บล.กรุงศรีฯ:
KSS Strategist Comment : TH Politic Update
Fact : ศาล รธน. 5 ต่อ 4 วินิจฉัย “เศรษฐา” สิ้นสุดการเป็นนายกฯ และ ครม.พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ
Key Ideas:
- หลังจากนี้คาดว่ารองนายก จะทำหน้าที่รักษาการ นายกฯ แทน และเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกใหม่ภายใน 45-60 วัน ประเมินใช้เวลาราว 1 เดือน โดยต้องการเสียงโหวตไม่ต่ำกว่ากึ่งหนึ่ง ของ ส.ส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสภาปัจจุบันที่ 493 เสียง
- หากเลือกนายกได้ เรามองผลกระทบกรณีสูญญากาศจะเกิดขึ้นในระยะสั้น กระบวนการพิจารณางบประมาณปี 2025 ที่เป็น Downside ที่ตลาดกังวลจะจำกัด มองล่าช้าจากรอบเวลาปัจจุบันไม่เกิน 1 เดือน ทำให้ Downside ในส่วนประมาณการ GDP ปี 2024-25 จำกัด
- กรณีไม่สามารถเลือกตั้งนายกได้ อีกกรณีที่เป็นไปได้ คือ รักษานายกยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ และใช้ระยะเวลานานขึ้นและอาจกระทบต่องบประมาณปี 2568 กรณียุบสภา กรณีดังกล่าวจะเปิด Downside คาดการณ์ GDP และ SET
- การเดินหน้านโยบายหลักพรรคเพื่อไทย อาทิ Digital Wallet อาจมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น แต่มองกระทบจำกัด เนื่องจาก Consensus แทบไม่รวมผลบวกดังกล่าวในประมาณการอยู่แล้ว
Strategy: กลยุทธ์เราประเมินความชัดเจนจะเป็นบวกต่อใน SET ระยะสั้นแกว่ง เชื่อว่าจะยืนเหนือจุดต่ำสุดล่าสุดที่ 1271 จุดได้ และให้อยู่ฝั่ง ซื้อ ช่วงตลาดผันผวน และมีโอกาสฟื้นตัว หลังจาก SET ในช่วงก่อนหน้าปรับตัวลดลงมาสะท้อนความเสี่ยงดังกล่าวล่วงหน้าไประดับหนึ่งแล้วจนอยู่ในโซนลงทุน ทั้งนี้ ในกรณีที่การเลือกนายกฯ ใหม่ราบรื่น และมีโอกาสที่ตลาดจะค่อยๆฟื้นตัวหลังจากนั้นตามภาพเศรษฐกิจไทยที่กำลังฟื้นตัวในปัจจุบันและผลกระทบสูญญากาศที่จำกัด
เลือกลงทุนหุ้น Defensive อาทิ สื่อสาร ADVANC, TRUE ร.พ. อาทิ BDMS โรงไฟฟ้า อาทิ GULF ขณะที่ทยอยสะสมหุ้นค้าปลีก CPALL, CPAXT ที่คาดทยอยฟื้นตัวตามภาพพื้นฐานปัจจุบันในช่วงถัดไป แม้ไม่รวมผลบวกนโยบาย Digital Wallet และหุ้นได้ประโยชน์กองทุนวายุภักษ์เชื่อว่าเดินหน้าต่อได้ KTB, PTT