บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แจ้งวันนี้ว่า โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กาลาบังก้า กำลังการผลิตไฟฟ้าสูงสุด 74 เมกะวัตต์ (MWp) ได้เริ่มผลิตไฟฟ้าจำหน่ายเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 กระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ จะจำหน่ายให้กับบริษัทย่อยในกลุ่มของบริษัท Aboitiz Power Corporation ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 10 ปี เป็นหลัก ขณะที่พลังงานไฟฟ้าส่วนที่เหลือ จะจำหน่ายในตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า (Wholesale Electricity Spot Market) ของประเทศฟิลิปปินส์ บริษัทฯ ถือหุ้นในโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ร้อยละ 49 ผ่านบริษัทร่วมทุน คือ เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ซึ่งมุ่งเน้นลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ ราช กรุ๊ป จะรับรู้กำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กาลาบังก้า คิดเป็น 36.3 เมกะวัตต์
นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กาลาบังก้า ถือเป็นหมุดหมายแรกของบริษัทฯ ในความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาพลังงานทดแทนของประเทศฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ บริษัทฯ และเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี อินเวส ซึ่งเป็นพันธมิตรธุรกิจได้ร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์เอ็นพีเอสไอกำลังผลิตไฟฟ้าสูงสุดตามสัดส่วนการถือหุ้น 71.1 เมกะวัตต์ (MWp) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมใกล้ชายฝั่งอ่าวซานมิเกล และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง ลูเซน่า ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้นโครงการละประมาณ 220 เมกะวัตต์
“เป็นที่น่ายินดีที่โครงการกาลาบังก้าสามารถดำเนินงานก่อสร้างและทดสอบมาตรฐานต่างๆ สำเร็จได้ตามเป้าหมาย นับจากนี้โรงไฟฟ้าแห่งนี้จะทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้าสีเขียวตอบสนองความต้องการไฟฟ้าและเป้าหมายการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของลูกค้าด้วย นอกจากนี้ รายได้จากโรงไฟฟ้ากาลาบังก้าที่จะเริ่มรับรู้ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ จะช่วยเสริมฐานะการเงินของบริษัทฯ ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นอีกด้วย” นายนิทัศน์ กล่าว
โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กาลาบังก้า ตั้งอยู่ในจังหวัดคามารีเนสซูร์ (Camarines Sur) ในตอนใต้ของเกาะ ลูซอน ของประเทศฟิลิปปินส์