KS Daily View 30.07.2024 >>> มอง SET ฟื้นตัวจำกัด ปัจจัยการเมืองยังกดดัน ประเมิน SET ซื้อขายในกรอบ 1,290-1,310 จุด แนะนำ DELTA, TRUE

Theme การลงทุนในสัปดาห์นี้: ประเมินตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ผันผวน โดยประเมินกรอบซื้อขายของดัชนีที่ 1,280-1,310 จุด สัปดาห์นี้มีกำหนดประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญหลายตัวโดยเฉพาะจากฝั่งต่างประเทศ รวมถึงธนาคารกลางหลักหลายแห่งมีกำหนดประชุมเพื่อกำหนดทิศทางนโยบายการเงิน โดยในวันพุธช่วงเช้าจีนมีกำหนดประกาศตัวเลขดัชนีภาคการผลิต PMIหุ้นกลุ่ม China play อาจมีแนวโน้มผันผวนจากการประกาศตัวเลขดังกล่าวเช่น PTTGC IVL STA TEGH PSL RCL SCGPต่อด้วยในช่วงข้ามคืนมีประชุม FOMC โดยตลาดคาด Fed ยังจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.50% อย่างไรก็ดี แนะนำติดตามคำแถลงการณ์ของประธาน Fed หลังอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯปรับตัวลงชัดอาจทำให้ท่าทีการกำหนดนโยบายมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยหากท่าทีมีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น (easing stance) จะเป็นบวกต่อแวดล้อมการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ด้านปัจจัยในประเทศเรื่องการเมืองยังเป็นประเด็นหลักกดดันตลาด หลายคดีการเมืองสำคัญใกล้กำหนดนัดอ่านคำวินิจฉัย อีกทั้งเข้าสู่ช่วงฤดูกาลประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้เน้นตั้งรับ บรรยากาศยังผันผวน

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ประเมินดัชนีวันนี้ฟื้นตัว โดยมองดัชนี SET index ซื้อขายในกรอบ 1,290– 1,310 จุด คาดดัชนี SET index มีโอกาสรีบาวด์ตามดัชนีหุ้นตลาดต่างประเทศหลังนักลงทุนปรับมุมมอง Fed มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงปีนี้ 3 ครั้ง กอปรกับเก็งกำไร ครม. ปรับเงื่อนไข TESGอย่างไรก็ดี เชื่อว่าการฟื้นตัวของดัชนี SET index จะเป็นไปอย่างจำกัดเมื่อเทียบต่างประเทศเนื่องจากยังมีปัจจัยการเมืองภายในประเทศกดดัน

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. คาดประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้กระทรวงการคลังจะเสนอให้มีการอนุมัติการเปิดลงทะเบียนโครงการ “แจกเงินดิจิทัล” ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ เพื่อเริ่มใช้จ่ายในไตรมาส 4 ปี 2567 ประชาชนที่มีสมาร์ทโฟนสามารถลงทะเบียนผ่านแอป “ทางรัฐ” ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม – 15 กันยายนและผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจะลงทะเบียนระหว่างวันที่ 16 กันยายน – 15 ตุลาคม นอกจากนี้กระทรวงการคลังเตรียมจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีปรับเงื่อนไขกองทุน ThaiESG โดยจะเพิ่มวงเงินลงทุนสูงสุดเป็น 300,000 บาท ลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี และขยายขอบเขตการลงทุนให้ครอบคลุมหุ้นไทย 200 ตัว จากเดิม 128 ตัว
  1. รัฐบาลจีนเตรียมระงับการเผยแพร่ข้อมูลการไหลเข้าออกของเงินทุนต่างชาติรายวันในตลาดหุ้น ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นในตลาดหุ้น หลังจากที่หุ้นจีนร่วงหนักต่อเนื่องมานานกว่า 3 ปี โดยจะเปิดเผยข้อมูลการไหลเวียนของเงินทุนเพียงรายไตรมาสแทน
  1. คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติได้อนุมัติการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ไฮบริด (HEVs)เพื่อส่งเสริมตลาดรถยนต์ไฮบริดและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า นโยบายใหม่กำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับปี 2568-2572 ที่ 6% สำหรับรถยนต์ที่ปล่อย CO2 ไม่เกิน 100 กรัม/กม. และ 9% สำหรับรถยนต์ที่ปล่อย CO2 ระหว่าง 101-120 กรัม/กม. เพื่อสร้างเสถียรภาพในอุตสาหกรรมและดึงดูดการลงทุนในภาคยานยนต์ของไทย
  1. พรรคก้าวไกลเชิญประชาชนสวมเสื้อสัญลักษณ์พรรคเพื่อร่วมฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคก้าวไกลในวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ณ อาคารอนาคตใหม่ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. นอกจากนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล จะมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ศาลรัฐธรรมนูญกับการยุบพรรคการเมือง” ก่อนการรับฟังคำวินิจฉัย
  1. นายศรีสุวรรณ จรรยาได้เปิดเผยว่าเตรียมที่จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ในกรณีที่มีการระบาดของปลาหมอคางดำที่ทำลายระบบนิเวศเพื่อให้ศาลคำบังคับใช้กฎหมายให้เอาผิดบริษัทและผู้เกี่ยวข้องกับการระบาดของปลาหมอคางดำดังกล่าว มองเป็น sentiment ลบกับ CPF

Daily pick

DELTA: ราคาพื้นฐานที่ 120.0 บาท 

บริษัทรายงานผลประกอบการเติบโตแรง 52% QoQ และ 41 % YoY  ในไตรมาส 2/2567 แตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 6.6 พันลบ.โดยกำไรที่รายงานออกมาสูงกว่าที่เราคาดถึง 20% ผลประกอบการแข็งแกร่งทั้งยอดขายรายได้เติบโต, GPM ดีขึ้น และมีบันทึกกำไรพิเศษอีก 252 ลบ. จากการชดเชยการยกเลิกสัญญา คาดกำไร 2H24 เร่งตัวอีกหนุนจาก การเติบโตของ data centerและการเปิดตัวชิป AI ใหม่ของลูกค้า

TRUE: ราคาพื้นฐาน 9.28 บาท 

เก็งกำไรการประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้โดยคาดกำไรหลักในไตรมาส 2/2567 จะรายงานที่ 956 ลบ. พลิกจากที่ขาดทุนใน 2Q23 และปรับตัวขึ้น 24.6% QoQ ส่งผลให้ผลประกอบการหลักใน 1H24 คิดเป็น 74% ของทั้งปี  ทั้งนี้แนวโน้มของ APRU ยังคงเป็นขาขึ้น ประกอบกับประโยชน์จากการควบรวมกิจการที่จะช่วยให้เกิด economy of scale ในการช่วยลดตุ้นทุน ซึ่งทำให้เชื่อว่าผลประกอบการในปี 2024 จะพลิกมามีกำไร

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ติดตามตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ในสหรัฐ (JOLTS Job openings) เดือน มิ.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 8.14 ล้านตำแหน่ง
  • วันพุธ ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีน (NBS PMI) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.3 จุดชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 49.5 จุด ต่อด้วยรายงานตัวเลขส่งออกจาก BoT ของไทยเดือน ก.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +7.8% YoY และตัวเลขนำเข้าเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -2.3% YoY ในส่วนของญี่ปุ่นติดตามนโยบายการเงินของธนาคารกลาง ตลาดคาดการณ์ในกรอบ 0.00-0.10% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ขณะที่ยุโรปมีเปิดเผยคาดการณ์ CPI เดือน ก.ค. ครั้งแรกที่ 2.5% YoY และปิดท้ายด้วยการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) โดยตลาดคาดการณ์ Fed คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในกรอบ 5.25-5.50% ตามเดิม
  • วันพฤหัสฯ ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของจีน (Caixin Manufacturing PMI) เดือน ก.ค. เทียบกับเดือนที่ผ่านมาที่ 51.8 จุด ต่อด้วย ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐ (ISM Manufacturing PMI) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.0 จุดปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 48.5 จุด
  • วันศุกร์ ติดตามรายงานตัวเลขเศรฐกิจของสหรัฐ ภาคจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.88 แสนตำแหน่ง ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.06 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.1% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
- Advertisement -