1%QoQ) หนุนจากยอดขายสาขาเดิมของ 7-11 ที่เติบโต 4.2% YoY จากยอดขายกลุ่มอาหารพร้อมทานที่เติบโตดี รวมกับการเติบโตของกำไรของ CPAXT จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Makro+2.0% และ Lotus’s+4.1%) ขณะที่เราคาดว่าแนวโน้มกำไร 2H24 จะเติบโต YoY ต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวหลังผ่านจุดต่ำสุดของปีในเดือน พ.ค.

HMPRO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 13.90 บาท)

การขยายสาขาช่วง 2Q24 : มีการเปิด HomePro สาขาลำพูน บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง และ Mega Home สาขาอุดรธานี ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 2/24 บริษัทมีสาขาทั้งหมด 130 แห่ง (+7%YoY) แบ่งเป็น Home Pro 90 สาขา HomePro S 5 สาขา Mega Home 28 สาขา HomePro Malaysia 7 สาขา และ HomePro Vietnam ที่หลัก ๆ ดำเนินการจัดจำหน่ายสินค้าภายตลาดออนไลน์

- Advertisement -