บล.พาย:
KTB: Krungthai Bank PCL
งบดุลแข็งแกร่ง เติบโตอย่างมีคุณภาพ
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐานที่ 20.00 บาท แม้มีความท้าทายจากคุณภาพสินเชื่อที่อาจอ่อนแอลงใน 2H24 กรณีนี้รวมถึงสินเชื่อ้ให้ EA ที่ KTB ชี้แจงว่าเป็นสินเชื่อระยะสั้น และวงเงินจำกัด เรามองว่า KTB ยังมึงบดุลแข็งแกร่ง และจะสามารถควบคุม NPL ratio ได้ตามเป้าหมายไม่เกิน 3.25% และ Coverage ratio สูงกว่าเป้าหมาย ที่ 170% ครอบคลุมความไม่แน่นอนในอนาคต ดังนี้ เราคาดว่ากำไร สุทธิใน 2H24 จะเติบโต YoY แต่ลดลง HoH จากปัจจัยค่าใช้จ่ายการดำเนินงานสูงขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ทำให้เราคาดกำไรจะเติบโต ต่อเนื่อง 9.1% และ ROE จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 9.7% ในปี 2024 นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง 5.4%
การประชุมนักวิเคราะห์
- KTB คาดเศรษฐกิจไทยในปี 2024 เติบโต 2.3% หนุนจากภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่มองว่าการส่งออกสินค้ายังมีข้อจำกัดในการฟื้นตัว โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับลดลงที่ 2.0-2.5% จาก 2.5% ในปัจจุบัน
- สินเชื่อใน 2H24 จะเร่งตัวซึ้นจากที่หดตัว 0.6% YTD ใน 1H24 และคงเป้าหมายสินเชื่อเติบโต 3% ในปี 2024 โดยสินเชื่อจะฟื้นตัวจากความต้องการของภาครัฐ และบริษัทขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปรับลดลงใน 2H24
- แม้คุณภาพสินเชื่อมีความท้าทายมากขึ้นใน 2H24 จากเศรษฐกิจฟื้นตัวเปาะบาง นอกจากนี้ คุณภาพสินเชื่ออ่อนแอลงจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยในกลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านาท และบริษัทขนาดใหญ่บางราย อย่างไรก็ดี KTB เชื่อว่าสามารถควบคุม NPL ratio ได้ตามเป้าหมายไม่เกิน 3.25% ในปี 2024 (2Q24: 3.1%)
- KTB ปล่อยสินเชื่อระยะสั้น และในวงเงินจำกัดให้ บมจ. พลังงานบริสุทธิ (EA) ธนาคารจะพิจาณาสถานะสินเชื่อใหม่ใน 2H24 แต่เชื่อว่าผลกระทบที่เกิดขึ้น Credit costs จะยังควบคุมได้ตามเป้าหมาย ที่ 120-130 bps ในปี 2024
- รายได้ค่าธรรมเนียมจะเติบโต เน้นกลุ่มลูกค้า Wealth เป็นหลัก และได้เพิ่มสินค้าใหม่ในแอปเป๋าตัง เพื่อกระตุ้นรายได้ค่าธรรมเนียม ด้านค่าใช้จ่ายการดำเนินงานควบคุมได้ดี และหากค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น ต้องล้อกับการเติบโตของรายได้ ทำให้สามารถคุมให้ Cost to income ratio อยู่ในกรอบ low-mid 40s ตามเป้าหมายในปี 2024
เติบโตอย่างมีคุณภาพ
แม้เรามีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจไทยที่จะเร่งตัวขึ้นใน 2H24 หนุนจากภาคการท่องเที่ยว และการเบิกจ่ายงบประมาณ อย่างไรก็ดี เราคาดว่า KTB จะคงสำรองหนี้ฯ สูงเพื่อรองรับคุณภาพสินเชื่อที่อาจอ่อนแอลงในอนาคต กอปรกับค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากปัจจัยฤดูกาล เราคาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง HoH แต่จะเพิ่มขึ้น YoY และคงคาดการณ์กำไรสุทธิเติบโต 9.1% ที่ 39.9 พันล้านบาท โดยคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 5.4% ในปี 2024
คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 20.00 บาท
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เราประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 20.00 บาท ด้วยวิธี GGM (ROE 9.5%, Terminal growth 2%) อิง 0.66x PBV’24E หรือ -0.5SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี