KS Daily View 26.07.2024 >>> GDP สหรัฐ Q2 โต 2.8% ลุ้น SET ทดสอบแนวรับ 1,285 จุด กรอบ SET 1,285 – 1,300 จุด หุ้นแนะนำ GLOBAL, WHA
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:
ประเมินดัชนี SET Index วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,285 – 1,300 มองเคลื่อนไหวออกด้านข้าง ระหว่างวันมีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับสำคัญ 1,285 จุด และเด้งขึ้นได้ Forward P/E SET Index ตอนนี้อยู่ที่ 12.92 คิดเป็น -1.6SD. (10 ปีย้อนหลัง) Valuation น่าสนใจ ปัจจัยต่างประเทศ ดัชนี Dow Jones +0.2%, S&P500 -0.51%, Russell2000 +1.26% ตลาดมีแรงซื้อกลับในกลุ่ม Value stock ส่วนกลุ่ม Growth stock ยังเผชิญแรงขายอยู่ GDP ไตรมาส 2 สหรัฐฯ เบื้องต้นเติบโต 2.8% ดีกว่าไตรมาส 1 ที่ 1.4% ด้าน PBOC ลดอัตราดอกเบี้ย MLF ลง 20bps สู่ระดับ 2.3% ต่างชาติขายหุ้นอินเดีย 968 ล้านเหรียญหลังรัฐเก็บภาษีกำไรจากการลงทุนเพิ่ม ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 2 -10 ปี แคบลงที่ – 0.18% ราคาทองคำปรับลดลง -$32 สู่ระดับ $2,362/ออนซ์จาก GDP สหรัฐ เติบโตแข็งแกร่ง ปัจจัยภายในประเทศ ยังคงถูกกดดันจากคดีทางการเมืองที่รอการตัดสิน ด้าน ส.อ.ท. ปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 67 ลงจาก 1.9 ล้านคันเป็น 1.7 ล้านคัน คิดเป็นลดลง 10.53% ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะแถลงรายละเอียดของร้านค้าที่สามารถร่วมโครงการดิจิตัลวอลเล็ตอีกครั้ง กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ให้เล่นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวอย่าง GLOBAL คาด SSSG ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และ WHA จากการปรับเพิ่มเป้ายอดขายที่ดินนิคมฯ ของปี 2567 ทั้งปี ในไตรมาส 3/67
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2567 ว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.8% ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ระดับ 2.1% หลังจากมีการขยายตัวเพียง 1.4% ในไตรมาส 1/2567
- สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ Ifo เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีอยู่ที่ระดับ 87.0 ในเดือนก.ค. ลดลงจากระดับ 88.6 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่คาดไว้ 88.9 นายเคลเมนส์ ฟิวสท์ ประธานสถาบัน Ifo ระบุว่า “เศรษฐกิจเยอรมนีกำลังติดหล่มอยู่ในวิกฤต“
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ประเภท 1 ปี ลง 0.20% สู่ระดับ 2.3% ซึ่งเป็นการปรับลดในอัตราที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2020
- ข้อมูลเบื้องต้นจากตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติอินเดีย (NSE) ระบุว่า นักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิในวันอังคารและพุธที่ผ่านมา (23-24 ก.ค.) รวมกันสูงถึง 8.106 หมื่นล้านรูปี (968 ล้านดอลลาร์) โดยก่อนหน้านี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ได้ซื้อสุทธิไปแล้วถึง 2.2 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 6 วันทำการก่อนรัฐบาลอินเดียประกาศขึ้นภาษีการซื้อขายอนุพันธ์และภาษีกำไรจากการขายหุ้น
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าได้ปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 67 จาก 1,900,000 คัน เป็น 1,700,000 คัน ลดลง 200,000 คัน คิดเป็นลดลง 10.53% โดยเป็นการปรับเป้าเฉพาะผลิตขายในประเทศลดลงจาก 750,000 คันเป็น 550,000 คัน จากหนี้ครัวเรือนสูงถึง 90% ของ GDP ประเทศในขณะที่รายได้ครัวเรือนยังต่ำจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำ การคาดการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยลดลง การลงทุนจากต่างประเทศลดลง สถาบันการเงินเข้มงวดสินเชื่อรถกระบะ จำนวนแรงงานวัยทำงานน้อยลง จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมิ.ย. 67 มีทั้งสิ้น 116,289 คัน ลดลง 20.11% จากเดือนมิ.ย. 66 และลดลง 7.82% จากเดือนพ.ค. 67
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
- GLOBAL: ราคาพื้นฐานที่ 19.20 บาท
GLOBAL รายงานกำไรไตรมาส 2/2567 ที่ 765 ลบ. เพิ่มขึ้น 8.7% YoY และ 5.4% QoQ และสูงกว่าประมาณการของเราที่ 719 ลบ. อยู่ 6% และประมาณการของตลาดที่ 720 ลบ. เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) สูงกว่าคาด เราคาดว่า SSSG ของ GLOBAL น่าจะกลับมาเป็นบวกในครึ่งหลังของปี 2567 เราคงประมาณการกำไรปี 2567 ที่ 3 พันลบ. (+13.6% YoY) โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของยอดขาย 5.5% โดยอิงจากสมมติฐาน SSSG ของเราที่ 2% GPM ที่เพิ่มขึ้น 50 bps และอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้ที่ลดลง
- WHA: ราคาพื้นฐาน 6.25 บาท
เราคาด WHA จะรายงานกำไรไตรมาส 2/67 ที่ 967 ลบ. เพิ่มขึ้น 12% YoY แต่ลดลง 29% QoQ ถึงแม้จะลดลง QoQ แต่ยังสูงและเพียงพอที่จะทำให้กำไรใน 1H67 เติบโต 68% YoY และจะคิดเป็น 50% ของประมาณการทั้งปีของเรา แม้เราจะเห็นว่ายอดขายที่ดินไตรมาส 2/67 ลดลง 29% YoY และ 36% QoQ เป็น 400 ไร่ แต่ยอดขายที่ดินใน 1H67 จะทรงตัว YoY และน่าจะเห็นการปรับเพิ่มเป้ายอดขายที่ดินนิคมฯของปี 2567 ทั้งปี ในไตรมาส 3/67 คงคำแนะนำ “ซื้อ” และ TP กลางปี 2568 ที่ 6.25 บาท ยอดขายที่ดินล็อตใหญ่และแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2568 สนับสนุนคำแนะนำของเรา
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันศุกร์ ติดตามตัวเลขของสหรัฐที่รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (Core PCE Price Index) เดือน มิ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.5% YoY ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.6% YoY ต่อด้วย ดัชนีรายได้ส่วนบุคคล (Personal income) เดือน มิ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.4% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.5% MoM และ ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล (Personal spending) เดือน มิ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.3% MoM เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +0.2% MoM
