บล.พาย:

NER: North East Rubber PCL.

2Q24 ราคาขายดีชดเชยปริมาณที่ลด

เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” เพราะมีปัจจัยบวกจากปริมาณขายในช่วง 2H24 ที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจาก 1H24 หลังจากสภาพอากาศเริ่มมีฝนตกและทำให้มีผลผลิตยางออกมามากขึ้น รวมกับผลประกอบการงวด 2Q24 ที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5%YoY, 6%QoQ มาอยู่ที่ 479 ล้านบาท ยังรักษาระดับสูงได้แม้ว่ารายได้จะลดลงถึง 11% ทั้ง YoY,QoQ อย่างไรก็ตามด้วยปริมาณขายที่ลดลงในช่วง 1H24 ทำให้เราปรับปริมาณขายลงจากระดับ 498,000 ตัน เหลือเพียง 440,000 ตัน แต่ปรับราคาขาย ขึ้น 3% ทำให้มีรายได้ใหม่ที่ 27,318 ล้านบาท (+9%YoY) และมีกำไรสุทธิที่ 1,840 ล้านบาท (19%YoY) และประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 6.50 บาท (6.5XPER’24E) ทั้งนี้ NER ประกาศจ่ายเงินปันผลจำนวน 0.05 บาท/หุ้น XD 23 ส.ค. จ่าย 6 ก.ย.

2Q24 กำไรสุทธิ์ 479 ล้านบาท (+5%YoY, +6%QoQ)

  • NER มีกำไรสุทธิ 479 ล้านบาท (+5%YoY, +6%QoQ) แต่ถ้าไม่รวมรายการพิเศษที่เป็นตัวเลขขาดทุนกว่า 14 ล้านบาท กำไรปกติจะอยู่ที่ 492 ล้านบาท (-3%YoY, +4%QoQ) เทียบกับปีก่อนลดูลงจากรายได้ และกำไรขั้นต้น ส่วนเทียบกับ 1Q24 เพิ่มขึ้นเพราะกำไรขั้นต้นดีขึ้น
  • รายได้อยู่ที่ 5,809 ล้านบาท (-11%YoY, -11%QoQ) มีปริมาณขาย 90,451 ตัน (-30%YoY, -21%QoQ) เพราะได้รับผลกระทบจากภัยแล้งทำให้ผลผลิตยางไทยออกมาน้อยลง แต่ได้รับผลดีจากราคาขายเฉลี่ย ที่เพิ่มเป็น 64 บาท/กก. (+27%YoY,+12%QoQ ) ตามราคายางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี
  • กำไรขั้นต้นที่ 12.4% ลดลงเล็กน้อยจาก 12.9% ใน 2Q23 แต่เพิ่มขึ้นจาก 11.6% ใน 1Q24 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 109 ล้านบาท (-48%YoY, -29%QoQ) ลดลงมากตามปริมาณการส่งออกที่มีเพียง 17,389 ตัน (-66%YoY, -42%QoQ) ทำให้มีค่าธรรมเนียมส่งออกยาง (เซสส์) น้อยลง แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการบริหารจะเพิ่มขึ้นหลังมีการบันทึกค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าธรรมเนียมในการออก Warrant เข้ามาก็ตาม
  • ดอกเบี้ยจ่าย 110 ล้านบาท (+5%YoY,-4%QoQ)
  • รวมแล้วในช่วง 1H24 NER มีกำไรสุทธิ 932 ล้านบาท (+21%YoY)

2H24 ยางเริ่มออก แต่ฐาน 1H24 ที่ต่ำทำให้ปรับเป้าลง

แนวโน้มในช่วง 2H24 คาดว่าปริมาณผลผลิตยางจะเริ่มออกมามากขึ้น หลังจากสภาพอากาศเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ทำให้การขายทำได้มากขึ้น ซึ่งล่าสุดทางผู้บริหารคาดว่าปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 240,000 ตัน อย่างไรก็ตามแม้ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นแต่ด้วยฐานที่ต่ำในช่วง 1H24 ทำให้เป้าการขายทั้งปีปรับลดลงเหลือ 440,000 ตัน จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 500,000 ตัน ขณะที่แนวโน้มในปี 25 ยังต้องติดตามภาพรวมอีกครั้งว่าปริมาณยางจะออกมามากน้อยเพียงใด และทำให้การก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ยังคงชะลอไปก่อน

สำหรับยาง EUDR ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำระบบแผนที่เพาะปลูกคาด ว่าจะเริ่มขายได้ในเดือน ก.ย.นี้ แต่ปริมาณขายยังไม่มากนัก

คงแนะนำ “ซื้อ” หลังงบออกมาดี

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” มีปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ออกมาดี ขณะที่การปรับเป้าปริมาณขายลงกว่า 11% แต่ด้วยการปรับราคาเพิ่ม จึงทำให้กระทบกับกำไรสุทธิที่เราปรับลดเพียง 3% มาอยู่ที่ 1,840 ล้านบาท (+19%YoY) ประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 6.5 บาท (6.5XPER’24E ปรับมาใช้ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ทั้งนี้ NER ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.05 บาท XD 23 ส.ค. จ่าย 6 ก.ย.

- Advertisement -