KS Daily View 01.08.2024 >>> FED ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย. หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก BOJ ขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.25% PMI จีนอ่อนแอลง MPI ไทยลดลง มอง SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ 1,310 – 1,330 จุด แนะนำ GPSC, PTTEP
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:
ประเมินดัชนี SET Index วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,310 – 1,330 มองฟื้นตัวต่อเนื่องแต่อาจจะติดแนวต้าน 1,330 จุด รอประเด็นทางการเมืองคลี่คลาย
ปัจจัยต่างประเทศ ดัชนี S&P500 +1.58%, Nasdaq +2.63% หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฟื้นตัว หลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ย แต่ส่งสัญญาณปรับลดลงในเดือน ก.ย. นี้ ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.25% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่ยังอยู่สูงระดับ 2.8% ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนปรับลดลงที่ 49.4 จาก 49.5 และภาคบริการที่ 50.2 จาก 50.5 ทำให้ตลาดคาดหวังถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากจีน ราคาน้ำมัน WTI ปรับเพิ่มขึ้นแรง +4.29% จากเหตุผู้นำฮามาสถูกลอบสังหาร
ปัจจัยภายในประเทศ เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง ตามตลาดภูมิภาค จากค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง ส่งผลดีกับหุ้นกลุ่ม Emerging market ด้าน สศอ. เผยดัชนี MPI เดือนมิ.ย. ลดลงที่ 96.08 จากยอดการผลิตยานยนต์ที่ลดลง ด้านสภาฯ ผ่านงบฯ เพิ่มเติมปี 67 วงเงิน 1.22 แสนล้านโครงการดิจิตัลวอลเล็ต แต่ยังคงต้องติดตามคดีการเมืองของพรรคก้าวไกลวันที่ 7 ส.ค. และการถอดถอนนายกฯ วันที่ 14 ส.ค.
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมกับระบุในแถลงการณ์ว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เงินเฟ้อมีความคืบหน้าในการปรับตัวสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวกับสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า “หากข้อมูลที่ได้รับมายังคงทำให้เฟดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังอยู่ในทิศทางชะลอตัวลง เฟดก็พร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมครั้งหน้า คือ ในเดือนก.ย.”
- รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมประกาศกฎใหม่ในเดือนหน้า เพื่อเพิ่มอำนาจสหรัฐในการสกัดกั้นการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปจากบางประเทศไปยังบริษัทผลิตชิปของจีน แต่ประเทศพันธมิตรที่ส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปไปยังจีน เช่น ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และเกาหลีใต้ จะได้รับการยกเว้น ทำให้ผลกระทบของกฎนี้ไม่รุนแรงนัก
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.25% จากปัจจุบันที่ระดับ 0%-0.1% นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ตัดสินใจปรับลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นรายเดือนลงสู่ระดับ 3 ล้านล้านเยน (2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในสิ้นปี 2569 จากระดับ 6 ล้านล้านเยน ทั้งนี้ BOJ คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (core inflation) ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด จะอยู่ที่ระดับ 2.5% ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2567 และคาดว่าจะอยู่ที่ระดับราว 2% ในปีงบประมาณ 2568 และ 2569
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.ค.ปรับตัวลงสู่ระดับ 49.4 จากระดับ 49.5 ในเดือนมิ.ย. ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ค.ชะลอตัวลงสู่ระดับ 50.2 จากระดับ 50.5 ในเดือนมิ.ย. นายหลิน เจ๋อชาง เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังของจีน ระบุว่า จีนจะดำเนินนโยบายการคลังอย่างเข้มข้น เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีอุตสาหกรรม (MPI) เดือน มิ.ย.67 อยู่ที่ระดับ 96.08 ลดลง 1.71% เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย.66 ปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนี MPI ปรับตัวลดลง ได้แก่ ยอดผลิตยานยนต์ลดลงเป็นเดือนที่ 11 จากตลาดภายในประเทศ เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศลดลงจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ในระดับสูง แต่ตลาดส่งออกยังคงขยายตัวได้, ต้นทุนพลังงานเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้น และการทะลักเข้ามาของสินค้าต่างประเทศที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
- GPSC: ราคาพื้นฐานที่ 55.00 บาท
ราคาปรับตัวลดลงมาจากการที่รัฐตรึงค่าไฟฟ้า FT ด้าน Valuation น่าสนใจโดย FWD P/E 18.81 ประมาณ -1SD. เราคาดกำไรไตรมาสที่ 2/67 จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า SPP ที่ดีขึ้น ตามต้นทุนก๊าซที่ลดลงและปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มไตรมาส 3/67 อยู่ในระดับปานกลาง จากผลการดำเนินงานของ SPP ที่คาดว่าจะอ่อนแอลง จะถูกหักล้างจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ และมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลง และกำลังเร่งขยายกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน
- PTTEP: ราคาพื้นฐาน 174.0 บาท
ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นจากเหตุลอบสังหารผู้นำฮามาสในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ถูกโจมตีด้วยมิสไซลฺ์นำวิถีความแม่นยำสูง ขณะที่บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/67 ที่ 23.9 พันลบ. ปรับเพิ่มขึ้น 28% QoQ และ 14% YoY โดยผลประกอบการที่รายงานออกมาดีกว่าที่เราคาด 11% ส่งผลให้ครึ่งแรกของปีบริษัททำกำไรได้แล้ว 42.7 พันลบ. หรือคิดเป็น 55% ของประมานกำไรทั้งปีของที่เราคาด มองหุ้นมีความน่าสนใจด้วยรายงานผลประกอบการแข็งแกร่งเติบโตได้ดีทั้ง QoQ และ YoY อีกทั้งบริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 4.5 บาท/หุ้น คิดเป็นกว่าอัตราปันผลที่ 3.2%
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพฤหัสฯ ฯ ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของจีน (Caixin Manufacturing PMI) เดือน ก.ค. เทียบกับเดือนที่ผ่านมาที่ 51.8 จุด ต่อด้วย ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐ (ISM Manufacturing PMI) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.0 จุดปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 48.5 จุด
- วันศุกร์ ติดตามรายงานตัวเลขเศรฐกิจของสหรัฐ ภาคจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.88 แสนตำแหน่ง ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.06 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.1% ทรงตัวจากเดือนก่อน