Daily Focus: Sentiment ต่างประเทศเป็นบวก / / จับตาคำวินิจฉัยคดีนายกฯ

2024 SET Target: 1470

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways แคบกว่าที่ประเมิน ดัชนีปิดบวกได้อีกเล็กน้อย 0.72 จุด ที่ระดับ 1,297.79 จุด แต่ยังไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 1,300 จุดได้ มูลค่า 4.1 หมื่นลบ. สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติซือสุทธิในตลาดหุ้นอีกฝั่งละเล็กน้อย 331 ลบ.และ 173 ลบ. ตามลำดับ (แต่ต่างชาติพลิกมา Short Index Futures 1.64 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัวในแดนบวกขึ้นเหนือระดับ 1,300 จุดโดยได้แรงหนุนจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกจากต่างประเทศ หลังตัวเลขเงินเฟ้อ PPI สหรัฐฯเดือน ก.ค. ออกมาต่ำกว่าคาด +0.1% m-m ส่งผลให้ตลาดเพิ่มความมั่นใจว่า FED จะเริ่มลดดอกเบี้ยได้ในเดือน ก.ย. อย่างน้อย 0.25% ส่งผลให้ Bond Yield และ Dollar Index ย่อตัวลง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากรอบการฟื้นตัวจะยังไม่กว้างมากนัก โดยรอปัจจัยสำคัญในประเทศเวลา 15.00 น. ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะเริ่มอ่านคำวินิจฉัยคดีนายกฯเศรษฐาว่าจะต้องพ้นจากตำแหน่งหรือไม่จากการตั้งคุณพิชิต ชื่นบานเป็นรัฐมนตรี หากออกมาในเชิงลบเชื่อว่าตลาดมีโอกาสปรับตัวลงเนื่องจากครม.ต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และต้องเลือกตัวนายกฯ และจัดตั้งครม.ชุดใหม่ แต่หากออกมาเป็นบวกเราเชื่อว่าปัจจัย Overhang จะหายไปและทำให้ Upside การ์ฟื้นตัวของดัชนีเปิดกว้างขึ้น ประกอบกับภาพรวมผลประกอบการบจ. 2Q24 เท่าที่ประกาศออกมาแล้วหากไม่รวมรายการพิเศษสำคัญ โดยรวมยังค่อนไปในทางดีกว่าคาด และช่วยจำกัด Downside ของ EPS ปี 2024 ปัจจุบันที่ราว 90-91 บาท ส่วนระยะถัดไปคาดได้แรงหนุนจากการกลับมาของกองทุนวายุภักษ์ 1 ที่คลังตั้งเป้าขายหน่วยภายในเดือน ก.ย. วงเงินระดมทุน 1-1.5 แสนลบ. เป็นเม็ดเงินใหม่เข้ามาลงทุนใน SET Index

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นเป็นรายตัวที่มีแนวโน้มกำไร 2Q24 โดดเด่น // ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้า ยังถือลงทุนต่อเนื่องระยะกลาง-ยาว

หุ้นเด่นเดือน ศ.ค.: BA, CHG, CPALL, ITC, MAGURO

FSSIA Portfolio: AOT, CHG, CPALL, CPN, GPSC, HANA, KCG, KTB, SHR, SJWD, TU

หุ้นเด่น Finansia 14 ส.ค. 24 : CPALL

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 79 บาท
  • กำไรปกติ 2Q24 ออกมาที่ 6.16 พันลบ. +2% q-q, +37% y-y ดีกว่าที่คาด 6% หนุนจากกำไรปกติของ CPAXT ที่ดีกว่าคาด และ Gross Margin ของธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่สูงกว่าคาด 
  • กำไร 1H24 คิดเป็น 52% ของประมาณการทั้งปีที่ 2.36 หมื่นลบ. +30% y-y และอาจมี Upside ราว 5% โมเมนตัมกำไร 3Q24 อาจชะลอ q-q จากปัจจัยฤดูกาลแต่ภาพรวมยังโต y-y ล่าสุด SSSG ทุกธุรกิจยังเป็นบวกได้ 1-3% ในเดือน ก.ค. ขณะที่โมเมนตัม 4Q24 จะเร่งขึ้นและมีลุ้นเป็นจุดสูงสุดของปี 
  • แนวรับ 57-56.50 บาท แนวต้าน 60-61 บาท 

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนผสมผสาน สุทธิแล้วไหลออกจากภูมิภาค US$128 ล้านเม็ดเงินไหลออกจากไต้หวัน US$147 ล้าน รองลงมาคือเกาหลีใต้ US$31 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้าทุกประเทศสูงสุดที่อินโดนีเซีย US$31 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะพลิกมาไหลเข้าหลังตัวเลขเงินเฟ้อ PPI สหรัฐฯเดือน ก.ค. ออกมาต่ำกว่าคาดและเพิ่มความเชื่อมั่นต่อการลดดอกเบี้ยของ FED ที่จะเริ่มในเดือน ก.ย. หนุนเม็ดเงินไหลเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนคืนนี้ติดตามตัวเลข CPI

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) BDMS กำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 3.3 ลบ. -18% q-q, +9% y-y ตามคาด รายได้รวมเพิ่มขึ้น 7% y-y อยู่ที่ 2.6 หมื่นลบ. แยกเป็นรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น 11% y-y ส่วนมากมาจากประเทศกาต้า UAE และ USA ขณะที่รายรายได้จากผู้ป่วยในประเทศเพิ่มขึ้น 5% y-y จากต้นทุนการให้บริการและ SG&A ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ EBITDA margin ปรับลงเล็กน้อย กำไรปกติ 1H24 ที่ 7.4 พันลบ. +13% y-y และคิดเป็น 45% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2024 ที่ 1.64 หมื่นลบ. ราคาเป้าหมาย 35 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) KCE กำไรปกติ 2Q24 ฟื้นดีตามคาด มาจากการทำ Cost saving หนุนอัตรากำไรขั้นต้นชดเชยรายได้ที่ยังไม่สดใส กำไรปกติ 1H24 ที่ 949 ลบ. +50% y-y คิดเป็น 42% ของประมาณการทั้งปี แนวโน้มกำไร 2H24 จะดีกว่า 1H24 หนุนโดยการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้นเป็นหลักหลังขยายการใช้สารเคมีที่ผลิตเองไปยังโรงงานลาดกระบัง จาก 1H24 ที่ใช้กับโรงงานอยุธาที่เดียว ขณะที่ภาพรวมคำสั่งซื้อน่าจะยังไม่ตื่นเต้น คาดรายได้ 3Q24 จะฟื้นเล็กน้อย 5-6% q-q เพราะเป็น High season คงราคาเป้าหมาย 50 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) KCG กำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 95 ลบ. +32% q-q, +68% y-y ดีกว่าที่เราและตลาดคาด 25% หลักๆ มาจากรายได้รวมที่สูงกว่าคาดและค่าใช้จ่ายในการบริหารน้อยกว่าคาด แนวโน้มกำไร 2H24 จะดีขึ้นจากช่วง High Season ของธุรกิจ ประกอบกับโครงการ Logistic Park ได้เปิดดำเนินงานการแล้วในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งและลดค่าเช่าลง ส่วนการปรับขึ้นของราคาเนยในปัจจุบันอาจทำให้ต้นทุนวัตถุดิบปรับขึ้นจำกัดเพราะบริษัทได้ล๊อกราคาของปีนี้ไว้หมดแล้ว ราคาเป้าหมาย 12.80 บาท ยังแนะนำ ซื้อ

(+) GFPT กำไรสุทธิ 2Q24 ดีกว่าคาด 9% ทำนิวไฮรอบ 7 ไตรมาส ส่วนกำไรปกติ 562 ลบ. +27% q-q, +68% y-y ดีจากอัตรากำไรขั้นต้นเร่งขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทำนิวไฮที่ 278 ลบ. +20% q-q, +136% y-y มาจากกำไรที่แข็งแกร่งของ ทั้ง GFN และ McKey แนวโน้มกำไร 3Q24 ยังดูดี จากปริมาณการส่งออกที่น่าจะทรงตัว q-q ได้แม้ฐาน 2Q จะสูง แต่น่าจะถูกนุนด้วย High season และยังได้ราคาวัตถุดิบต่ำ ขณะที่ราคาไก่ยังยืนทั้งในประเทศและส่งออก คงเป้าเดิม 17 บาท ยังแนะนำซื้อ

(+) SISB กำไรสุทธิ 210 ลบ. -1% q-q, +35% y-y ดีกว่าเราคาด 2% กำไรที่ลด q-q เพราะเป็นเทอมสุดท้ายของปีการศึกษา รายได้กิจกรรมจึงน้อยลงเล็กน้อย แต่ยังรักษาอัตรากำไรขั้นตันสูงกว่าไตรมาสก่อนเล็กน้อย จำนวน นร. ไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 79 คน รวมเป็น 4,357 กำไร 1H24 +34% y-y คิดเป็น 46% ของคาดการณ์ทั้งปี คงประมาณการและเป้า 44 บาท

(+) SFLEX มีกำไรปกติ 65 ลบ. +3% q-q ทั้งที่เป็น low season, +29% y-y ดีกว่าเราคาด 18% และเป็นกำไรที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อัตรากำไรขั้นตันยืนอยู่ในระดับสูงจากการบริหาร ต้นทุนที่ดี บ.ร่วมในเวียดนาม Starprint ทำกำไรได้ดีมาก SFLEX รับรู้ส่วนแบ่งกำไร 5.4 ลบ. +107% q-q กำไรปกติ 1H24 คิดเป็น 57% ของคาดการณ์ทั้งปี ประมาณการมี upside ราคาหุ้นที่ร่วงแรงวันนี้น่าจะเป็น sell before fact หลังจากเก็งงบในช่วงก่อนหน้า ราคาปัจจุบันมี P/E 13 เท่า เป้าก่อนปรับอยู่ที่ 5.60 บาท

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 408.63 จุด หรือ +1.04% ปิดที่ 39,765.64 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.

(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ ขณะที่นักลงทุน มีความหวังมากขึ้นว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย.

(0) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกต่อเนื่อง ตามตลาดสหรัฐฯ หลังรายงานดัชนี PPI เดือน ก.ค. ต่ำกว่าระดับที่ตลาดคาด หนุนความคาดหวังในการลดดอกเบี้ยของเฟด

(+) ค่าเงินบาทแข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 35.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.40%

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.14% ปิดที่ 78.35ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลน้อยลงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สงครามในตะวันออกกลางจะลุกลามเป็นวงกว้าง อันเนื่องมาจากอิหร่านยังไม่ได้ดำเนินการตามคำขู่ที่จะโจมดีอิสราเอลเพื่อตอบโต้กรณีแกนนำกลุ่มฮามาส ถูกลอบสังหารในกรุงเตหะราน ในขณะที่เช้านี้บวกอยู่ที่ระดับ 78.82 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.60%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 2,507.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการร่วงลงของ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ในขณะที่เช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2,506.60ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.05%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 845.78/ -0.47%

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

14 ส.คไทย: ศาลฯวินิจฉัยคดีของนายกฯเศรษฐา

อังกฤษ: เงินเฟ้อ (ก.ค.)

ยูโรโซน: GDP 2Q24 คาดการณ์ครั้งที่ 2

สหรัฐ: เงินเฟ้อ CPI (ก.ค)

15 ส.ค.สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ก.ค)

จีน: ยอดค้าปลีก (ก.ค)

อังกฤษ: เงินเฟ้อ (ก.ค.)

16 ส.ค.อังกฤษ: ค้าปลีก (ก.ค.)

สหรัฐ: Building Permits Prel (ก.ค.)

19 ส.ค.ไทย: GDP growth (2Q24)
20 ส.ค.แคนนาดา: เงินเฟ้อ (ก.ค.)

จีน: Loan Prime Rate 1Y

- Advertisement -