หลากหลายปัจจัยในสัปดาห์นี้

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 0.1% นักลงทุน Wait & See รอดูผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน รวมถึงนโยบายประชุม FED ที่จะทราบผลในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.6% หลังจากเจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวว่าไม่ต้องการให้สงครามในตะวันออกกลางขยายตัวเป็นวงกว้าง

Market Outlook

วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้รายงานเงินเฟ้อ (PCE) ขยายตัว 2.5%YoY สอดคล้องกับที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core PCE) รายงานที่ 2.6%YoY สูงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 2.5%YoY อย่างไรก็ตาม รายงานรายได้ประชากร (Personal Income) ขยายตัวเพียง 0.2%MOM ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 0.4%MoM ทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐฯ ค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าสู่เป้าหมายของ FED ที่วางไว้ ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจเห็นสัญญาณของการชะลอตัว อาทิ อัตราการว่างงานขยับขึ้นทดสอบ 4% ดัชนี PMI ภาคผลิตที่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งสะท้อนถึงการหดตัว เป็นผลให้นักลงทุนเริ่มมองถึงโอกาสลดดอกเบี้ยของ FED มากขึ้นไปทุกที สะท้อนผ่านการปรับลงของ US Bond Yield โดยเฉพาะอายุสั้น (2 ปี) สอดคล้องกับข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักมากถึง 87.7% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายนและอีกราว 12% ให้น้ำหนัก FED 0.5% ซึ่งสัปดาห์นี้ประชุม FED จะเป็น ปัจจัยสำคัญมีกำหนดประชุมในวันที่ 31 ก.ค. หรือทราบผลทางการในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย CME FED Watch ให้น้ำหนักคงดอกเบี้ยด้วยโอกาส 96% อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะมีผลมากกว่าเรื่องดอกเบี้ยได้แก่ ความเห็นด้านดอกเบี้ยช่วงถัดไป และถ้อยแถลงของประธาน FED นอกจาก FED แล้วสัปดาห์นี้ยังมีการประชุมธนาคารกลางต่างๆ อาทิ ธนาคารกลางญี่ปุ่น ธนาคารกลางอังกฤษ อย่างไรก็ตาม FED สำคัญมีน้ำหนักมากสุด ส่วนสัปดาห์นี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเน้นที่ภาคแรงงาน (1) ตำแหน่งเปิดรับสมัครงานที่จะทราบผลทางการในวันอังคาร Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 8.05 ล้านราย (2) การจ้างงานภาคเอกชนจากสถาบัน ADP ในวันพุธ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ ที่ 1.66 แสนราย (3) การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน (ปัจจัยสำคัญ) Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.77 แสนรายและ 4.1% ตามลำดับ

สำหรับปัจจัยในประเทศ วันศุกร์ที่ผ่านมารายงานมูลค่าส่งออกประจำเดือน ก.ค. หดตัว (-0.3%YoY) แย่กว่า Bloomberg Consensus คาดที่ 2.5%YoY สาเหตุหลักเป็นเพราะผลไม้เข้าสู่ช่วงท้ายฤดูกาล รวมถึงบรรยากาศการค้าโลกมีความกังวลกับการกีดกันทางการค้าและการเปลี่ยนแปลง Technology กระทบสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเกษตรที่ขยายตัวได้แก่อาหารสัตว์เลี้ยง (+13%YoY) ยางพารา (+29%YoY) เป็นบวกกับ ITC STA STGT TU

สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1295 – 1330 เชิงกลยุทธ์การลงทุนคงคำแนะนำทยอยสะสมสำหรับลงทุนระยะกลาง – ยาว แนะนำกลุ่มค้าปลีก (CRC CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ส่งออก (ITC TU)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

WHA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 6.10 บาท)

WHA อยู่ในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลดีจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่อาจจะกลับมารุนแรงขึ้น ทำให้มีความต้องการที่ดินเพิ่ม โดยเฉพาะที่ไทยและเวียดนาม ทั้งในด้านของที่ดินและโรงงานให้เช่า ซึ่ง WHA เองมีความพร้อมอยู่แล้วในสองประเทศดังกล่าว ขณะที่ธุรกิจอื่นอย่างบริการสาธารณูปโภคยังเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่องจากการขยายกำลังการผลิตน้ำ และการติดตั้งแผง Solar Cell

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 171.00 บาท)

BBL มีงบดุลที่แข็งแกร่งสามารถรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต โดยเราได้ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิลดลง 3-4% และคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 6.5%/6.7% ในปี 2024-25 ด้าน ROE จะปรับเพิ่มขึ้นและทรงตัวที่ 8.2% ในปี 2024-25 ทั้งนี้ เรามองว่าราคาหุ้นปรับลดลงสะท้อนคุณภาพสินเชื่อที่อ่อนแอลงใน 2Q24 ราคามูลค่าหุ้นไม่แพงซื้อขายที่ 0.46x PBV’24E หรือ – 1SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี

- Advertisement -