ลุ้น Vision for Thailand / 1,330-1,345
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
SET คาด Sideways Up : มองตลาดจะค่อยๆ ยกตัวขึ้น โดยมีปัจจัยบวก นำโดย 1) ความหวังการเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยความคืบหน้าในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้หุ้นกลุ่มค้าปลีกคึกคักหลังรองนายกฯ ชี่โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตสามารถเดินหน้าต่อได้ แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ยืนยันสามารถเดินหน้าโครงการต่อได้ทันทีภายใน 15 วัน หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ด้านรมช.คลังชี้ ร.บ.จะแถลงนโยบายได้ภายในต้นเดือน ก.ย. และจะยังไม่เลื่อนไทม์ไลน์ของดิจิทัลวอลเล็ต โดยอาจเปลี่ยนไปเป็นการมอบเงินสดให้กลุ่มเปราะบาง ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ย้ำยังต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง นอกจากนี้ช่วงเย็นวันนี้ยังมีการจัดงาน Vision for Thailand ของอดีตนายกฯ ทักษิณ คาดจะเห็นก้าวต่อไปของการดำเนินนโยบายพรรค และแนวทางการแก้ไขปัญหาภายในให้ประเทศ 2) ค่าเงินบาทยังอิงทางแข็งใกล้ระดับ 34.20 บาทต่อดอลลาร์ เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และหุ้นที่มีสัดส่วนนำเข้าสูงนอกจากนี้ยังหนุน Fundflow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย ท่ามกลางการตรึงดอกเบี้ยของ กนง. ที่ระดับ 2.5% โดยกนง.มองเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวตามคาด การท่องเที่ยว อุปสงค์ในประเทศ และการส่งออกจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป การตรึงดอกเบี้ยมองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร และคาดจะส่งผลให้ค่าเงินบาทยังอิงทางแข็งค่าต่อไป 3) รายงานการประชุมเฟดระบุความเป็นไปได้ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน ก.ย. มองจะเป็นแรงหนุนหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯ ด้านปัจจัยลบมองราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงต่อสู่ระดับ 71.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กดดันราคาของหุ้นพลังงานต้นน้ำ ขณะที่ตลาดจับตาการเจรจาหยุดยิงที่มีสหรัฐเป็นตัวกลาง ล่าสุดเผยเงื่อนไขที่อิสราเอลต้องการมีมากเกินไป จนอาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถยอมรับได้ จึงอาจต้องจับตาการเจรจาต่อไป ด้านปัจจัยอื่น จับตาการประชุม Jackson hole ในวันที่ 22-24 ก.ย. คาดจะเห็นสัญญาณชี้นำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
กลยุทธ์การลงทุน : 1) กนง.คงดอกเบี้ย: BBL, KBANK, KTB, SCB 2) ดอกเบี้ยสหรัฐฯลง/บาทแข็ง: SYNEX, CCET, COM7, DELTA, GPSC, GULF 3) ค้าปลีก /ท่องเที่ยว: AOT, CPN, CPALL, CPAXT 4) คาดงบดีต่อใน 3Q67: ADVANC, INTUCH, CPF, BEM, BH, CPF
ปัจจัยบวก
- กระทรวงพาณิชย์กับ 43 พันธมิตรด้านอีคอมเมิร์ซชั้นนำ จัดกิจกรรม Thailand E-commerce Expo 2024 ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 21-22 ส.ค.67 คาดจะมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมงานทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์กว่า 10,000 ราย สร้างมูลค่าการค้ากว่า 130 ลบ.
- ตลท. เตรียมจัดงาน Thailand Focus 2024 ในหัวข้อ Adapting to a Changing World ตอกย้ำความพร้อมและศักยภาพบริษัทจดทะเบียนและเศรษฐกิจไทย ภายใต้ความท้าทายของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
- นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์เผยถึงการแก้ไขปัญหาสินค้าราคาถูกจากจีนทะลักเข้าไทยว่าเร็วๆ นี้จะเรียกประชุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดอีกครั้ง ซึ่งจะมีการเชิญเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบเข้าร่วมด้วย เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา เบื้องต้นอาจจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยจะเร่งคุยให้ได้ข้อสรุป ทั้งหมดภายในส.ค.นี้เพื่อเสนอ ครม. ให้พิจารณาต่อไป
ปัจจัยลบ
- ล่าสุดประเทศไทยพบผู้ป่วยสงสัยฝีดาษวานร สายพันธุ์ clade Ib รายแรก โดยสายพันธุ์ clade Ib นี้องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขที่มีผลกระทบระหว่างประเทศ
- รมว.คลัง ปาฐกถาพิเศษงาน Dailynews Talk 2024 โดยระบุว่าห่วงเศรษฐกิจไทยโตต่ำเพียง 2.5% ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าศักยภาพที่เคยโตกว่า 6-10% พร้อมชี้แนวโน้มเศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ไหลลงมาเป็นวิกฤติในอีกแบบหนึ่ง และอาจเลวร้ายลงหากปรับตัวไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก
- จีนเผยการเติบโตของกำไรสุทธิของธนาคารพาณิชย์จีนมีแนวโน้มลดลง โดยหลักแล้วเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่และ NIM ที่ลดลง ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของสินเชื่อธุรกิจที่ออกใหม่ในช่วง 7M67 ลดลง 39 bps เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- World Bank ชี้ไทยมีขนาดเศรษฐกิจนอกระบบใหญ่เป็นอันดับ 3 ในเอเชีย ซึ่งไม่ได้นำมาคำนวณภาษี และไม่นับรวมในจีดีพีประเทศ
PICKS OF THE DAY
CPALL BUY
- เป้าหมาย 61.00 / 62.00 แนวรับ 58.00
- ได้รับประโยชน์จาก DW: คาดรัฐบาลมีแผนจะเปลี่ยนจากการแจกเงิน Digital เป็นแจกเงินสด โดยจะให้เฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับ 7-11 แล้วถือเป็นร้านสะดวกซื้อที่มีสาขามากที่สุด อีกทั้ง CPALL ยังเป็นเจ้าของ Lotus Go Fresh ผ่าน CPAXT โดยรวมทั้ง 7-11 และ Lotus Go Fresh แล้วคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 83% ของร้านสะดวกซื้อสมัยใหม่ทั้งหมด คาดว่า CPALL จะเป็นผู้ได้ประโยชน์สูงสุดในกลุ่มค้าปลีกสมัยใหม่ขนาดเล็ก
- 2Q67 รายได้ กำไรโตตามคาด: ผลประกอบการไตรมาส2 รายได้โตตามคาดที่ 248,026 ลบ. +3% q-q และ +6.9% y-y มี GPM ดีขึ้นเล็กน้อยที่ 27.7% จาก 27.4% ใน 1Q67 ทำให้มีกำไรอยู่ที่ 6,239 ลบ. คิดเป็น -1.3% q-q, +40.6% y-y โดยรวมโตจากจำนวนลูกค้าที่เข้าร้านมากขึ้น แม้ว่ายอดใช้จ่ายต่อใบเสร็จยังคงเดิมเท่ากับตอน 1Q67
GULF BUY
- เป้าหมาย 52.00 / 53.00 แนวรับ 48.00
- Sentiment บวกจากธุรกิจดิจิทัล: นสพ.ข่าวหุ้นระบุว่า Huawei บริษัทเทคโนโลยีจากจีน ประกาศหนุนไทยเป็นศูนย์กลาง Cloud ระดับภูมิภาค ทางฝ่ายเป็น Sentiment บวกหนุนธุรกิจ Data Center ของบริษัท ซึ่งปัจจุบันกำลังดำเนินการก่อสร้าง เฟสแรก 25 MW กัลฟ์ถือหุ้น 40% คาด COD ในไตรมาส 1 ปีหน้า
- ปัจจัยหนุนภายนอกหนุน : เงินบาทแข็งค่ามาใกล้ระดับ 34 บาท เทียบกับระดับ 36 บาท ในช่วงไตรมาส 2/67 หนุนให้บริษัทมีโอกาสได้กำไรจาก FX นอกจากนี้ล่าสุดแม้กนง. ของไทยยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ อย่างไรก็ตามตลาดยังคาดว่า FED ของสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะหนุนให้กลุ่มโรงไฟฟ้เกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง
