บล.กรุงศรีฯ:
KSS Strategist Comment : งาน Vision for Thailand อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร มาแสดงวิสัยทัศน์ มีประเด็นสำคัญ 7 เรื่อง คือ
1. ลดหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP
- ลดหนี้สิน
- ให้ BOT ลดค่าธรรมเนียม FIDF ที่เก็บจากธนาคาร และให้ธนาคารพาณิชย์นำสภาพคล่องไปแก้ปัญหา
- ธนาคารหรือ บ. บริหารหนี้บริหารจัดการหนี้ให้ลูกหนี้
- เร่งขยาย GDP
- เศรษฐกิจใต้ดินปัจจุบันคิดเป็น 50% ของเศรษฐกิจบนดิน หลักๆ คือ ยาเสพติด และพนันออนไลน์
- การพนัน : ปราบปรามเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ใช้เทคโนโลยีระบุตัวตน ส่วนที่เหลือดึงเข้าสู่ระบบเก็บภาษีรายได้ยาเสพติด
- ยาเสพติด : เร่งบำบัดเปลี่ยนกลายเป็นแรงงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ลดปัญหาขาดแคลนแรงงาน
- เศรษฐกิจบนดิน
- Digital Wallet มองประโยชน์หลายด้านของนโยบาย คาดแจกเป็นเงินสดก่อน ก.ย. 24
- สร้างอุตสาหกรรม S Curve ใหม่
- อุตสาหกรรมอวกาศ ผลิตดาวเทียมวงโคจรต่ำ ทำสถานีส่งดาวเทียมสู่อวกาศ
- AI มีประโยชน์หลายด้าน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
- Data Center (ยกข้อจำกัดพลังงานหมุนเวียน โรงไฟฟ้าใช้เองสร้างเองได้)
- Soft Power มองมวยสร้างเป็นลีคอาชีพเหมือนฟุตบอล, E-Sport เร่งสร้าง Demand ให้อุตสาหกรรมเติบโต, อาหาร ผลักดันธนาคารปล่อยกู้คนไทยในต่างประเทศ ส่งเสริมเป็นวงกว้าง, ศิลปะ ขาย/เก็บสร้างมูลค่าผ่าน NFT ทั่วโลก, แฟชั่น เน้นใช้ทรัพยากรที่เรามี ความสวยของผู้หญิงไทย ต่อยอดคล้ายบราซิล
- Financial Hub ดึงสถาบันการเงินต่างประเทศเข้าไทย เน้นให้ทำธุรกรรมเฉพาะ
- ต่างประเทศ
- ส่งเสริมไทยเป็นฐานผลิตพวงมาลัยขวาของโลก
- ดึงบุคลากรต่างประเทศ ที่อยู่อาศัยเช่า 99 ปีจูงใจ (ครบ 99 ปีคืนรัฐฯ) ที่ดินอาจจะแพงขึ้น แต่เงินที่ได้เอาไปสนับสนุนที่ดินให้กับคนไทยอยู่อาศัย
- ยกระดับอุตสาหกรรมเดิมที่ดีให้เด่นขึ้น คือ ท่องเที่ยว
- Entertainment Complex (กทม. 2 แห่ง ลงทุนแห่งละ 1.0 แสนล้านบาท, ต่างจังหวัดที่ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ต้องสร้างจุดดึงดูด Entertainment Complex ที่ละ 5.0 หมื่นล้านบาท เน้นลงทุนสูงมี Impact มากพอ, ปรับปรุงห้องน้ำ+แหล่งท่องเที่ยวให้เหมือนสากล, แก้กฎหมายเอื้อ Private Jet ดึงเม็ดเงินเศรษฐี)
- โครงสร้างพื้นฐานรองรับการเดินทางต้องเร็ว มองกรณี Runway ที่ 3 สุวรรณภูมิช้าไป
- พัฒนาภาคอุตสาหกรรมที่เริ่มล้าหลัง
- ยานยนต์ Ecosystem ซัพพลาย เชนรถยนต์ที่มีอยู่แล้ว พยุงไม่ให้พัง เพราะสร้างใหม่ยากกว่า พยายามดึงยานยนต์อนาคต EV มาใช้ให้ได้
- เกษตร ต้องใช้นวัตกรรมพัฒนาสินค้าที่มีโอกาสขายได้แพง สุดท้ายนำมาสู่ค่าแรงในประเทศเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจหมุนเวียน + ใช้เทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิต
- SME ที่เน้นกลยุทธ์ Volume สินค้าไม่มีความแตกต่าง ต้องพัฒนา ส่วนกลุ่มที่ไปไม่ไหว หามาตรการปกป้อง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งปรับตัวในระยะสั้น
- ลดหนี้สิน
2. มาตรการฝั่งตลาดทุน
a. ปัญหาความเชื่อมั่นและธรรมาภิบาลสำคัญ ต้องมีกลไกกำกับ ส่วนกรณีปัญหาต้องมีแนวทางแก้ไขรวดเร็ว
b. กองทุนวายุภักษ์ มองแนวคิดคล้ายกับ Treasury Stock ในช่วงที่ตลาดขาดความเชื่อมั่น
c. สนับสนุนธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัวไปในเวทีโลก เพิ่มความร่วมมือระหว่างประเทศ
d. ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล
3. กระแสของโลกต้องปรับตัว
- Green Energy บริหารประสิทธิภาพจากเทคโนโลยีใหม่ๆ (เก็บค่าความร้อนในแม่เหล็ก)
- Trade War ต้องบริหารความเสี่ยงในประเทศที่เราเกินดุลการค้า วาง Supply Chain ว่าไทยอยู่ตรงไหน ปรับปรุงสินค้าเกษตรไทยให้มีความโดดเด่น, แตกต่างในระดับโลก ส่วนประเทศที่เรามีข้อเสียเปรียบ ต้องบริหารตามแนวทางโลกปัจจุบัน Protectionism (เน้นสินค้าจีน)
4. ปรับปรุงความล้าหลังระบบราชการ ใช้เทคโนโลยีทดแทน ลดบุคลากรระยะกลาง-ยาว เพิ่มประสิทธิการใช้งบประมาณ
5. โครงสร้างพื้นฐาน
a. รถไฟฟ้าปัจจุบัน 20 บาทตลอดสาย เวนคืนเอกชน (ใช้เม็ดเงินจากการตั้ง Infrastructure Fund) ส่วนรายได้กองทุน มาพร้อมกับผลักดันเปลี่ยนแปลงนิสัยประชาชนเก็บค่าธรรมเนียม Congestion Fee ส่วนเอกชนที่รับสัมปทาน ก็จ้างมาเดินรถ ประชาชนไม่ต้องเสียเวลาท้องถนน เอาเวลาไปสร้างโอกาสอื่นๆ
b. Land bridge ภาพรวมได้รับความสนใจสูงจากต่างชาติ แต่มีแนวคิดปรับจากพัฒนาท่าเรือ 2 ฝั่ง มาทำฝั่งอันดามันก่อน ดึงสินค้ายุโรป อินเดีย ตะวันออกกลาง ไปจีนผ่านรถไฟความเร็วสูง เร่งทำเพิ่มเติมเชื่อมต่อ สายที่อยู่ในแผน
c. ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยแก้ไขปัญหาถาวร ชายทะเลที่มีปัญหากัดเสาะ บางขุนเทียน ปากน้ำ มองถมทะเลทั้งการแก้ปัญหา + สร้างโอกาส
6. ทรัพยากร – พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล นำทรัพยากรขึ้นมาใช้ ช่วยลดต้นทุนพลังงาน ค่าไฟฟ้า ลดภาระประชาชน
7.ปฏิรูปภาษี อาทิ ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้บุคคล รวมถึงแนวคิดใช้ Negative Income Tax, ระบบ VAT เพื่อชดเชย