บล.กรุงศรีฯ:

KSS Global Macro Strategist Comment: เราได้เข้าร่วม Webinar ของ MUFG หัวข้อ August Fed Call Update – Behind the recent market volatility ซึ่ง update รายละเอียดมุมมองของ MUFG ที่มีต่อ Fed มีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้:

Hard-Landing Probability: MUFG มองโอกาสการเข้าสู่ Recession ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงปีหน้าอยู่ที่ 50% สูงกว่าระดับที่ Consensus ประเมินที่ 30% แต่ต่ำกว่าระดับที่สะท้อนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสะท้อนที่ราว 55% 

  • The First Cut Coming in September: MUFG มอง Fed เตรียมเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก: 

1. อัตราดอกเบี้ย Mortgage Rate อยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยจ่ายอื่น 

2. ภาคแรงงานเริ่มสะท้อนความอ่อนแอ โดยตัวเลข Sahm Rule ปรับขึ้นสูงกว่าระดับที่สะท้อนถึงการเข้าสู่ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯในอีก 6 เดือนข้างหน้าแล้ว

3. แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอลง สะท้อนจากระดับ Bloomberg Economic Surprise Index ที่ชะลอลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งสุดท้ายในปี 2023 นอกจากนี้ในอดีต เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะ Soft-Landing ได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้น ทำให้โดยสถิติแล้วโอกาสการเกิด Hard-Landing หรือการเข้าสู่ภาวะถดถอยนั้นมีสูงกว่า

4. ระดับอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงของพันธบัตรอายุ 10 ปี (10-Yr Real Rates) อยู่ในระดับสูงถึงราว 2% 

5. ต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงการอ่อนตัวของ JPY (USDJPY Hedging Cost) เริ่มมีแนวโน้มชะลอลง สะท้อนมุมมองตลาดว่าให้น้ำหนักกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed สูง

  • MUFG มอง USDJPY สะท้อนการกลับสถานะของการทำ JPY Carry Trade ในปี 2024 แล้ว และมีโอกาสเกิดการเร่งกลับสถานะดังเช่นวันที่ 5 ส.ค. มีโอกาสเกิดขึ้นน้อย

Strategy: ฝ่ายวิจัย KSS เห็นสอดคล้องกับมุมมองของ MUFG ว่ากระบวณการลดลงของเงินเฟ้อที่ชัดเจน อยู่ในระดับที่จะสร้างความมั่นใจให้กับ Fed เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ในการประชุมรอบ ก.ย. โดย ณ ปัจจุบัน CME Fed Watch ให้โอกาสลดดอกเบี้ยระดับ 50bps สูง 25% และให้โอกาสลด 25 bps สูง 75%  โดยเรามีมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากแบบจำลองอื่นๆที่มิใช่ Sahm’s Rule ได้แก่ NBER Recession Framework และ ดัชนี LEI ของ Conference Board ยังสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังเติบโตได้ และระดับอัตราการว่างงานปัจจุบันที่ 4.3% ถือว่าต่ำกว่าระดับที่ Trigger Sahm Rule เฉลี่ย 14 ครั้งในอดีตที่ 6.2% ค่อนข้างมาก โดยสรุป เรามองการเริ่มต้นของวงจรดอกเบี้ยขาลงจะเริ่มในการประชุม ก.ย. นี้เช่นกัน เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงโลก โดยมองเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นในกลุ่มได้ประโยชน์จาก Yield พีค ได้แก่ โรงไฟฟ้า เน้น GULF กลุ่มเช่าซื้อ กลุ่มหนี้สูง CPAXT,CPALL, TRUE, ADVANC กลุ่ม Tech Consult BBIK BE8 ขณะที่กลุ่มชิ้นส่วนเน้น HANA, DELTA

สำหรับกองทุนแนะนำ กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลคอลเล็คทีฟสมาร์ทอินคัม  (KF-CSINCOM)

- Advertisement -