กังวลเศรษฐกิจถดถอย หรือแท้จริงแค่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แพง

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones ปิดลบ 1.5% กลับมากังวลเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง หลังจากที่รายงานภาคผลิตแย่กว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 4.8% ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน หลังจากมีสัญญาณว่าข้อพิพาทในลิเบียมีแนวโน้มคลี่คลายลง

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคผลิต (ISM PMI) พบว่าออกมาที่ 47.2 ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้เล็กน้อยที่ 47.5 และระดับดังกล่าวต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการหดตัวในภาคผลิตของสหรัฐฯ โดยตลาดหุ้น Dow Jones ปรับลงกว่า 1.5% แต่ S&P500 ปรับลงมากถึง 3.2% รับแรงกดดันหลักๆจากกลุ่ม Technology ทั้งนี้หลายสำนักรายงานว่านักลงทุนกลับมากังวลกับ Recession อีกครั้ง จากตัวเลขเศรษฐกิจที่รายงานออกมาค่อนข้างแย่ อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ได้ให้น้ำหนักเรื่องนี้มากนัก เพราะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับลงเพียงเล็กน้อยและ CME FED Watch ยังให้น้ำหนักส่วนมากราว 62%ในการลดดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงเดิม จึงมองว่าสาเหตุหลักอาจมาจากความแพงของตลาดหุ้นมากกว่า โดยเฉพาะกลุ่ม Technology (เมื่อคืน NVIDIA ปรับลง 9.5% ระยะสั้นระมัดระวังในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA HANA KCE) ส่วนความกังวลเศรษฐกิจถดถอยก็เป็นประเด็นนึงที่ยังต้องจับตาในช่วงถัดไป เพราะก็มีบางสัญญาณบ่งชี้ว่ามีโอกาสจะเกิดขึ้น อาทิ การเกิด Inverted Yield Curve ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรใหม่ๆ นักลงทุนรอติดตามการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี คืนนี้รอติดตาม ตำแหน่งเปิดรับสมัครงานในสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 8.09 ล้านตำแหน่ง

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1350 – 1370 หุ้นไทยมีโอกาสที่จะ Outperform หุ้นโลก (ปรับลงน้อยกว่า) สาเหตุหลักๆ จากอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็น Value Stock และมีความคาดหวังจากนโยบายกระตุ้นของภาครัฐประกอบกับ Valuation SET INDEX ที่ไม่แพง การปรับฐานในวันนี้จึงเป็นโอกาสสะสมมากกว่า ยังแนะนำกลุ่มที่อิงในประเทศ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) การเงิน (MTC SAWAD)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 79.00 บาท)

รายงานกำไรงวด 2Q24 ที่ 6.2 พันล้านบาท (+41%YoY) หลังหักรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 6.1 พันล้านบาท (+37%YoY, +2%QoQ) หนุนจากยอดขายสาขาเดิมของ 7-11 ที่เติบโต 3.8%YoY จากยอดขายกลุ่มอาหารพร้อมทานที่เติบโตดี รวมกับการเติบโตของกำไรของ CPAXT จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Makro +1.8% และ Lotus’s +3.5%) ขณะที่เราคาดว่าแนวโน้มกำไร 2H24 จะเติบโต YoY ต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว

CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 89.00 บาท)

CPN มีกำไรสุทธิงวด 2Q24 ที่ 4,556 ล้านบาท (+24%YoY, +10%QoQ) ถ้าไม่รวมรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 4,411 ล้านบาท (+22%YoY,+6%QoQ ดีกว่าที่เราคาดเล็กน้อย โดยได้รับผลดีจากรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลังมีการโอนคอนโดเพิ่มเข้ามา 2 แห่ง ขณะที่ธุรกิจอื่นยังคงเติบโตเช่นกันรวมถึงการรับรู้รายได้จากการต่อสัญญาเซ็นทรัลปิ่นเกล้าเข้ามาประมาณ 182 ล้านบาท หลังจากใน 1Q24 มีแต่ในส่วนของค่าใช้จ่ายเข้ามา

- Advertisement -