Daily Focus: ชัดเจน FED เริ่มลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย.

2024 SET Target: 1470

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องแข็งแกร่งกว่าภูมิภาค ปิดบวกได้อีก ถึง 13.84 จุด ที่ระดับ 1,354.87 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นถึง 6.2 หมื่นลบ. ยังได้ Sentiment บวกจากความคาดหวังเชิงบวกต่อพัฒนาการการเมืองในประเทศ รวมถึงกลุ่มธนาคารที่เริ่มทยอยประกาศปันผลงวด 1H24 สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอีก 754 ลบ.และ 2.8 พันลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติพลิกมา Long Index Futures อีก

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,350-1,365 จุด โดยมี Sentiment หนุนจากต่างประเทสหลังถ้อยแถลงของประธาน FED ที่ Jackson Hole Symposium เมื่อคืนวันศุกร์ระบุชัดเจนว่าการลดดอกเบี้ยจะเริ่มต้นในเดือน ก.ย. ขณะที่ไม่คาดว่าตลาดแรงงานจะอ่อนแรง หนุนให้เม็ดเงินยังคงไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึง Bond Yield และ Dollar Index อ่อนตัวลงต่อเนื่อง ส่วนจะปรับลด 25 หรือ 50 bps อยู่ที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. ว่าจะแข็งแรงหรือชะลอตัวมากน้อยเพียงใด ส่วนปัจจัยในประเทศภาพรวมตลาดยังคงคาดหวังเชิงบวกต่อรัฐบาลใหม่ที่คาดจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ภายในเดือน ก.ย. และมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนการฟื้นตัวในช่วงทีเหลือของปียังคงเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Domestic Play โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคอย่าง ค้าปลีก อาหาร ไฟแนนซ์ เป็นต้น ให้สามารถ Outperform ได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าหากดัชนีปูรับเข้าหากรอบเป้าหมายของเราที่ 1,360-1,380 จุด จะเริ่มเห็นการชะลอลดความร้อนแรงระยะสั้นจากสัญญาณเทคนิคที่คาดว่าจะ Overbought อย่างไรก็ตาม คาดการพักตัวจะไม่รุนแรง และ มีปัจจัยหนุ่นรออยู่คือกองทุนวายุภักษ์วงเงิน 1-1.5 แสนลบ.ที่คาดเม็ดเงินจะเข้าสู่ตลาดใน 4Q24 หนุนการฟื้นตัวระยะยาว

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 2H24 แข็งแกร่งต่อเนื่อง // ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้า ยังถือลงทุนต่อเนื่องระยะกลาง-ยาว

หุ้นเด่นเดือน ศ.ค.: BA, CHG, CPALL, ITC, MAGURO

FSSIA Portfolio: AOT, CHG, CPALL, CPN, GPSC, KCG, KTB, SHR, SJWD และ TU

หุ้นเด่น Finansia 26 ส.ค. 24 : TASCO

  • แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 18.57 บาท
  • ระยะสั้นราคาหุ้นมีโอกาสได้แรงหนุนจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาพเหนือที่เริ่มรุนแรงขึ้น หากลุกลามและขยายมายังจังหวัดอื่นๆในภาคกลางตอนบน จะเป็น Sentiment หนุน TASCO จากการซ่อมแซมถนนหลังน้ำลด หนุนความต้องการยางมะตอยในประเทศ
  • ขณะที่ภาพรวมแนวโน้มกำไร 2H24 คาดเร่งตัวขึ้นจาก 1H24 จากการเบิกจ่ายงบฯ67 ที่เร่งตัวใน 3Q24 ขณะที่งบฯปี 68 คาดไม่ล่าช้าอย่างมีนัยยะเหมือนปีก่อน 
  • แนวรับ 16.60-16.40 บาท แนวต้าน 17.20-17.40 บาท 

Fund Flow : เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนในภูมิภาคผสมผสาน สุทธิแล้วยังค่อนไปในทิศทางไหลเข้า US$233 ล้าน นำโดยอินโดนีเซีย US$190 ล้าน รองลงมาคือไทย US$84 ล้าน ส่วนไต้หวันไหลเข้าบาง US$60 ล้าน แต่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$97 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะยังอยู่ในทิศทางไหลเข้าและเร่งตัวขึ้นหลังถ้อยแถลงของประธาน FED ในสัมมนาประจำปีที่ Jackson Hole ส่งสัญญาณชัดเจนว่า FED จะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. ขณะที่ตลาดแรงงานยังแข็งแรง

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) CHG บริษัทคงเป้ารายได้ปี 2024 เติบโต 15% y-y และเป้าอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับปีก่อนโดยช่วง 2H24 จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังเห็น Operation รวมดีขึ้นในช่วง ก.ค.- ส.ค.นอกจากนี้โรงบาลแม่สอดมีรายได้เพิ่มขึ้นและคาดขาดทุนน้อยลงใน 2H24 และประกาศก่อสร้างโครงการโรงพยาบาล CHG Rayong International ขนาด 200 เตียง มูลค่า 1.5 พันลบ. คาดเปิดปี 2026 คงประมาณการและราคาเป้าหมาย 3.60 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) SJWD ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและการซื้อหุ้น 100% ใน SCG International Vietnam และรวมงบการเงินเข้ามาตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2024 จะรับรู้รายได้เต็มที่ในครึ่งปีหลัง ปรับประมาณการปี 2024-26 ลงสะท้อนผลประกอบการที่โตช้าในช่วงครึ่งปีแรก บนสมมติฐานใหม่ที่เราคาดรายได้ปี 2024-26 เติบโตเฉลี่ย +10% CAGR ส่วนกำไรปกติคาดลดลง -11% ในปี 2024 ก่อนเติบโตในปี 2025-26 เฉลี่ย +30% CAGR ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 19.50 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

(+) OSP บริษัทปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 2024 ขึ้นเป็น 7-9% y-y จากเดิม 4-5% y-y โดย 2H24 น่าจะได้เห็นการทำการตลาดสร้างแบรนด์นำเสนอสินค้าใหม่มากขึ้น และขยายตลาดต่างประเทศเริ่มที่ลาว ส่วนเวียดนามเตรียมกลับเข้าไปใน 4Q24 และจะเข้าไปทั้ง Energy drink และ Personal care รวมถึงอินโดนีเซีย ผู้บริหารระบุว่าปี 2024 จะจัดการเรื่อง Divestment ให้เสร็จสิ้น ก่อนเข้าสู่รอบการเติบโตในปี 2025 คงคาดกำไรปกติปี 2024 +36% Y-Y ราคาเป้าหมาย 28 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) SCB จ่ายปันผล 1H24 ที่ 2 บาท/หุ้น ดีกว่าคาด คิดเป็น dividend yield ราว 1.4% XD 5 ก.ย. นี้ แม้การจ่ายปันผล 1H24 ลดลงจาก 1H23 ที่ 2.50 บาท/หุ้น แต่บริษัทชี้แจงว่าเป็นเพราะธนาคารยังมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อแนวโน้มของธุรกิจใน 2H24 ซึ่งหากเป็นไปในทิศทางบวกภาพรวมของ payout ratio ทั้งปี 2024 จะไม่ต่ำกว่า 80% ที่จ่ายในปี 2023 เราคาดปันผลทั้งปี 2024 ที่ 9.78 บาท/หุ้น คิดเป็น payout ratio ที่ 80% คิดเป็น dividend yield ราว 8.9% คงราคาเป้าหมาย 110 บาท ยังแนะนำ “ถือ”

(-) HANA คาดกำไร 3Q24 (ไม่รวมเงินที่จะได้คืนจากกองทุนของ Credit Suisse) ปรับลง q-q แต่จะยังลดลง y-y เพราะฐานอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงใน 3Q23 และคาดหวังกำไรจะกลับมาฟื้นใน 1H25 เมื่อ Demand โดยรวมดีขึ้น โดยเฉพาะจากตลาดจีน และกลุ่ม Automotive อย่างไรก็ตามเราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2024 ลง 22% เป็น 1.7 พันลบ. -14.5% Y-Y และปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 43 บาท จากเดิม 50 บาท downside จำกัด และคาดหวังการฟื้นตัวในปี 2025 ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 462.30 จุด หรือ +1.14% ปิดที่ 41,175.08 จุด เนื่องจากความเห็นของนายประธานเฟด ได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย.

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก ขณะที่ตลาดทั่วโลกปรับตัวขึ้นหลังประธานเฟด กล่าวว่า ถึงเวลาที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง

(0) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสม โดนนักลงทุนต่างประเมิน คอมเม้นต์ของเฟดที่มีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.

(+) ค่าเงินบาทแข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 33.93 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -1.71%

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.82 ดอลลาร์ หรือ 2.49% ปิดที่ 74.83 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังความเห็นของประธานเฟด บ่งชี้ว่า เฟดเตรียมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย. ในขณะที่เช้านี้บวกอยู่ที่ระดับ 75.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.76%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 29.60 ดอลลาร์ หรือ 1.18% ปิดที่ 2,546.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลง หลังความเห็นของประธานเฟด บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย. ในขณะที่เช้านี้บวกอยู่ที่ระดับ 2,550.10 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.15%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 856.12/ -0.07%

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

26 ส.ค.ไทย: ส่งออก (ก.ค.)

สหรัฐ: Durable Goods Orders MoM (ก.ค.)

27 ส.ค.จีน: GDP 2Q24 (Final)
29 ส.ค.สหรัฐ: 2Q24 GDP growth rate (2nd), Initial Jobless Claims
30 ส.ค.ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (ก.ค.)

สหรัฐ: Core PCE price Index y-y (ก.ค.)

31 ส.ค.จีน: NBS Manufacturing PMI (ก.ค.)
- Advertisement -