บล.กรุงศรีฯ: 

KSS Research Update กลุ่มโรงกลั่น

• ราคาหุ้นลดลง -2-6% นำโดย SPRC ที่ลงมากกว่ากลุ่มโรงกลั่น

• จากการตรวจสอบยังไม่พบข่าวเฉพาะตัวของ SPRC โดยจากการสอบถามกับบริษัท โรงกลั่นของ SPRC และทุ่นรับน้ำมันดิบ (SPM) ของบริษัทยังดำเนินการปกติ ส่วนด้านคดีความฟ้องร้องยังไม่มีความคืบหน้าใหม่(คาดใช้เวลาหลายปี)

• เรามองราคาหุ้นกลุ่มที่ปรับลดอาจมาจากความกังวล regulatory (คุมราคาน้ำมัน) ซึ่งนักลงทุนต่างชาติไม่ชอบการแทรกแซงของภาครัฐ, แนวโน้ม 2Q24F ที่ลดลง q-q และความกังวล stock loss จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลง 3QTD

• เรามองประเด็นความกังวล regulatory จะเป็นแรงกดดันต่อกลุ่มโรงกลั่นและสถานีบริการน้ำมันเนื่องจากรายละเอียดยังไม่ชัดเจน ทำให้ตลาดกังวลต่อผลกระทบกำไร

• หากอิงเป้าค่าการตลาดน้ำมันประเทศของรัฐที่ 2 บาท/ลิตร vs. YTD ตามการรายงานของ EPPO ที่ 2.3-2.4 บาท/ลิตร worst case ว่าภาครัฐผลักภาระทั้งหมดมาที่โรงกลั่น (ซึ่งเรามองว่าโอกาสน้อยจากขัดกับนโยบายค้าน้ำมันเสรี) อาจสร้างผลกระทบต่อค่าการกลั่นราว 1.7-1.8 $/bbl หรือ เป็น downside ต่อกำไร 2024F อย่างมีนัยสำคัญ ทุกๆ ค่าการกลั่นที่ต่ำกว่าคาด 0.5$/bbl จะกระทบกำไรกลุ่ม -15-22%

• เรามองสุดท้ายภาครัฐจะเลือกใช้เครื่องมือด้านภาษีฯในการคุมราคาน้ำมันเพื่อไม่ให้กระทบภาคธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญและส่งให้เกิดการลด run ของโรงกลั่นและน้ำมันในประเทศขาดแคลนมองราคาที่ปรับลงเป็นโอกาสซื้อ คง SPRC (TP11 เป็น top pick) 

- Advertisement -