หวังพลังนลท.ต่างชาติช่วย / 1,355- 1,370
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
SET ลงก่อนแล้วค่อยช้อนขึ้นมา คาดช่วงเช้าตลาดจะย่อลงก่อนจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นระหว่างวัน โดยมองแรงกดดันมาจาก Sentiment ลบจากภายนอก หลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง นำโดยดัชนี Nasdaq โดยปรับตัวลงกว่า 1.12% รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีหลัง SMCI ขอเลื่อนการส่งรายงานประจำปี 2024 โดยไม่ได้มีเหตุผลด้านสภาพคล่องหรือค่าใช้จ่าย คาดจะกดดันต่อหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯ ด้านผลประกอบการ 2Q24 ของหุ้น Nvidia ออกมามีรายได้ $30.04 พันล้าน มากกว่าที่ตลาดคาดที่ $28.68 พันล้าน ขณะที่กำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 50.68 มากกว่าที่ตลาดคาดที่ $0.64 แต่เนื่องจากผลประกอบการออกมาหลังตลาดปิดทำการจึงไม่ได้ช่วยหนุนราคาหุ้นหรือดัชนีตลาดมากนัก ขณะที่ปัจจัยหนุนมาจาก 1) การเข้าซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยวานนี้ซื้อสุทธิไปมูลค่ากว่า 1,761.07 ล้านบาท ทำให้มูลค่าการซื้อสุทธิรวม 4 วันอยู่ที่ 6,237.98 ล้านบาท ด้านตลาดตราสารหนี้มีแรงซื้อสุทธิเข้ามาเช่นกัน โดยซื้อในพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวกว่า 10,910 ล้านบาท และมีแรงขายในพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น 971 ล้านบาท ทำให้ค่าเงินบาทเดินหน้าแข็งค่าทดสอบระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มที่มีสัดส่วนนำเข้าสูง เช่น หุ้นที่ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ + มือถือ 2) แรงหนุนงาน Thailand Focus 2024 หลังจบวันแรกของการจัดง้านไป โดยมีตัวแท่นจากฝั่งบริษัทจดทะเบียน เช่น BCP WHA BH GULF ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ รวมถึงผู้ว่าการธปท. และคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ มองสร้างความเชื่อมั่น และแรงหนุนให้ Domestic Stock ส่วนคืนนี้ติดตามตัวเลข GDP สหรัฐประจำไตรมาส 2 และ PCE/Core PCE เดือน ก.ค.เพื่อคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ และ นโยบายการเงินเฟด
กลยุทธ์การลงทุน : 1) Thailand Focus: BBIK, BCP, BH, DELTA, GULF, WHA, ADVANC 2) กองทุนวายุภักษ์: AP, ICHI, TU 3) Domestic Stock : CPALL, BJC, MTC, KTC, TFG 4) ดอกเบี้ยสหรัฐฯขาลง: BGRIM, GPSC และ 5) Selective: PRM,BDMS
ปัจจัยบวก
- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงาน Thailand Focus 2024 ว่ายังไม่เห็นสัญญาณเงินฝืด โดยมีเพียงสินค้าบางรายการที่ราคาลดลง ยังไม่เห็นการลดลงในวงกว้างอีกทั้ง ผู้บริโภคไม่ได้หยุดใช้จ่ายเพื่อรอให้ราคาสินค้าลดลงไปอีก
- รมว.คมนาคม เผยเตรียมเสนอเมกะโปรเจกกว่า 14 โครงการ เข้าที่ประชุม ครม.ชุดใหม่ รวมมูลค่ากว่า 7.98 แสนล้านบาท
- ประธานตลท.เผย กำลังศึกษาการจัดตั้ง Venture Capital ซึ่งอาจจะเป็นรูปแบบกองทุน หรือบริษัทโฮลดิ้ง เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนราย ย่อยเข้ามาร่วมลงทุน มองจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาด ค่าดจะสรุปผลศึกษาภายในปี 67
- เซเลนสกีเผยสงครามกับรัสเซียจะสามารถจบได้ด้วยการเจรจา ซึ่งเตรียมเสนอแผนการเจรจากับไบเดน และผู้เข้าชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐใน New York ณ ที่ประชุม U.N. ภายในเดือน ก.ย. นี้
ปัจจัยลบ
- Penn Wharton Budget Model เผยนโยบายเศรษฐกิจที่นำเสนอโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ขาดดลงบประมาณเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งสูงกว่านโยบายที่นำเสนอโดยรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เกือบ 5 เท่า ที่ขาดดุลงบประมาณเพิ่มเพียง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์
- สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือและภาคกลางในพื้นที่เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร กำลังส่งความเสียหายเป็นวงกว้างกระทบต่อราคาผักสดในประเทศ ทำให้ราคาเริ่มขยับขึ้นบางชนิด มองอาจผลักดันเงินเฟ้อจากราคาอาหารในระยะถัดไป
- ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์เผยตลาดที่อยู่อาศัยยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยลบหลายด้าน เช่น ดอกเบี่ยที่คงตัวในระดับสูง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้า และภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงเกิน 90% ของ GDP แม้ดัชนีความเชื่อมั่นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ในไตรมาส 2 ยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
PICKS OF THE DAY
GULF BUY
- เป้าหมาย 53.00 / 55.00 แนวรับ 50.00
- ปัจจัยหนุนภายนอกหนุน: เงินบาทแข็งค่ามาใกล้ระดับ 34 บาท จากระดับ 36 บาท ในช่วงไตรมาส 2/67 หนุนให้บริษัทมีโอกาสได้กำไรจาก FX นอกจากนี้ตลาดยังคาดว่า FED สหรัฐฯจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. นี้ ซึ่งคาดว่าจะหนุนให้กลุ่มโรงไฟฟ้ากลับมาน่าสนใจอีกครั้ง
- Sentiment บวกจาก Thailand Focus: บริษัทได้เข้าร่วมงานThailand Focus 2024 ของทางตลาด วันที่ 28-30 ส.ค. 67 นี้ ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทเป็นผู้นำของธุรกิจของไทย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจพลังงาน รวมถึงธุรกิจโทรคมนาคม เช่นเดียวกับธุรกิจ Data Center ที่บริษัทมีการลงทุน ถือเป็นธุรกิจรองรับเทรนอนาคต ทางฝ่ายคาดจะได้ Sentiment บวก จากการได้พบปะกับผู้ลงทุนในครั้งนี้
PRM BUY
- เป้าหมาย 8.40 / 8.60 แนวรับ 7.80
- 2H67 แนวโน้มดีกว่าที่คิด: หลังการประ ชุมนักวิเคราะห์มีโทนบวกมากขึ้น จากเกือบทุกธุรกิจที่มีการเติบโตขึ้นทั้ง h-h และ y-y ผลบวกจากเรือใหม่ที่รับเข้ามา อัตราการใช้สินทรัพย์ (U Rate) สูงขึ้น ค่าเช่าเรือ/บริการเพิ่มขึ้น และต้นทุนน้ำมันลดลง มีเพียงขนส่งน้ำมันดิบที่มีเรือ 1 ลำต้องออกไปปรับปรุงเป็นเรือ FSO
- ยังมี upside เพิ่ม: 2H67 จะมีการปิดดีล M&A ในธุรกิจตัวแทนสายเดินเรือ แม้รายได้ไม่มากแต่ต่อยอดไปธุรกิจอื่นได้ และซื้อโครงการพร้อมเรือ Crew Boat 2 ลำ รวมถึงการจัดหาเรือใหญ่ Aframax และ FSU หากได้ทันเป็นส่วนเพิ่มใน 2H67 หรือถ้าไม่ทันเป็นบวกในปี 2568 อีกทั้งในปี 2568 จะมีรับเรือ Crew Boat อีก 2 ลำที่สั่งต่อไว้ และจะสั่งต่อเรือ Tanker อีก 6 ลำรับปลายปี 2568 รวมถึงเรือที่ไปปรับ ปรุงจะกลับมาทำงานในธุรกิจใหม่ FSO ทำให้ปี 2568 ยังโตจากเรือใหม่ที่เพิ่มขึ้น