การเมืองไม่แน่นอน / 1,290-1,310

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET แกว่งตัวออกข้าง: แรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมือง หากแต่จำกัดด้วยมาตรการช่วยค่าครองชีพของรัฐ และลุ้นความคืบหน้า Digital Wallet (DW) ทั้งนี้ คาดความไม่แน่นอนทางการเมืองจะเป็นปัจจัยกดดันต่อ SET Index หลังนายเอริก ชมิตต์ (ส.ว.) และนางแนนซี เมซ (ส.ส.) จากรีพับลิกัน ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการบังคับใช้บทบัญญัติตามรธน.ฉบับแก้ไขครั้งที่ 25 เพื่อให้มีการถอดถอนปธน.ไบเดนออกจากตำแหน่ง จากการที่เขาได้ถอนตัวจากการเป็นแคดิเดต ทำให้ถูกมองว่าไม่มีความสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะปธน.ได้ ขณะที่การเมืองในประเทศวันนี้ติดตามศาลรธน.พิจารณาคดีคุณสมบัตินายกฯ ซึ่งหากยังไร้ข้อสรุปจะเป็น Overhang กดดัน SET Index ต่อไป นอกจากนี้ คาดหุ้นในกลุ่มพลังงานจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง 1.84% ปิดที่ $76.96 ต่อบาร์เรล หลังมีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา โดยนายกฯอิสราเอลสั่งให้ทำการเจรจาหยุดยิงครั้งใหม่ในวันพรุ่งนี้ กอปรกับราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันในจีน อย่างไรก็ตาม มองทางลงจำกัด โดยหุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอย ซึ่งมีแรงหนุนจากการที่ครม.เห็นชอบให้ตรึงค่าไฟฟ้างวดใหม่ที่ 4.18 บาท/หน่วย และคงมาตรการช่วยเหลือกลุ่มปราะบางที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน คิดค่าไฟที่ 3.99 บาท/หน่วย ไปจนถึงสิ้นปีนี้ (ในทางกลับกัน มองเป็น Sentiment ทางลบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า) พร้อมตรึงเพดานราคาดีเซลที่ 33 บาท/ลิตร ไปจนถึงเดือนต.ค.67 มีลุ้น Sentiment หนุนเพิ่มเติมจากความชัดเจนของ DW หลังวันนี้รมว.คลังจะเป็นปร.แถลงข่าว DW โดยจะมีการเผยถึงรายละเอียดต่างๆ อาทิ วันลงทะเบียนของประชาชน ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เงินจะเข้าเมื่อไหร่ และประชาชนเริ่มใช้เงินได้วันไหน เป็นต้น รวมถึงการตอบข้อสังสัย ขณะที่ตัวเลขศก.สำคัญวันนี้ติดตามการเผย PMI ภาคการผลิตเดือนก.ค.67 ของยุโรปและสหรัฐฯ ตลาดคาดที่ 46.0 และ 51.6 จากเดือนมิ.ย.67 ที่ 45.8 และ 51.6 ตามลำดับ
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) เก็งงบ 2Q67: AP, BEM, BTG, OSP, PRM 2) Defensive: BDMS, BH, TTW 3) Spending: CPALL, CPAXT, CPN, CRC, MOSHI 4) Selective: INTUCH, KTB และ 5) Short sell: AEONTS, SAWAD, TIDLOR

ปัจจัยบวก

  • รมว.ท่องเที่ยวฯเผยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-21 ก.ค.67 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศแล้วทั้งสิ้น 19.62 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 9.25 แสนลบ.
  • รมช.คลังเผยก.คลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯฯเพิ่มเติม เพื่อดูแลภาคอสังหาฯที่ขณะนี้ยังมียอดค้างสต็อกเหลืออยู่จำนวนมาก หลังที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นศก.ภาคอสังหายตามมติของครม.ไปแล้วรวม 4 มาตรการ ซึ่งมีผลตอบรับที่ดีและกระตุ้นเม็ดเงินเข้าสู่ระบบศก.รวมกว่า 6.5 หมื่นลบ.
  • ก.ทรัพยากรมนุษย์และประกันสังคมของจีนเผยจีนสร้างงานใหม่ในเขตเมืองรวม 6.98 ล้านตำแหน่งในช่วง 1H67
  • Alphabet เผยงบ 2Q67 มีรายได้และ EPS ที่ $84.74 พันล้าน และ $1.89 มากกว่าตลาดคาดที่ $84.15 พันล้าน และ $1.83 ตามลำดับ

ปัจจัยลบ

  • เมื่อวานนี้รองโฆษกสำนักนายกฯเผยว่าการประชุมครม.ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องการปรับเกณฑ์เงื่อนไขของกองทุน ThaiESG
  • SCB EIC เผยศก.ไทยฟื้นตัวช้าตามที่ประเมินไว้ โดยยังคงมุมมองการขยายตัวศก.ไทยปี 67 ไว้ที่ 2.5% สำหรับ 2H67 โดยในระยะข้างหน้าปัจจัยกดดันที่สำคัญยังคงมาจากภาคการผลิตที่ยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน สะท้อนจากความเชื่อมั่นผู้ประกอบการตลาดในประเทศที่ลดลงต่อเนื่อง อีกทั้งสินค้าคงคลังยังอยู่ในระดับสูง และมีแรงกดดันจากอุปสงค์ในประเทศ
  • บลจ.แอสเซท พลัส เผยตั๋วแลกเงินระยะสั้นของบริษัท EA รุ่น EA24723A มูลค่า 300 ลบ. ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 23 ก.ค.67 และรุ่น EA24801A มูลค่า 300 ลบ. ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 1 ส.ค.67 มี
    การเปลี่ยนแปลงวันไถ่ถอนออกไปเป็น วันที่ 9 ส.ค.67
  • Tesla เผยงบ 2Q67 มี EPS ที่ 50.52 ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 50.61 โดยถูกกดดันจากจากยอดขาย EVs ที่ลดลงเหลือ $18.53 พันล้าน จาก $20.42 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อน และอัตรากำไรที่อ่อนแอกว่าที่คาด

PICKS OF THE DAY

BH BUY

  • เป้าหมาย 255.00 / 260.00 แนวรับ 240.00 / 245.00
  • งบ 2Q24 โต Y-Y: คาดกำไร 2Q24 ที่ 1,827 ลบ. เติบโต +5.2%Y-Y ตามการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวในประเทศไทย และผู้ป่วย Expat จากนโยบายทางภาครัฐที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วง Low-Season ในเดือน เมษายน-มิถุนายน ที่ผ่านมา ดังที่สะท้อนถึงภาพการฟื้นตัวของผู้ป่วยในประเทศต่างๆ ใน 1Q24
  • หุ้น Defensive: BH เป็นหุ้นที่มีค่า Beta 0.54 ซึ่งแสดงถึงการเคลื่อนไหวของหุ้นจะมีการปรับราคาน้อยกว่าตลาด ทำให้เหมาะแก่การลงทุนในช่วงที่ตลาดมีการเคลื่อนไหวไม่แน่นอน

SAWAD SHORT

  • เป้าหมาย 31.00 / 33.00 แนวต้าน 35.00
  • NPL อาจจะเพิ่มขึ้นต่อส่งผลต่อการตั้งสำรอง: NPL มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อจากเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว และผลขาดทุนจากการขายรถยึดอาจจะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อการตั้งสำรองที่ยังสูง และอาจจะทำให้ผลประกอบการไม่เป็นไปตามที่ทางฝ่ายคาดว่ากำไร 2Q67 ของ SAWAD จะเพิ่มขึ้น y-y และ q-q
  • การคิดดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนดกลับมาเป็นข่าว: SAWAD นั้นเคยถูกฟ้องร้องในประเด็นการคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทาง DSI ได้รับเป็นคดีพิเศษไว้แล้ว ซึ่งประเด็นดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยในขณะนี้อยู่ในระหว่างสอบสวน และได้มีลูกค้าบางรายนั้นได้ถอนฟ้อง หรือปิดสัญญาไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวจะยังเป็นประเด็นกดดันอยู่จนกว่าทาง DSI จะมีผลวินิจฉัยออกมา

 

 

 

- Advertisement -