ความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ กดดันการสงทุน
Market Update
ตลาดุหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 1.5% กังวลกับภาวะเศรษฐกิจจากการจ้างงานที่ชะลอตัวลง ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 3.4% ผิดหวังกับการจ้างงานเพราะจะกดดันอุปสงค์การใช้น้ำมัน
Market Outlook
วันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 1.14 แสนราย ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 1.76 แสนราย พร้อมกับอัตราการว่างงานที่ 4.3% ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 4.1% เป็นที่น่าติดตามว่านักลงทุนเริ่มไม่ตอบรับเชิงบวกกับตัวเลขเศรษฐกิจที่แย่กว่าคาด เพราะจะเป็นปัจจัยหนุนให้ FED ลดดอกเบี้ย แต่นักลงทุนกลับตอบรับเชิงลบกับตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแย่และกังวลกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ภายหลังจากทราบข้อมูลทั้งหมดพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 และ 10 ปีปรับลงแรงอย่างมีนัยยะสำคัญ สะท้อนความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายนราว 78%และให้น้ำหนักราว 22% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนกันยายนในอดีตที่ผ่านมา สถิติการปรับลดดอกเบียทำให้ตลาดหุ้นปรับฐานในกรณีที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบหนักหน่วง (Hard Landing) กับครั้งนี้ก็ต้องติดตามว่าจะเกิดภาวะ Hard Landing หรือไม่ ซึ่งก็มีบางสัญญาณที่ชี้ว่าอาจจะเกิดเช่นการเกิดภาวะ Inverted Yield Curve ของตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในอายุ 2, 10 ปี รวมไปถึงทฤษฎี Sahm Rule ที่กล่าวไว้ว่าหากค่าเฉลี่ยอัตราการว่างงาน 3 เดือนล่าสุดสูงกว่าอัตราการว่างงานช่วงต่ำสุดในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมามากกว่า 0.5% มีความเสี่ยงที่จะเกิด Recession ซึ่งปัจจุบันค่านี้อยู่ที่ 0.6% อดีตที่ผ่านมาการเกิด Recession ของสหรัฐฯกดดันให้ตลาดหุ้นปรับฐานเฉลี่ย 45% จากจุดสูงสุด โดยอุตสาหกรรมที่ Outperform ในช่วง Recession ได้แก่ สาธารณูปโภค การแพทย์ สัปดาห์นี้รอติดตาม (1) ดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯในวันจันทร์ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 51.4 (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.45 แสนราย ส่วนประเทศไทยรอติดตามเงินเฟื่อไทยในวันพุธ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.7%YoY
สัปดาห์นี้ประเมิน SET เคลื่อนไหว ในกรอบ 1280 – 1330 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนคงคำแนะนำทยอยสะสมลงทุนระยะกลาง – ยาว จากระดับ Valuation ที่น่าสนใจพร้อมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย แนะนำกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB TTB) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 79.00 บาท)
คาดรายงานกำไรงวด 2Q24 ที่ 6 พันล้านบาท (+33%YoY, -1%QoQ) หนุนจากยอดขายสาขาเดิมของ 7-11 ที่เติบโต 4.2%YoY จากยอดขายกลุ่มอาหารพร้อมทานที่เติบโตดี รวมกับการเติบโตของกำไรของ CPAXT จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Makro +2.0% และ Lotus’s +4.1%) ขณะที่เราคาดว่าแนวโน้มกำไร 2H24 จะเติบโต YoY ต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวหลังผ่านจุดต่ำสุดของปีในเดือน พ.ค.
CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 89.00 บาท)
คาดกำไรสุทธิงวด 2Q24 อยู่ที่ 4,238 ล้านบาท (+28%YoY, +5%QoQ) ได้รับผลดีจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เข้ามากว่า 1,960 ล้านบาท (+92%YoY,+50%QoQ) ขณะที่ธุรกิจอื่นยังคงเติบโตเช่นกันทั้งศูนย์การค้าที่รับรู้รายได้จากศูนย์ใหม่เต็มไตรมาส หรือธุรกิจโรงแรมที่เปิดเพิ่มขึ้น