ยังไร้ปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทย

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ -0.14% โดยตลาดถูกกดดันจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส (UPS) ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ -1.69% ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับ อุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัวลงในประเทศจีน

Market Outlook

เมื่อวานที่ผ่านมา ผลประชุมคณะรัฐมนตรียังไม่มีการพิจารณากองทุน TESG เข้าสู่การประชุม มองเป็นปัจจัยกดดันระยะสั้นต่อตลาดหุ้นไทย สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา รายงานยอดขายบ้านมือสองพบว่าแย่กว่า Bloomberg คาดการณ์ โดยหลังจากทราบผลพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวลงเล็กน้อย และ CME FED Watch ยังให้น้ำหนักปรับลดดอกเบี้ยเดือนกันยายนเช่นเดิม ทั้งนี้ในส่วนของการเคลื่อนไหวตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานนี้พบว่า ตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง เวียดนาม และไทยปรับฐาน ส่วนนึงอาจเป็นเพราะนักลังทุนกังวลกับการเมืองในสหรัฐฯจากปัจจัยการเลือกตั้ง แม้ทางพรรคเดโมแครตจะส่ง Kamala Harris ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และส่งผลให้คะแนนความนิยมปรับขึ้นเพิ่มขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังน้อยกว่า Trump ซึ่งการมาของ Trump เชื่อว่านโยบายการบริหารสหรัฐฯจะยังคงเน้นหลัก American First ซึ่งไม่เน้นเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆได้ประโยชน์จากสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเน้นสกัดการเติบโตของจีนดังที่เคยทำมาแล้วในช่วงดำรงค์ตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งก่อน ซึ่งในช่วงนั้นพบว่าเศรษฐกิจจีนมีการเติบโตที่ลดลง และไทยรับผลกระทบจากการส่งออกที่ขยายตัวลดลงหรือบางเดือนถึงขั้นติดลบ ในขณะที่ผลกระทบทางอ้อมหากเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบไทยอาจรับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้นไทย

ปัจจัยติดตามวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคผลิตและภาคบริการของฝั่ง EU ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคาดการณ์ของค่าเฉลี่ยนักวิเคราะห์พบว่าให้น้ำหนักในทางหดตัว (ต่ำกว่า 50) และคืนนี้ของสหรัฐฯรอติดตามดัชนี PMI ภาคผลิตและภาคบริการเบื้องต้น พร้อมกับยอดขายบ้านมือหนึ่งของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 51.6, 54.7, 6.39 แสนราย ตามลำดับ

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1290 – 1310 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำทยอยสะสมเพื่อรอการฟื้นตัวช่วงถัดไป หนุนจากการคลายกังวลดอกเบี้ย FED รวมไปถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย แนะกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB TTB) ส่งออก (ITC TU)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

COCOCO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 15.30 บาท)

คาดผลประกอบการ 2Q24 ที่ 218 ล้านบาท (+66%YoY +7%QoQ) หลังจากตัดรายการพิเศษต่างๆออกจะมีกำไรปกติที่ 213 ล้านบาท (+42%YoY +10%QoQ) หนุนจากยอดขายที่เติบโต YoY จากน้ำมะพร้าวและกระทิ อัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัว YoY หนุนจากสัดส่วนยอดขายน้ำมะพร้าวที่สูงขึ้นพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่ลดลง

CRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 43.00 บาท)

มองบวกต่อการเติบโตของธุรกิจ Hardline ของ CRC ภายใต้แบรนด์ไทวัสดุ ล่าสุดบริษัทได้ทำการรวมไทวัสดุและ BNB ไว้ที่เดียวกัน ซึ่งจะทำให้การเติบโตของยอดขายขยายตัวเฉลี่ย 12% CAGR ในปี 2023 – 2028

- Advertisement -