SET Index อาจพักฐานกรอบ 1,350 – 1,380 จุด อาจเห็นแรง sell off เล็กน้อยจาก Geopolitics และ การพักฐานหลัง SET ปรับตัวขึ้นหลายวันติดต่อกัน

สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน โดยดัชนี DJIA +0.16% จากแรงซื้อของหุ้น CAT (+0.79%) และ AXP (+1.03%) ในขณะที่ S&P500 -0.32% และ Nasdaq -0.85% แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากการเทขายหุ้นกลุ่มเทคฯ (-1.12%) ก่อนการรายงานผลประกอบการของ Nvidia แต่ตลาดได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มพลังงาน (+1.11%) หลังราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นกว่า 3% เนื่องจากกำลังการผลิตที่ลดลงในลิเบีย และ ความตึงเครียดของ Geopolitics จากเหตุการณ์อิสราเอลปะทะฮิซบุลเลาะห์ในช่วงสุดสัปดาห์

  • นอกจากนี้ แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 0.3% จาก 1) ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง 2) สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และ 3) แนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ของเฟดที่ชัดเจนขึ้น โดย CME FedWatch ระบุว่าตลาดให้น้ำหนัก 70% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%
  • ติดตามดัชนี PCE เดือนก.ค. สหรัฐฯ วันศุกร์นี้

SET Index : เราคาดว่า SET Index อาจพักฐานกรอบ 1,350 – 1,380 จุด อาจเห็นแรง sell off เล็กน้อยจาก Geopolitics และ การพักฐานหลัง SET ปรับตัวขึ้นหลายวันติดต่อกัน

  • ปัจจัยในประเทศติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยหากมวลน้ำทวีความรุนแรง
  • จากเหตุการณ์ปี 2011 ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งปีสูงกว่าค่าปกติ 24% จากพายุที่พัดเข้าไทย 5 ลูกตั้งแต่เดือนมิ.ย. – ต.ค. ส่งผลให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ และ ฉุด GDP ไทย ปี 2011 ลดลงกว่า 3.2 แสนล้านบาท (World bank ประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 1.44 ล้านล้านบาท)
  • ในขณะที่ ปี 2022 ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งประเทศมากกว่าปกติ 27% แม้ว่าความรุนแรงและระยะเวลาจะน้อยกว่าปี 2011 แต่ยังสร้างความเสียหายกว่า 5,000 – 10,000 ล้านบาท
  • ด้านสทนช. ประเมินว่าสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบันสร้างความเสียหายในพื้นที่ภาคเหนือ แต่จะไม่รุนแรงเท่าปี 2011 เพียงแต่เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ปรากฏการณ์ลานีญา

หุ้นแนะนำ

  • PTTEP : สถานการณ์ตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง และ สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงการประกาศระงับผลิตน้ำมันน้ำมันของลิเบีย ซึ่งเป็นประเทศกลุ่มสมาชิก OPEC ส่งผลให้ตลาดราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากความกังวลต่ออุปทานน้ำมัน เราคาดว่า PTTEP เป็นหุ้นที่ได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์นี้ นอกจากนี้ PTTEP เป็น Top pick ของเราในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ หลังบริษัททำกำไรสุทธิ 23,978 ล้านบาท (+28.3% qoq) ใน 2Q24 จากปริมาณขายที่แข็งแกร่ง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากแหล่งก๊าซในประเทศ (Take profit : 166.00 / Stop loss : 135.00)
  • LH : LH ทำกำไรสุทธิ 1.02 พันล้านบาทใน 2Q24 ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของเรา 19% LH เผยว่าบริษัทจะเน้นระบายสต็อกพร้อมอยู่ ซึ่งขณะนี้ค่อนข้างสูงหรือเท่ากับ presales 7-8 เดือน (vs. ค่าเฉลี่ยในอดีตที่ประมาณ 3 เดือน) เรามองว่าธุรกิจอสังหาฯ ฟื้นตัวช้า แต่ LH ยังมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจที่ 6.6-7.4% ในปี FY24-25 (Take profit : 9.55 / Stop loss : 4.90)
Daily Global Market 
  • In News:
    • ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนี Dow Jones ปิดบวก 65.44 จุด แตะระดับนิวไฮ เนื่องจากหุ้นวัฏจักร รวมถึงหุ้นทางการเงินกลับมาได้รับความนิยมท่ามกลางการหมุนเวียนออกจากหุ้นเทคโนโลยีก่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่คาดว่า จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า
    • ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งาน 3 ปีขึ้นไปประจำเดือนกรกฎาคมพุ่งขึ้น 9.9% สูงกว่าระดับ 4% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และลดลงจากระดับ 6.9% ในเดือนมิถุนายน
    • FED สาขาดัลลัสเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมในภาคการผลิตของรัฐเท็กซัสประจำเดือนสิงหาคมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -9.7 จากระดับ -17.5 เดือนก่อนหน้า
    • ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนกำลังจะเผยในวันศุกร์นี้ นักลงทุนจับตามองอย่างใกล้ชิดเพื่อหาเบาะแสว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าหรือไม่
    • ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 2.30% วานนี้ หลังเมื่อเดือนที่แล้ว ปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลง 0.20% ขณะเดียวกัน PBOC ได้ระบายเงินสดสุทธิออกจากระบบธนาคารจำนวน Rmb 101 bn.
    • ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสิงคโปร์เดือนกรกฎาคมปรับตัวบวก 1.8% YoY แต่หากไม่นับรวมผลผลิตภาคชีวการแพทย์ ตัวเลขจะปรับขึ้น 3.4%
    • ประกันภัยบ้านออสเตรเลียมีราคาแพงขึ้นจากความเสี่ยงด้านสภาพอากาศที่เพิ่มขึ้น โดย 15% ของครัวเรือนกำลังเผชิญกับความตึงเครียดด้านความสามารถในการจ่ายประกันภัย ณ เดือนมีนาคม 2024 โดยขยับขึ้น 30% จากปีที่แล้ว ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อครัวเรือน 1.61 ล้านครัวเรือน โดยเจ้าบ้านบางรายไม่สามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันได้ ซึ่งอาจทำให้เงินกู้จำนองหลายพันล้านดอลลาร์ตกอยู่ในความเสี่ยง
  • Stock Movement:
    • หุ้น Apple Inc. (AAPL ND) ขยับบวก 0.15% คาดการณ์ว่า การงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของผู้ผลิต iPhone ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 9 กันยายนจะเปิดตัว iPhone และ Apple Watch รุ่นใหม่
    • หุ้น Micron Technology Inc. (MU ND) ขยับตัวร่วงลง 3.83% หลังจาก Needham ลดเป้าหมายราคาหุ้นสู่ระดับ USD 140 จาก USD 150 โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับความต้องการ
    • หุ้น Boeing Co. (BA NYSE) ร่วงลง 0.85% หลังจาก NASA กล่าวว่า นักบินอวกาศสองคนที่ติดอยู่ในวงโคจรที่สถานีอวกาศนานาชาติจะกลับมาในเดือนกุมภาพันธ์หน้าด้วยเที่ยวบินที่ควบคุมโดย SpaceX หลังจากมีปัญหาเกี่ยวกับแคปซูลใหม่ของ Boeing
    • หุ้น Daqo New Energy Corp. (DQ NYSE) ลดลง 3.36% หลังจากผู้ผลิตโพลีซิลิคอนรายงานการขาดทุนช่วง 2Q เมื่อเทียบกับกำไรของปีที่แล้ว เนื่องจากรายได้ลดลงอย่างมาก
    • หุ้น Guardant Health Inc. (GH ND) ดิ่งลง 7.86% หลังจากยื่นข้อตกลงตลาดเปิดเพื่อขายหุ้นมูลค่าสูงสุด USD 400 m. ผ่าน Jefferies
    • หุ้น PDD Holdings Inc. (PDD ND) ขยับลงอย่างรุนแรง 28.51% หลังจากรายงานยอดขายที่อ่อนแอกว่าคาด แสดงให้เห็นว่า การเติบโตของ Temu ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของนักลงทุน
    • หุ้น Meyer Burger Technology AG (MBTN SWX) ปรับตัวลงอย่างมาก 45.09% ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์กล่าวว่า สถานที่ผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ใน Thalheim ประเทศเยอรมนีจะยังคงเป็นแกนหลักของการจัดหา หลังจากระงับแผนสำหรับโรงงานในโคโลราโด ซึ่งขัดกับแผนก่อนหน้านี้
    • หุ้น P/F Bakkafrost (BAKKA OL) ขยับบวก 1.20% หลังจากที่บริษัทเลี้ยงปลาแซลมอน Faroese เผยรายได้ช่วง 2Q ที่ไม่เป็นไปตามคาดการณ์
    • หุ้น CMGE Technology Group Ltd. (0302 HK) ดิ่งลง 7.04% บริษัทคาดว่า จะสิ้นสุดการขาดทุนภายในเดือนมิถุนายน โดยมีขาดทุนสุทธิสูงสุด Rmb 243 m. เมื่อเทียบกับกำไร Rmb 51 m. ปีที่แล้ว การลดลงของรายได้เป็นผลมาจากความล่าช้าในการเปิดตัวเกมใหม่และค่าใช้จ่ายนอกการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่า จะประสบผลสำเร็จมากขึ้นในช่วง 2H2024 หลังเกมใหม่สร้างรายได้
    • หุ้น Esprit Holdings Ltd. (0330 HK) พุ่งขึ้น 9.90% บริษัทคาดว่า จะมีผลขาดทุนสุทธิ 1H2024 ประมาณ Rmb 95 m. ซึ่งต่ำกว่าขาดทุน Rmb 714 m. ปีที่แล้วอย่างมาก การลดลงนี้เป็นผลมาจากกำไรครั้งเดียวหลังการปรับโครงสร้างและการแยกกิจการย่อยในยุโรป ชดเชยด้วยการด้อยค่าและเงินสำรองรวมประมาณ Rmb 3.138 bn.
    • หุ้น Weibo Corp. (9898 HK) ขยับบวก 0.50% CCB International เผยว่า กำไรช่วง 2Q สูงกว่าคาดเล็กน้อย ส่งผลให้คาดการณ์กำไรในปี 2024 เพิ่มขึ้น 1% อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ไม่แน่นอน การคาดการณ์กำไรปี 2025-2026 ปรับตัวลง 3%-5% และราคาเป้าหมายลดลง 11% แต่ให้เรตติ้งหุ้นที่ Outperform
    • หุ้น Woodside Energy Group Ltd. (WDS ASX) ปรับขึ้น 2.09% ผู้ผลิตก๊าซรายใหญ่ของออสเตรเลียคาดว่า จะรายงานการลดลงของกำไรสุทธิพื้นฐานหลังหักภาษี USD 1.11 bn. ช่วง 6 เดือนสิ้นสุดเดือนมิถุนายนในวันนี้ นักลงทุนมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์การทำธุรกิจหลังจากการควบรวมกิจการมูลค่า USD 52 bn. กับ Santos ล้มเหลว
    • หุ้น Aussie Broadband Ltd. (ABB ASX) ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 11.86% หลังจากจ่ายเงินปันผล 4% ให้กับนักลงทุน เนื่องจากรายได้ทั้งปีเพิ่มขึ้น 26% และกำไรเพิ่มขึ้น 21%
    • หุ้น Kogan. com Ltd. (KGN ASX) ปรับเพิ่มอย่างมาก 11.75% หลังจากผู้ค้าปลีกออนไลน์ประกาศจ่ายเงินปันผล หลังทำกำไรได้ในช่วงปี 2023-2024
Sources: aastocks, briefing, businesstimes, cnbc, investing, japantoday, nasdaq, ryt9, thestandard
- Advertisement -