วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,315 / 1,306 แนวต้าน 1,325 / 1,333

คาด SET Index จะได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาด ต่างประเทศเผชิญแรงขายทำกำไรหลังรับรู้ผลการประชุม FOMC ไปค่อนข้างมากแล้ว ขณะที่ตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐ-จีน ออกมาหดตัว บ่งชี้เศรษฐกิจโลกอ่อนแอ พร้อมทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง คาดจะกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานได้เช่นกัน คืนนี้แนะนำติดตามตัวเลขแรงงานสหรัฐต่อ

Our View? “กลับมาพักต่อ”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,315 / 1,306 และแนวต้านที่บริเวณ 1,325 / 1,333 เราคาดว่าตลาดจะเผชิญจิตวิทยาเชิงลบจากทิศทางตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวลงเผชิญแรงขายทำกำไร หลังการเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวประเด็นโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในช่วงเดือน ก.ย. ไปค่อนข้างมากแล้วตามที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า อีกทั้งตลาดยังคาดว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 3 ครั้งในช่วง 4Q’67 ซึ่งมากกว่าที่ FED ส่งสัญญาณและมากกว่าที่เราคาดไว้ ทำให้การปรับตัวขึ้นของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงอาจเริ่มมี Upside ที่จำกัดลง ขณะที่เมื่อคืนนี้สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐเดือน ก.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ 46.8 อ่อนตัวลงต่อเนื่อง สะท้อนภาคการผลิตสหรัฐยังหดตัว กระตุ้นความกังวลถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ อีกทั้งคืนนี้เราคาดว่าตลาดจะรอติดตามการรายงาน ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ (Nonfarm Payrolls) คาดจะออกมาอยู่ที่ระดับ 1.75 แสนตำแหน่ง สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐลดความร้อนแรงลง คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงพักฐานได้บ้าง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.ย. เมื่อคืนนี้แกว่งตัวผันผวนก่อนอ่อนตัวลงปิดที่ระดับ 76.31 ดอลลาร์/บาร์เรล -1.60 ดอลลาร์ (-2.05%) คาดตลาดเริ่มกลับมาคลายความกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่คาดจะไม่ลุกลามออกไปเป็นวงกว้าง ขณะที่การรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตของสหรัฐและจีนออกมาอยู่ในโซนหดตัว บ่งชี้แนวโน้มอุปสงค์น้ำมันยังอ่อนแอ คาดจะกดดันทิศทางราคา น้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดได้อีกครั้ง

ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศ เรายังให้น้ำหนักไปที่การรายงานผลประกอบการของ บจ. ในตลาดขณะที่หากพิจารณาจากคาดการณ์ EPS ของตลาดหุ้นไทยปี 67 โดย Bloomberg Consensus คาดล่าสุดอยู่ที่ระดับ 92.5 อ่อนตัวลงต่อเนื่อง คาดยังเป็นปัจจัยกดดัน-จำกัดทิศทางตลาดหุ้นไทยได้อยู่ อีกทั้งเรายังคงมุมมองประเด็นทางการเมืองโดยเฉพาะการลงมติวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลในวันที่ 7 ส.ค. และการนัดฟังคำวินิจฉัยคดีคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีในวันที่ 14 ส.ค. คาดจะนักลงทุนในตลาดบางส่วนอาจลดน้ำหนักการลงทุนในระยะสั้นออกไปก่อนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองดังกล่าว มองเป็นปัจจัย Overhang กดดัน ทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ

อย่างไรก็ดี เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการรายงานตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยออกมา 1.950 พันล้านดอลลาร์สหรัฐมากกว่าที่ตลาดคาด คาดจะส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นและช่วยลดทอนแรงขายของนักลงทุนต่างชาติได้เพิ่มเติม พร้อมทั้งเรามีมุมมองเชิงบวกจากการที่กระทรวงการคลังเตรียมเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 ส.ค. – 15 ก.ย. นี้ สะท้อนถึงความคืบหน้าของโครงการดังกล่าวคาดจะสามารถเริ่มโครงการได้ในช่วง 4Q’67-1Q’68 เรามองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT และ CRC)

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “BGRIM”

  • เราคาดจะได้รับแรงหนุนจากการส่งสัญญาณเปิดรับซื้อพลังงานหมุนเวียนรอบ 2 กำลังการผลิตรวม 3,668 เมกะวัตต์ ของคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) ขณะที่แนวโน้มการแข็งค่าของค่าเงินบาทจากโอกาสในการลดอัตราดอกเบี้ยของ FED คาดจะหนุนแรงเก็งกำไรได้เพิ่มเติม
  • ทางเทคนิค ราคาฟื้นตัวขึ้นยืนเหนือ EMAIO และ 25 วันพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านที่ EMA75 วัน ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD, RSI และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
  • แนะนำ “เล่นรีบาวด์”
  • แนวรับ 22.30 / 21.90 Target 23.80 / 25.00 Stop <21.50

- Advertisement -