บล.ฟินันเซีย ไซรัส: 29/08/67

Daily Focus: SET ยังอยู่ในช่วงชะลอระยะสั้น // Nvidia ถ่วง Sentiment 

2024 SET Target: 1470

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ต่อเนื่อง ชะลอความร้อนแรงจากช่วงก่อนหน้า ดัชนีปิดบวกบางๆ 1.41 จุด ที่ระดับ 1,365.72 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.3 หมื่นลบ. กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ประคองตลาด ขณะที่พลังงาน ปิโตรเคมีถ่วงดัชนี สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 1.3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 1.8 พันลบ. (และ Long Index Futures อีก 1.36 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังอยู่ในช่วงชะลอความร้อนแรงระยะสั้น หลังจากปรับตัวแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้า ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,355-1,370 จุด โดยมี Sentiment ลบกดดันจาก Nvidia ที่แม้จะประกาศกำไร 2Q24 และ Guidance ที่ดีกว่าตลาดคาด แต่ด้วยอัตราที่ต่ำลงจากไตรมาสก่อนๆ คาดกดดันหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ตลาดยังรอติดตามมีทั้งผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์คืนนี้ เงินเฟ้อ PCE เดือน ก.ค. คืนพรุ่งนี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสัปดาห์หน้า หากออกมาในระดับต่ำต่อเนื่อง อาจสร้างความกังวลเรื่อง Recession อีกครั้งอย่างเช่นที่เกิดขึ้นต้นเดือนที่ผ่านมา ส่วนปัจจัยในประเทศตลาดยังคงคาดหวังเชิงบวกต่อสถานการณ์การเมืองที่คลี่คลาย และนโยบายเศรษฐกิจจากรัฐบาลใหม่หนุนการฟื้นตัวของดัชนีและกระแสเงินทุนต่างที่ชาติที่ไหลเข้า อย่างไรก็ตาม เราประเมิน Upside ระยะสั้นจะยังจำกัดบริเวณ 1,370-1,380 จุด โดยมีโอกาสเห็นการพักตัวสะสมกำลังเพื่อทะสอบและทะลุผ่านในระยะถัดไป เรายังคาดว่าหุ้นกลุ่ม Domestic Play จะทยอยฟื้นตัวได้ต่อเนื่องตามเศรษฐกิจไทยที่ทยอยฟื้น รวมถึงมีปัจจัยหนุนจากการกลับมาของกองทุนวายุภักษ์วงเงิน 1-1.5 แสนลบ.ที่คาดเม็ดเงินจะเข้าสู่ตลาดหนุนการฟื้นตัวต่อใน 4Q24

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 2H24 แข็งแกร่งต่อเนื่อง // ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้า ยังถือลงทุนต่อเนื่องระยะกลาง-ยาว

หุ้นเด่นเดือน ศ.ค.: BA, CHG, CPALL, ITC, MAGURO

FSSIA Portfolio: AOT, CHG, CALL, CPN, GPSC, KCG, KTB, MTC, NSL, SHR, TU

หุ้นเด่น Finansia 29 ส.ค. 24 : ICHI

• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 19 บาท
• แนวโน้มกำไร 3Q24 ดูดีกว่าที่เคยคาด เบื้องต้นประเมินที่ 380 ลบ. +8% q-q, +16% y-y สวนทางฤดูกาล และดีกว่าโทนที่ได้รับจากประชุมนักวิเคราะห์ในช่วงก่อนหน้า หนุนจากยอดขายชาเขียวที่ยังดีหนุนอัตราการใช้กำลังการผลิตให้ยังเต็มระดับ 80% ขณะที่ค่าใช้จ่ายลดลง
• Sentiment ดูดีขึ้นหลังกำไร 2H24 ที่คาดยังโตต่อ ราคาหุ้นปัจจุบันไม่แพง ซื้อขายที่ระดับ 2024PER ราว 15 เท่า และคาดปันผลระหว่างกาล Yield 3-4% และทั้งปีสูงราว 7% ช่วยจำกัด Downside
• แนวรับ 14.80//14 บาท แนวต้าน 15.50//16 บาท 

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคสุทธิในลักษณะเดียวกับช่วง 2 วันก่อนหน้า US$479 ล้าน ยังนำโดยเกาหลีใต้และไต้หวัน US$316 ล้าน และ US$375 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้าสูงสุดที่อินโดนีเซีย US$136 ล้าน ตามด้วยไทย US$52 ล้าน มีเพียงเวียดนามที่ไหลออกบางๆ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออกหลังผลประกอบการและ Guidance ของ Nvidia ที่ดีกว่าคาดในอัตราที่น้อยลงกว่างวด ก่อนๆ

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) MAGURO แม้ SSSG เดือน ก.ค. ยังติดลบใกล้เคียง 2Q24 ที่ 2-3% y-y ส่วนเดือน ส.ค.เริ่มฟื้นดีขึ้น แต่รายได้รวม 3QTD ปรับขึ้นแรง 30% y-y ทำนิวไฮ หลังรับรู้รายได้สาขาใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผู้บริหารปรับเพิ่มเป้าเปิดสาขาใหม่ปี 2024 เป็น 13 สาขา จากเดิม 11 สาขาและ 4Q24 จะเห็น 2 แบรนด์ใหม่ เป็นรูปแบบ all day dining 1 และร้านญี่ปุ่นแบรนด์ใหม่อีก 1 และจะเปิดต่อเนื่องในปี 2025 อีกราว 12-13 สาขา และจะมีแบรนด์ใหม่ต่อเนื่องอีก 1-2 แบรนด์ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น 3Q24 คาดจะกลับมาฟื้นตัวจากต้นทุนแซลมอนปรับลงกว่า 40% m-m แนวโน้มกำไร 2H24 จะกลับมาฟื้นแรง ลุ้นนิวไฮรายไตรมาสได้ เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 22 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) CPN เราปรับประมาณการกำไรปกติขึ้น 6%/5%/4% ในปี 2024-26 เป็นกำไรปกติปี 2024-26 ขยายตัว 13%/7%/5% ตามลำดับ จาก 1) ปรับเพิ่มรายได้ของธุรกิจที่อยู่อาศัยขึ้น 2) เพิ่มอัตรากาไรขั้นต้นของธุรกิจศูนย์การค้าและธุรกิจที่อยู่อาศัยจากการควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าคาด และ 3) ปรับเพิ่มดอกเบี้ยจ่ายหลังต้นทุนทางการเงินของบริษัทสูงขึ้น แต่คงราคาเป้าหหมาย 83 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ 2024E P/E ถูกที่สุดในรอบ 5 ปี แนะนำ “ซื้อ”

(0) BCH แนวโน้มประเด็นที่ตลาดกังวลอาจเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ สมาคมโรงพยาบาลเอกชนจะขอต่อรองกับ SSO ก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาการรักษาให้ปรับเพิ่ม global budget ของ high cost care (RW>2) และให้การันตีการเบิก RW ส่วนคูเวต BCH มั่นใจว่าจะอยู่ใน list ของโรงพยาบาลที่ Guarantee of payment ผู้บริหารปรับลดเป้ารายได้ปี 2024 ลงเหลือ high single digit โรงพยาบาลในกลุ่มมีการปรับค่ารักษาขึ้นเฉลี่ย 3-5% ตั้งแต่ ส.ค. ARI Radiation Oncology จะเริ่มเปิดให้บริการ ก.ย.นี้ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนส่งต่อผู้ป่วยมะเร็งไปโรงพยาบาลรัฐปีละ 60 ลบ. และคาดว่าจะมีกำไรได้ภายในปีแรก ราคาเป้าหมาย 22 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) FSSIA Portfolio Update เราเพิ่ม NSL MTC เข้า และถอด SJWD ออก ทำให้ล่าสุดหุ้นใน Portfolio ประกอบด้วย AOT, CHG, CPALL, CPN, GPSC, KCG, KTB, MTC, NSL, SHR, และ TU

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 159.08 จุด หรือ -0.39% ปิดที่ 41,091.42 จุด ก่อนการรายงานผลประกอบการของ Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิป AI รายใหญ่ของสหรัฐฯ โดยนักลงทุนจับตาข้อมูลของอินวิเดียอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่ากระแสความนิยม AI จะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนตลาดได้ต่อไปหรือไม่

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มประกันและกลุ่มเคมีภัณฑ์ ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ สอดคล้องกับทิศทางของตลาดสหรัฐฯ วานนี้ โดยมี Sentiment ลบต่อหุ้นเทคในภูมิภาค หลังหุ้น Nvidia ปรับตัวลดลงราว 8%

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 34.07 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ +0.47%

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.01 ดอลลาร์ หรือ 1.34% ปิดที่ 74.52 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดถูกกดดันจากรายงานสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ลดลงน้อยกว่าคาด รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอในประเทศจีน ในขณะที่เช้านี้บวกอยู่ที่ระดับ 74.65 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.17%

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 15.10 ดอลลาร์ หรือ 0.59% ปิดที่ 2,537.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยฉุดตลาดขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ เพื่อ สัญญาณบ่งชี้ทิศทางเงินเฟ้อและแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในขณะที่เช้านี้บวกอยู่ที่ระดับ 2,546.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.34%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 856.12/ –

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- Advertisement -